(one short)Conclusion of love บทสรุปของความรัก [mayu x yuki x sakura] 7-4-14

ไรท์รู้ว่าทุกคนคงคิดว่า…. แกหลายเรื่องแล้วน่ะ!!!//โดนตบ

ไรท์ชื่อเบญ เจ้าเดิม มาม่าเรื่องแรกหวังว่าจะไม่ยื้อจนกลายเป็นshort-fic   อย่างที่บอก มายูกิ+ซากุระ

 

ปล.ตามตรงเรื่องนี้โครตจะชั่ววูบ ไม่รู้อีท่าไหนอยากแต่ง//โดนเขกหัว  

ปลล.เปลี่ยนเป็นone-shortน่ะค่ะ

 

 

 

 

 

 

intro

 

 

 

กี่ครั้งแล้วน่ะ ที่น้ำตาของฉันมันใหลออกมา

 

 

 

กี่ครั้งแล้วน่ะ ที่ฉันต้องฝืนยิ้มทั้งๆที่ในใจเจ็บปวด

 

 

 

กี่ครั้งแล้วน่ะ ที่ฉันต้องทนมองเขากับเธอรักกัน

 

 

 

กี่ครั้งแล้วน่ะ ที่ฉันเป็นได้แค่ตัวสำรอง

 

 

 

หึ! ไม่ว่าจะกี่ครั้ง ฉัน มิยาวากิ ซากุระ ก็เป็นได้แค่ทางผ่าน

 

 

 

 

 

 

TBC.

อย่าร้องนะซากุคลุง #เดินไปกอด

1

-ความทรงจำที่ไม่อาจลืม

 

 

 

 

 

 

‘กลับมาแล้วสิน่ะ บ้านเกิดของฉันคาโกชิม่า’

 

 

 

เด็กสาวผิวขาวผมสั้นปะบ่า พึมพำออกมาเบาๆพล่างกระชับเสื้อกันหนาวเพราะเนื่องจากฤดูกาลที่ผิดแปลกทำให้ฤดูกาลที่ควรจะฝนตกกลับหนาวสั่นไปจนถึงกระดูก  เด็กสาวค่อยๆย่างเท้าเข้าไปในบ้านอย่างช้าๆ เธอไม่ได้กลับมาที่นี้มาปี1แล้ว เธอค่อยๆไล้นิ้วมือไปตามสิ่งของต่างๆในบ้านด้วยความคิดถึงก่อนจะชะงักหยุดอยู่รูปๆหนึ่ง รูปในความทรงจำแน่นอนว่าพูดถึงรูปในความทรงจำทุกคนคงจะรู้สึกคิดถึงบุคคลในรูปหรือสถานที่ในรูปแต่สำหรับฉันมันมีแต่…  ‘ความเจ็บปวด’ เป็นความรู้สึกอย่างเดียวของฉันในตอนนี้ ทุกคนหรือหลายๆคนเคยบอกฉันว่าความรักมันเป็นสิ่งที่สวยงามโดยเฉพาะรักแรก… ถึงแม้รักแรกมันจะไม่สมหวังแต่มันก็จะคอยสอนเราเสมอ นั้นเป็นความจริงแต่…ในความสวยงามนั่นมันมีความเจ็บปวดแอบซ่อนอยู่มากมายถึงจะทำเป็นมองไม่เห็นแต่มันก็ยังตราตรึงอยู่ในใจของฉัน ทุกๆคนคงไม่เก็บรักแรกมาคิดเท่าไรนักแต่สำหรับฉัน…มันเป็นตราบาป…ที่ยังคงฝังแน่นลึกอยู่ในใจ!!!

เด็กสาวค่อยๆเดินขึ้นมายังชั้นสองของบ้านก่อนจะหยุดอยู่ที่หน้าห้องของตัวเองและเงยหน้ามองป้ายชื่อห้อง เด็กสาวยิ้มบางๆก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้อง…เหมือนเดิมทุกอย่าง…แม้กระทั้งรูปบนฝาผนัง  เด็กสาวทิ้งตัวนอนอยู่บนเตียงก่อนจะหันมองนาฬิกา 23.50น. วันนี้วันที่14 กรกฎาคม  จะว่าไปเวลานี้เลยสิน่ะ  ช่วงเวลาที่ฉันเป็นฆาตกร!…

 

 

 

 

 

ปีที่แล้ว 23.00น.

 

 

 

 

‘อีกไม่ก็วันเกิดพี่ยูกิแล้วฉันจะเป็นคนแรกเลย!’เด็กสาวผมยาวหน้าตาน่ารักเดินถือกล่องของขวัญเดินวนไปมาอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง เธอเป็นเพียงเด็กผู้หญิงอายุ15ธรรมดาๆคนหนึ่งกำลังรอเวลาเพื่ออวยพรวันเกิดกับรักแรกของตัวเอง ถึงจะเป็นผู้หญิงด้วยกันแต่สมัยนี้มันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

 

 

 

‘นิ มายุ แกน่ะ เป็นแฟนพี่ยูกิริน แกก็ต้องแฮปปี้เบิร์ดเดย์พี่เค้าเป็นคนแรกสิ’เสียงของเด็กผู้หญิงสองคนยืนคุยโต้เถียงกันไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดฉันต้องหลบสองคนนั้น อาจจะเป็นเพราะคำว่าแฟนที่ผู้หญิงพวกนั้นคุยกันก็ได้ ฉันกัดริมฝีปากขมอารมณ์เอาไว้ไม่ให้ทำอะไรที่ไม่ดีออกไป ฉันนั้งหลบแอบฟังสองคนนั่นเถียงกันอยู่นานจนกระทั่ง…ฉันเริ่มจับใจความสำคัญของสิ่งที่สองคนนั่นพูดจนได้

 

 

 

‘เฮ้ย! มายุไหนๆแกก็น่าจะเป็นคนแรก แกขอค้างด้วยแล้วจับพี่เค้ากดซะเลยดิ แกยังไม่เคยไม่ใช่หรอ’

 

 

 

‘ไอ้บ้าจู แกพูดเบาๆหน่อยดิว่ะ อายชาวบ้านเค้า เรื่องนั่นน่ะฉันคิดไว้นานแล้วล่ะ555’

 

 

 

 

 

หึ! น่ารังเกลียดชะมัดทำไมถึงไม่ให้เกียจติพี่เค้าเลย ถึงจะพูดว่าเป็นแฟนแล้วก็เหอะ ทำไมถึงพูดกันอย่างนี้น่ะ พวกผู้ใหญ่คิดได้แค่เรื่องอย่างว่ารึไง

 

 

 

‘เฮ้ย! จะเที่ยงคืนแล้วขอให้โชคดีน่ะเว้ย ฉันไปล่ะ’

 

 

 

‘เออๆ ไปหาป้าเรนะของแกเลยไป!!!!’

 

 

 

‘โห้ววว เดี่ยวตบคว่ำเลยไอ้นี้นิ เล่นตัวแม่เลย ไปล่ะเสียเวลา’

 

 

 

 

คนที่เรียกตัวเองว่าแฟนพี่ยูกิหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคนก่อนจะวางสายไป ไม่นานก็ปรากฎร่างของคาชิวากิ ยูกิหรือพี่ยูกิรินที่ฉันเรียก

 

 

 

“ยูกิรินน นี้ของขวัญ”คนที่เรียกตัวเองว่าแฟนพี่ยูกิยื่นกล่องของขวัญให้พี่ยูกิที่ยังดูงงๆ

 

 

 

“ยังไม่วันเกิดฉันเลยน่ะ”ถึงจะพูดแบบนั่นแต่พี่ยูกิรับของขวัญมา ชิส์ ทำไมแฟนพี่ยูกิไม่หันมาทางนี้เลยน่ะจะได้รู้สักทีว่าใคร

 

 

 

“ก็เค้าอยากให้คนแรกนิ”ยังไม่ทันจะบ่นอะไรไปมากกว่านี้แฟนพี่ยูกิก็หันมาทางฉัน ทำให้ฉันเห็นหน้าเค้าอย่างฉันเจน ฉันเริ่มรู้สึกร้อนๆบริเวณรอบดวงตาไม่นานน้ำตาที่อัดอั้นเอาไว้ก็เริ่ม

ใหลออกมาโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ทำไมเจ็บขนาดนี้น่ะ แค่โดน… ‘หักหลัง’ ทำไมมันเจ็บขนาดนี้น่ะ ทำไมล่ะ พี่มายุไหนบอกว่าจะช่วยฉันจีบพี่ยูกิ ทำไมพี่กลับหักหลังฉันอย่างนี้ ฉันเช็ดน้ำตาก่อนจะลุกขึ้นและวิ่งไปยังถนนใหญ่อย่างไม่คิดชีวิต

 

 

 

‘ปรี๊ดดด ปรี๊ดดดดดดดดดดด’ เสียงและแสงจากรถบรรทุกขนาดเล็ก ทำให้ฉันหันไปมองตอนนี้ขาฉันมันชาจนขยับไปไหนไม่ได้อีกแล้ว ฉันหลับตารอรับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น

 

 

 

‘ปรี๊ดดด โครมมม!!!’  ทะ ทำไม ไม่เจ็บ ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นมาช้าๆ สิ่งที่ฉันเห็นทำให้ฉันสตั๊นไปชั่วขณะ น้ำตาเริ่มเอ่อขึ้นมาอีกครั้ง ร่างกายชาจนพูดไม่ออก

 

 

 

 

“ยูกิรินน!!! ไม่น่ะ ยูกิริน!! ฟื้นสิ! ยูกิริน!!! ฉันยะ อยู่ไม่ได้น่ะถ้าไม่มีเธอ อือออ” พี่มายุวิ่งมาเห็นฉันที่นั้งตัวแข็งทื่อไม่ขยับเขยื้อนกับ….ร่างของพี่ยูกิรินที่ชุ่มไปด้วยเลือด แน่นอนว่าเค้าเลือก

ที่จะวิ่งมาประคองร่างของพี่ยูกิและตะโกนเรียกร่างที่ไร้วิญญาณอย่างบ้าคลั่งก่อนจะหันมามองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยอาฆาตและความโกรธก่อนจะตะโกนคำพูดที่เป็นตราปาบของฉันมาทุกวันนี้ทั้งน้ำตา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“แกมันยัยเด็กฆาตกร!! แกน่าจะตายๆไปซะ!! ไม่ใช่ยูกิริน!!”

 

 

 

 

 

 

“เฮือกกก!” ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ ทำไมต้องฝันเรื่องนี้ด้วยน่ะ วันนี้ไปไหว้หลุมศพพี่กิรินหน่อยดีกว่า เผื่อจะเจอครอบครัวพี่มายุจะได้ขอโทษเค้าซะหน่อย

 

 

 

“อ้าวว ซากุจังลูกกลับมาตั้งแต่เมื่อไรเนี้ย มากินข้าวมาลูก”ฉันยิ้มให้คุณแม่ก่อนจะเดินมานั้งทานข้าวตามที่คุณแม่บอก

 

 

 

 

“อ้าววว ลูกหมา! กลับมาแล้วหรอ”คุณพ่อเมื่อเห็นฉันก็เดินมาล็อคคอก่อนจะขยี้หัวฉันเล่น

 

 

 

 

“โห้ววว พ่อผมยุ้งหมด” ทุกคนจะจับได้มั้ยน่ะ ว่าฉัน…ฝืนแค่ไหน…จะมีใครรู้มั้ยน่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ฉันค่อยๆก้าวเข้ามายังสถานที่แห่งความโศกเศร้า พร้อมกับดอกไม้ช่อใหญ่ ฉันเดินมาเรื่อยๆจนกระทั่งถึงหน้าหลุมศพ หลุมหนึ่ง ฉันย่อตัวลงช้าๆน้ำตาที่อัดอั้นมานานเริ่มหลั่งใหลลงมาช้าๆฉันค่อยๆวางช่อดอกไม้ลงอย่างเบามือถึงฉันจะไม่ได้รักพี่แล้วแต่…พี่ก็เป็นคนที่ทำให้ฉันรู้จักสิ่งที่เรียกว่า…ความรัก…. ฉันใช้หลังมือเช็ดน้ำตาอย่างช้าๆ

 

 

 

“พี่อยู่ที่นั้นเป็นไงบาง ถึงฉันจะรู้ว่าคุยแบบนี้ก็ไม่มีเสียงตอบกลับ ฉันมีเรื่องหลายเรื่องอยากจะเล่าให้พี่ฟังด้วยล่ะ”ฉันพยายามพูดอย่างปกติที่สุด

 

 

 

 

 

“ฉันยอมรับว่าตอนนี้ฉันไม่ได้คิดกับพี่เกินพี่-น้องแล้ว และอีกอย่าง………….. ฉันเจอคนที่ฉันรักแล้วค่ะพี่ช่วยเป็นกำลังใจให้ฉันด้วยน่ะ ขอให้พี่อยู่กับพี่มายุอย่างมีความสุขน่ะค่ะ ถึงหลุมศพพี่มายุจะไม่ได้อยู่ข้างๆพี่แต่…..ฉันคิดว่าหัวใจของเค้าอยู่ข้างๆพี่แน่นอนค่ะ”ฉันพูดก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปจากสถานที่แห่งความโศกเศร้าที่เรียกว่าสุสาน อย่างช้าๆ พี่มายุน่ะหลังจากที่พี่กิรินเสียชีวิต1เดือนต่อมาก็ตรอมใจตายตามพี่กิรินไป ความรักของพวกเค้าช่างเป็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์ทำไมฉันถึงไม่เข้าใจน่ะ แน่นอนว่าพอได้ข่าวเรื่องพี่มายุฉันก็ตัดสินใจไปเรียนต่อที่ฟุกุโอกะ คำตอบเกี่ยวกับว่าความรักคืออะไรนั่น ฉันเชื่อว่าแต่ละคนคงตอบไม่เหมือนกันแต่สำหรับฉันความรักคือ

 

 

 

 

 

 

 

 

“การจากลา”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เพราะการจากลาเป็นสิ่งเดียวที่สามารถทำให้พวกเค้าทั้งคู่อยู่ด้วยกันตลอดไป และเป็นสิ่งเดียวที่สามารถใช้เป็นเครื่องวัดจิตใจได้ว่า ความรักของทั้งคู่นั่นมั้นคงแค่ไหน………………….

แล้วคุณล่ะ…..

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“คิดว่าความรักคืออะไร?……”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

—————————————–

มีตอนสเปเชี่ยลต่อและก็ของแถมด้วยน่ะ

ปล.วันช็อตครั้งแรกไม่ดีขออภัยน่ะค่ะ

ปลล.เม้นแล้วพรุ้งนี้จะส่งของแถมให้น่ะ

ปลลล.อินโทรมันคือเหตุการณ์ก่อนหน้านี้น่ะค่ะ ไม่เกี่ยวกับปัจจจุบัน
 

ซากุจังผู้น่าสงสาร 

ทำไมมาม่า….. อย่างเน้!!!!!
น่าสงสารทั้งเรื่องเลย ฮึกๆ แงๆๆ // อินเกิ๊น
ปล. เป็นกำลังใจให้น้าาาาา จุ๊ฟ

ซากุระจังน่าสงสาร มาหาเราก็ได้นะ *-* // ใช่ป่ะ?
บางคำมันช่างกระแทกตรงใจมากค่ะไรท์ T^T

ซากุระจังน่าสงสาร  

มายูกิไปสะแระ  

ดะ…ดราม่า TT^TT
มายุไปว่าคนอื่นแบบนี้ได้ไง
ตัวเองก็ผิดไม่ใช่หรอ???
#ปกป้องซากุระสุดใจ 555

ซากุระน่าสงสาร ชอบคาแรคเตอร์นี้จังง   

แต่มายูกินี่โคตรโหดเลย     

Special sakura x meru + mio (intro)

 

 

 

 

“ห้าวววว อืมมม” ตอนนี้ฉันกลับมาฟุกุโอกะแล้วฉันบิดตัวไปมาเพื่อไล่ขี้เกียจออกจากตัว ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำตามปกติ เปลี่ยนชุดเป็นชุดนักเรียนและเดินไปที่ห้องครัว เปิดตูเย็นหยิบนมออกมาพร้อมกับเวฟขนมปังแล้วเอามากินเป็นอาหารเช้าง่ายๆสำหรับนักเรียนที่เช่าคอนโดอยู่ ย้ำว่าคอนโด! เพราะว่าคุณพ่อคุณแม่เป็นห่วงฉันสุดๆเลยไม่อยากให้ไปอยู่ร่วมหอพักเรียนเพราะอันตรายสำหรับคนอยู่คนเดียว เลยซื้อคอนโดขนาดค่อนข้างใหญ่ให้อยู่ไปเลยหลังหนึ่ง

 

 

 

‘ติ๊ง! ต๊อง! ติ๊ง! ต๊อง!’ เสียงกดกริ๊งหน้าประตูดังขึ้นเป็นกิจวัติของทุกๆวัน ฉันค่อยๆหยิบกระเป๋านักเรียนเดินไปเปิดประตูอย่างเซ็งๆ

 

 

 

 

“เฮ้ออออ เธอมารอฉันหน้าห้องทุกวันไม่เบื่อรึไง”ฉันถอนหายใจมองคนอายุน้อยกว่าตรงหน้า

 

 

 

 

“ไม่หรอก เพื่อซากุจังเมรุจะพยายาม”ใช่แล้ว เมรุ ทาชิมะ เมรุ เธออยู่ห้องข้างๆฉันกับคุณแม่ของเธอแต่แม่เธอมักจะไปทำงานต่างประเทศบ่อยๆจนต้องอยู่คนเดียว วันแรกที่ฉันเจอเธอ เธอมานั้งร้องไห้อยู่หน้าห้องฉันเพราะไฟดับ ฉันนั้งปลอบอยู่ตั้งนาน

 

 

 

 

“ไม่ต้องทำขนาดนั่นก็ได้ยัยตัวยุ่ง”ฉันพูดก่อนจะขยี้หัวคนข้างหน้าอย่างหมั่นเขี้ยว

 

 

 

 

“อ่า…ซากุจังอ่ะ! ผมเค้ายุ่งหมด”เมรุพูดพล่างทำหน้ายู่ใส่ฉัน

 

 

 

 

“จ้าๆ ไปโรงเรียนกันได้แล้วเดี่ยวสาย”ฉันพูดก่อนจะล็อคห้องและเดินจับมือเมรุลงมาเรื่อยๆจนถึงลานจอดรถ ฉันดึงผ้าคลุมรถออกเผยให้เห็นรถมอเตอร์ไซค์คันเบ้อเริ้ม ซึ่งฉันขี่ไปโรงเรียนกับเมรุทุกวัน ฉันค้อมมอเตอร์ไซค์ก่อนจะใส่หมวกกันน็อคและยื่นหมวกอีกอันให้เมรุที่เอาแต่ยื่นยิ้มอย่างเดียว

 

 

 

 

“ขึ้นมาได้แล้วมั่วแต่ยิ้มเดี่ยวทิ้งไว้นี้ซะเลย”ฉันพูดแกล้งเมรุอย่างขำๆก่อนจะสตาทร์รถรอเมรุ

 

 

 

 

“โถ้วว เค้ารู้น่ะ ว่าซากุจังน่ะไม่ทิ้งเค้าหรอก”เมรุพูดพล่างค้อมมอเตอร์ไซค์ก่อนจะกอดเอวฉันแน่น   ฉันยิ้มนิดๆก่อนจะปิดกระจกหมวกกันน็อคและขับไปโรงเรียนอย่างช้าๆเพราะตอนนี้เพิ่งจะ7โมงเช้า

 

 

 

 

 

ณ โรงเรียนหญิงล้วนฮากาตะ

 

 

 

 

 

ฉันจอดรถก่อนจะถอดหมวกกันน็อคออก เมรุก็เช่นเดียวกันเธอถอดหมวกกันน็อคเสร็จก็เดินมาเกาะแขนฉันแน่น

 

 

 

“ฉันอึดอัดน่ะ มาเกาะทำไม”ฉันถามอย่างงงๆก็ปกติแค่จับมือก็พอแล้วนิ

 

 

 

“โห้วว ซากุจังแฟนคลับเยอะจะตาย ไม่เอาหรอกเค้าจะเกาะอยู่อย่างเนี้ยแหล่ะ”เมรุพูดพล่างเกาะแน่นยิ่งกว่าเดิม

 

 

 

“อืมม วันนี้เห็นว่าจะมีประกาศไปทัศนศึกษาน่ะ”

 

 

 

 

“เหมือนกันเลย อยากไปทะเลด้วยกันจัง”เมรุพูดพล่างเอาใบหน้าถูแขนฉันไปมา

 

 

 

“ไปได้แล้วไปเดี่ยวสายหรอก”ฉันบอกเมรุที่มักจะเนียนเดินไปส่งฉันที่ห้องเสมอ

 

 

 

 

“โห้ววว ซากุจังอ่ะ เค้าไปก็ได้”เมรุพูดก่อนจะทำหน้ายู่และวิ่งขึ้นบันไดไปยังชั้น3ทันที

 

 

 

 

เฮ้อออออออ ยัยเด็กบ๋องนี้ มันรักฉันจริงรึป่าวเนี้ย  ชักไม่อยากบอกแล้วแห่ะ  หลายคนมักคิดว่าเราสองคนเป็นแฟนกันแต่จริงๆแล้วความสัมพันธุ์ของเราทั้งคู่ยังไม่แน่นอนสักอย่าง

 

 

 

 

‘เฮ้ย! ซากุระเป็นไงมั้ง เป็นแฟนกับน้องเมรุยัง’ในขณะที่กำลังคิดเลยเปื่อยเพื่อนจอมโวยวายมุราชิเกะ อันนะก็วิ่งมาตบไหล่ฉันเบาๆ แต่ก็ยังไม่วายแหกปากเสียงดังจนชาวบ้านเค้าได้ยินไปทั่ว

 

 

 

“เบาๆดิเว้ย ฉันอายชาวบ้านเค้า”ฉันพูดพล่างทำตาดุๆใส่อาเนีย

 

 

 

 

“จะอายทำไมว่ะเค้าคิดกันไปทั้งโรงเรียนแล้วว่า เอซชมรมบาตเก็ตบอล มิยาวากิ ซากุระ กับน้องเมรุดาวรุ้งชมรมว่ายน้ำเป็นแฟนกัน 555”

 

 

 

“ไอ้บ้านี้ถ้าไม่หยุดแหกปากฉันจะเอาหัวแกชู้ตลงแป้นบาตรแทนลูกบาตเลย”ฉันผลักหัวอาเนียเบาๆเป็นเชิงเอาจริง

 

 

 

 

“เออๆ”อาเนียพยักหน้าเบาๆ  ฉันและอาเนียเดินมายังล็อคเกอร์เก็บรองเท้า ฉันเปิดล็อคเกอร์ตามปกติก็พบกับซองจดหมายสีชมพูหวานที่ไม่ว่าจะดูยังไงมันก็จดหมายรักชัดๆ

 

 

 

 

“เฮ้ยๆๆ จากน้องมิโอะชมรมดนตรีนี้ เฮ้ย! มีอีกอันว่ะ”อาเนียพูดพล่างถือวิสาสะหยิบจดหมายอีกซองออกมา

 

 

 

 

“โอ้วว ซองนี้เจ้าเดิม น้องเมรุ”อาเนียเมื่อดูเสร็จก็ส่งให้ฉัน

 

 

 

 

“เมรุพอเดาออกน่ะว่าส่งมาเรื่องเดิมแค่บอกให้กลับบ้านด้วยกัน แต่น้องมิโอะนี้สิ…”ฉันทำหน้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด อาเนียจึงคว้าซองมาเปิดอ่านเอง

 

 

 

 

“เอออ…เขียนว่า..เอออ.. พี่คิดว่าเมรุชอบพี่หรอ คิดผิดแล้วล่ะ หนูต่างหากที่เป็นแฟนเมรุ ถ้าพี่ไม่เชื่อมาที่ล็อคเกอร์เปลี่ยนเสื้อผ้าชมรมว่ายน้ำตอน5โมงเย็นสิ … เค้าว่างั้นน่ะ”อาเนียอ่านให้ฉันฟังเบาๆเพราะกลัวคนรอบๆจะได้ยิน

 

 

 

 

 

“แก…จะไปมั้ย..ถ้าไปให้ฉันไปเป็นเพื่อนมั้ย”อาเนียรู้ว่าฉันลำบากใจที่จะไปคนเดียวเลยอาสาไปด้วย ฉันพยักหน้าเบาๆเพราะ การถูกท้าครั้งนี้ มันอาจจะช่วยให้ฉันหลุดพ้นจากความไม่แน่

ใจได้ ก็เป็นแน่

 

 

 

 

ณ ล็อคเกอร์ชมรมว่ายน้ำ

 

 

 

“อืมมม 5โมงแล้วยังไม่มาเลย กลับกันเลยมั้ย”อาเนียพูดขึ้นเมื่อเลยเวลานัดแล้ว

 

 

 

 

“อืมม กลับเหอะ โดนหลอกล่ะมั้ง”ฉันพูดก่อนจะลุกขึ้นจากม้านั้งเตรียมออกไปข้างนอกแต่

 

 

 

 

“เฮ้ย! ซากุระ นั้นน้องเมรุกับน้องมิโอะใช่ป่ะ”อาเนียชี้ให้ฉันดูตรงฝั่งล็อคเกอร์อีกข้างสิ่งที่ฉันเห็นคือ  มิโอะกำลัง……ค้อมเมรุ…โดยที่ปากของทั้งคู่กำลังประกบกัน    หึ! ฉัน…โดนหลอกอีกแล้วสิน่ะ  ทำไมน้ำตามันถึงใหลลงมาล่ะเนี้ย ทั้งๆที่โดนหักหลังมันต้องโมโหแท้ๆ ทำไมฉันถึงเจ็บ….  ภาพตรงหน้ามันทำให้ฉันเจ็บ… เพราะอะไรไม่รู้ทำให้ขาของฉันมันขยับเอง แค่รู้สึกว่าอยากหนีไปไกลๆจากตรงนี้ก็แค่นั้น

 

 

 

 

‘ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด’  ขาของฉันหยุดรถในสถานการณ์ที่คล้ายๆกับครั้งนั้น มันต่างกันแค่ตรงที่ไม่มีอีกแล้ว…ความกลัว…ความกังวล…และไม่อยากตาย…ตอนนี้ฉันคิดเพียงอย่างเดียวคือ…

 

 

 

 

 

 

 

 

 

…….อยากหนี…หนีไปจากโลกอันแสนหลอกลวงแห่งนี้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

‘ปรี๊ดดดดดดด โครม!!!’

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

—————————————

อ้ากกก ซาคุคลุง ไม่น้าาา

 

ปล.ของแถมเลื่อไปก่อนน่ะ จนกว่าตอนสเปเชี่ยลจะจบ และรอไรท์เขียนเสร็จด้วย

 

 

ปลล.รถซากุจัง

 

อย่าร้องนะซากุคลุง #เดินไปกอด

มาม่าเยอะละ ขอของหวานบ้างเซ่ !!!!

Special sakura x meru (the end)

 

 

 

 

 

 

‘ปรี๊ดดดดดดด โครม!!!’

 

 

 

 

 

“เจ็บ… แต่คงไม่เท่ากับความเจ็บปวดที่ฉันได้รับจากเธอหรอน่ะ… เมรุ…”

 

 

 

 

 

Meru part

 

 

 

ฉันถูกรุ่นพี่มิโอะนัดออกมาที่ล็อคเกอร์ห้องชมรมฉันไม่รู้หรอกว่าเพราะอะไร

 

 

 

“มีอะไรรึปล่าวค่ะรุ่นพี่”ฉันเอ่ยทักรุ่นพี่มิโอะที่นัดนั้งออกมา

 

 

 

 

“นั้งลงก่อนสิ พี่มีอะไรจะบอก”ฉันนั้งลงตามที่รุ่นพี่มิโอะบอก ทันใดนั่นรุ่นพี่มิโอะก็พุ่งมาจูบฉัน ฉันตกใจมากแต่พี่มิโอะเอาแรงมาจากไหนไม่รู้ฉันพยายามผลักรุ่นพี่มิโอะออกแต่ก็ต้องชะงัก

เมื่อฉันเห็นซากุจัง วิ่งผ่านหน้าไปและ…ร้องไห้อีกด้วย ฉันรวบร่วมกำลังทั้งหมดผลักรุ่นพี่มิโอะออกก่อนจะวิ่งตาซากุจังไปโดยไม่สนรุ่นพี่มิโอะที่ยื่นอยู่เลยสักนิด

 

 

 

 

“ซากุจังงงงง!!!!”ฉันตะโกนขึ้นอย่างตกใจเมื่อร่างของซากุจังถูกรถชนจนกระเด็น เลือดเริ่มใหลซึมออกมาจากร่างกายอย่างช้าๆ  ฉันรีบวิ่งไปประคองร่างของซากุจังทันทีเข่าก็ทรุดน้ำเริ่มเอ่อล้นออกมารอบๆดวงตา

 

 

 

 

“เฮ้ย! ซากุระ ฮะ ฮะโหลโรงพยาบาลหรอค่ะคือว่า…”รุ่นพี่อาเนียที่เพิ่งมาถึงรีบกดเบอร์โทรหาโรงพยาบาลทันที

 

 

 

 

“อื้ออออ ซากุจัง ฟื้นสิ อื้ออออ”ฉันร้องไห้ไปพูดไปจนฟังไม่รู้เรื่องไม่นานรถพยาบาลก็มาถึง…

 

 

 

 

 

3เดือนผ่านไป

 

 

 

 

ซากุจังสลบไป3เดือนแล้วก็ยังไม่มีทีท่าจะฟื้นขึ้นมา ฉันนั้งจ้องร่างกายที่ซูบผอมมีสายห้อยระโยงระยางไปทั่ว น้ำตาของฉันเริ่มเอ่อร้นขึ้นมาอีกครั้ง เป็นเพราะฉันแท้ๆไม่งั้นซากุจังก็คงไม่เป็นแบบนี้

 

 

 

 

“ซากุจัง3เดือนแล้วน่ะ ทำไมไม่ฟื้นสักที เราสัญญากันว่าจะไปทะเลด้วยกันไม่ใช่หรอ อาทิตย์หน้าเค้าจะไปกันแล้วน่ะ”ฉันพูดกับร่างที่ไร้สติ กุมมือของเธอแน่นถึงแม้ว่ามันจะไม่มีแรงตอบกลับเหมือนอย่างเคย ฉันฟุบหน้าลงกับเตียงก่อนจะค่อยๆหลับตาเข้าสู่ห่วงนินทราไปในที่สุด

 

 

 

 

1อาทิตย์ต่อมา

 

 

 

 

ด้วยความที่ยุ่งสุดๆตลอดหนี่งอาทิตย์ฉันเลยไม่ได้ไปเยี่ยมซากุจังเลยตั้งแต่วันนั้นฉันยังหวังอยู่เล็กๆว่าซากุจังจะมา แต่มันจะเป็นไปได้ไงล่ะเนอะ ฉันเดินขึ้นมาบนห้องพักหลังจากเสร็จกิจกรรมซึ่งปกติจะต้องพักห้องละ3คนแต่ไม่รู้ทำไมฉันถึงได้อยู่ห้องเดี่ยว

 

 

 

 

“นิ คิดถึงฉันมั้ย”ฉันชะงักทันทีที่ได้รับอ้อมกอดที่อบอุ่นจากด้านหลังฟังจากน้ำเสียงฉันก็รู้แล้วว่าใคร น้ำตาที่ไม่ได้ใหลมา1อาทิตย์เริ่มหลั่งใหลออกมาอีกครั้ง

 

 

 

 

“ฉันขอโทษน่ะที่โกหก ฉันฟื้นได้เดือน1แล้วน่ะ ฉันแค่อยากรู้ว่าเธอรักฉันจริงรึป่าว”สิ่งที่คนตรงหน้าพูดออกมาทำเอาฉันน้ำใหลหนักกว่าเดิมด้วยความน้อยใจ

 

 

 

 

“ฉันไม่โกรธซากุจัง ระ หรอก”ฉันพยายามพูดโดยไม่ให้มีเสียงสะอื้น

 

 

 

 

“ไม่ร้องน่ะคนดี”ซากุระพูดพร้อมกับจูบที่เปลือกตาเมรุเบาๆ

 

 

 

 

 

 

 

…ความรัก…มันเป็นเรื่องที่ซับซ้อน…

 

 

 

จริงมั้ย?…แต่…ถ้าหากเราใช่ใจมองน่ะ….

 

 

 

…เราก็จะรู้ว่ามัน…ไม่ซับซ้อนเลยสักนิด…แค่คน2คนเข้าใจกัน

 

 

 

…มันก็เพียงพอแล้ว… สำหรับความรักในแบบของฉัน…

 

 

 

 

แล้วคุณล่ะ…

 

 

 

 

ความรักของคุณคืออะไร?…

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

———————————-

เสร็จแล้วพาร์ทจบแบบงงๆ//โดนตบ

ปล.ของแถมจะส่งทีเดียวตอนเย็นๆน่ะค่ะ เขียนเสร็จแล้ว

เพิ่งได้เข้ามาอ่าน
ฮรื่ออออออ มายูกิช่างน่าเศร้า ไปดีนะ;_;
สงสารซากุระ แต่ในที่สุดก็สมหวังแล้วดีใจด้วย;w;

น่ารักจะน่ารักเกินไปแล้ว ฟินนนนนนน

คู่นี้น่ารักโคต>//////<

รายชื่อคนที่จะได้ของแถมน่ะค่ะ ไม่มีชื่อใคร หรือใครเพิ่งอ่านแล้วอยากอ่านก็บอกน่ะค่ะ

 

ปล.เขียนครั้งแรกไม่ดีขออภัยน่ะค่ะ ไรท์จะจัดส่งตอน5โมงเย็นน่ะค่ะ

 

 

ABC29

 

Flamela

 

MerLiNNy_DG

 

mn666

 

Mayu_akb48

 

GdoubleN

 

Dreamer

 

KIRI_PANG

 

ปล2.เหมือนจะส่งเกินไปคนหนึ่ง เป็นใครขออภัยน่ะค่ะ

อ่าว มายูกิ ฉันลั้ลลาบนสวรรค์ เลยสินะ 

ว่าแต่ ทำไมกิรินเลือกที่จะตาม ซากูระล่ะ 

 

ปม มันต้องมีสิ ทำไม ทำไม ทำไม 

โอ้ มายูกิไปทั้งคู่เลยเเหะ T^T สงสารซากุระจังงง 

มิโอะตันไม่น่าหรอกก.. ~ พี่กิรินเป็นคนดีชะมัดด

ตอนแรกนึกว่าซากุคุงจะเอามีดไล่แทงซะอีก #พลาด
มายูกิลั้ลลาบนสวรรค์กันเลยทีเดียว
กระอักกับของแถมมากค่ะ •,,• ขอบคุณค่ะ *กราบงามๆ*

อ่าว มายูกิ ฉันลั้ลลาบนสวรรค์ เลยสินะ 

ว่าแต่ ทำไมกิรินเลือกที่จะตาม ซากูระล่ะ 

 

ปม มันต้องมีสิ ทำไม ทำไม ทำไม