[OS] Santa Claus is comin’ to town??? [Wmatsui]

– Santa Claus is comin’ to town??? –

 

 

  number of word: 1,737

 

 

 

       อากาศหนาว… ทำให้ใจเหงา

 

 

ฉันได้ยินคำพูดเหล่านี้มาหลายต่อหลายครั้ง และเข้าใจมันได้อย่างลึกซึ้ง

 

 

ยิ่งในวันที่คนทั่วไปมักออกมาเดินเที่ยวกันเป็นคู่ ๆ อย่างวันคริสต์มาสที่ใกล้จะมาถึง ยิ่งตอกย้ำความเหงาที่เกิดขึ้นในใจของผู้หญิงวันยี่สิบกว่า ๆ ได้ดีนักแล

 

 

ถ้าฉันขอของขวัญคริสต์มาสปีนี้ เป็นความรัก…. ซานตาคลอสจะเอามันมาส่งให้ฉันมั้ยนะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

****************

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

             You better watch out. You better not cry. You better not pout. I’m telling you why. Santa Claus is coming to town. Santa Claus is coming to town…..

 

 

 

             ฉันหยุดฟังเพลงที่เปิดอยู่ในร้านสะดวกซื้อ เช้าวันคริสต์มาสแบบนี้ ที่ไหน ๆ ก็เปิดเพลงคริสต์มาสกันทั้งนั้น จริง ๆ คงจะเปิดต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วมั้ง บรรยากาศมันก็ดูสนุกสนานอยู่หรอกนะ แต่ว่า… สำหรับคนที่ไม่มีใครนี่มันคือวันหายนะชัด ๆ

 

 

รีบ ๆ ซื้อของแล้วกลับห้อง น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนอย่างฉัน

 

 

 

 

 

 

*****************

 

 

 

 

 

 

                ฉันหิ้วถุงพะรุงพะรังกลับมาถึงที่อพาร์มเมนต์ ตรง Lobby มีต้นคริสต์มาสเล็ก ๆ ที่ประดับด้วยของตกแต่งมากมาย รวมทั้งไฟประดับหลากสีที่แข่งกันกระพริบไม่หยุดไม่หย่อน

 

 

วันนี้คู่รักทั้งหลายคงรอเวลาที่จะได้ออกไปเดทกัน ส่วนเธอน่ะหรอ อาจจะ…ดื่มเบียร์พร้อมกับดูหนังแผ่นคนเดียวในห้องที่เต็มไปด้วยความเหงาละมั้ง

 

 

                พอขึ้นมาถึงห้อง และไขกุญแจเข้าไป ปิดประตู เปิดไฟ วางของไว้ในครัว เปิดเครื่องทำความร้อน เช็คความเรียบร้อยของห้อง ก่อนจะมองออกไปนอกระเบียง เห็นแวบ ๆ เหมือนคนใส่หมวกสีแดงยืนอยู่ คงจะเป็นซานตาคลอส

 

 

                เดี๋ยว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

 

 

                ซานตาคลอสอะไรกันเล่า

 

 

ฉันหันกลับไปมองที่ประตูระเบียงอีกครั้ง และ

 

 

 

 

                “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!

 

 

 

 

ร้องออกมาสุดเสียง กับแขกที่ไม่ได้รับเชิญที่ยืนอยู่ที่ระเบียงห้องฉัน ฉันรีบเดินไปและคว้าเอาร่มที่อยู่แถวนั้นขึ้นมา ก่อนจะเปิดประตูระเบียงเตรียมหวดคน ๆ นั้นทันที

 

 

 

                “แกเป็นใคร”    ฉันตวาดเสียงดัง และพร้อมหวดแบบไม่ต้องให้บอก

 

                “ใจเย็นก่อน ๆ”    เขาบอกพร้อมยกมือห้าม ซ้ำร้ายยังยิ้มให้ฉันอีก คิดว่าฉันตลกนักหรอ ที่เห็นใครก็ไม่รู้มายืนอยู่ในห้อง    “คือ ฉันเป็นซานตาคลอสน่ะ”

 

 

 

คำอธิบายบ้าบออะไรวะ ฉันง้างแขนสุดแขนเตรียมฟาดร่มใส่เขา อย่างน้อยเขาก็เป็นผู้หญิง แรงของฉันคงจะพอฟัดพอเหวี่ยงอยู่

 

 

 

                “ซานตาคลอสบ้าบออะไร”    ถึงจะใส่หมวกซานตาคลอสก็เหอะ แต่ไอ้เสื้อโค้ท กับกางเกงยีนส์เนี่ย มันเป็นชุดฟอร์มของซานตาคลอสไปตั้งแต่เมื่อไหร่    “ถ้าเธอไม่มีคำอธิบายดีพอ ฉันฟาดเธอตกไปแน่ ๆ ลองดูมั้ย”

 

                “โอเค ๆ”   เขาพยายามยกมือกันฉัน และถอยไปพิงขอบระเบียง    “คือ จริง ๆ เมื่อคืนฉันมานอนกับผู้หญิงคนหนึ่งน่ะ แล้วเช้านี้สามีเขามา ฉันก็เลยหนีออกมาทางระเบียง”

 

                “พูดจริงหรอ”   ฉันถามเสียงตกใจ

 

                “พูดเล่น”

 

 

 

แล้วดูคำตอบของเขาสิ ฉันว่าฉันควรจะฟาดเขาได้ซักที แบบนี้ โจรแน่ ๆ เป็นโจรแหง ๆ

 

 

 

 

 

                 “เธอตั้งใจจะเข้ามาขโมยของห้องฉันใช่มั้ย”   ควรจะทำอะไรต่อดี ฟาดหัวให้สลบ แล้วแจ้งตำรวจ หรือตะโกนให้คนมาช่วย

 

                “นี่คุณจำฉันไม่ได้จริงดิ”   เขาถาม แล้ว… ทำไมฉันต้องจำโจรในคราบซานตาคลอสคนนี้ได้ด้วยล่ะ    “ฉันอยู่ห้องข้าง ๆ คุณเนี่ยแหละ เรื่องจริงคือ เมื่อคืนฉันไปปาร์ตี้มาน่ะ เพิ่งกลับมาถึง แต่พอกลับมาก็เพิ่งรู้ว่ากุญแจห้องฉันหายไป”

 

 

                “นี่พูดจริง”

 

                “อันนี้เรื่องจริงล้านเปอร์เซ็นต์”    เขายืนยันเสียงหนักแน่น

 

                “แล้วทำไมไม่ให้คนดูแลมาเปิดห้องให้”    เรื่องอะไรฉันจะเชื่อคำเขาง่าย ๆ ขนาดนั้นล่ะ

 

                “ก็คนดูแลไม่อยู่นี่ ฉันขี้เกียจรอ อยากอาบน้ำจะแย่ ก็เลย… ปีนออกมาทางบันได แล้วเลาะมาตามระเบียง คือ ฉันไม่ได้ปิดประตูระเบียงน่ะ…”  

 

 

 

เขาตอบพร้อมยิ้มกว้าง แต่ฉันยังไม่วางใจเท่าไหร่ ร่มในมือฉันพร้อมฟาดเขาอยู่ตลอด

 

 

 

                “ฉันไปก่อนแล้วกัน โทษทีนะ ที่รบกวน”

 

 

 

แค่โทษทีนะที่รบกวนงั้นหรอ ฉันมองเขาที่กำลังปีนระเบียงห้องฉัน และกระโดด…

 

 

              กระโดด!!!!

 

 

กระโดดข้ามไประเบียงห้องตัวเองที่ความสูงห้าชั้น ไม่กลัวตกไปตาย…

 

 

 

                “โครม!!!

 

 

 

ยังไม่ทันที่ฉันจะคิดจบ ฉันก็ได้ยินเสียงดังมาจากทางระเบียงห้องเขา ฉันตกใจจนต้องรีบออกไปดูที่ระเบียง ก่อนจะเห็นเขาค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนตรงระเบียงห้องของเขา พร้อมเก็บถังหลายใบที่ล้มระเนระนาด

 

 

 

                “เซฟ เซฟ”

 

 

 

เขายกนิ้วโป้งมาทางฉันพร้อมยิ้มกว้าง แต่ฉัน…เล่นเอาฉันใจหายใจคว่ำเลย นึกว่าเขาตกลงไปข้างล่าง ถ้าเกิดตายขึ้นมา… โอย แค่คิดก็ขนลุกแล้ว

 

 

 

 

                ฉันมองเขาเดินเข้าไปในห้อง ก่อนที่ฉันจะส่ายศีรษะ นี่มันวันคริสต์มาอะไรของฉันเนี่ย มีเรื่องตื่นเต้นซะอย่างนั้นน่ะ ควรจะเหงาสิ เวลานี้ฉันควรจะเหงา ให้มันเข้ากับเทศกาลทำร้ายคนโสดสิ

 

 

 

 

 

 

 

**************

 

 

 

 

 

 

 

                กริ๊ง!!!!

 

เสียงกริ่งแบบโบราณดังขึ้นในห้องของฉัน อพาร์ทเมนต์ก็ออกจะใหม่ ทำไมไม่ติดเสียงกริ่งที่ประตูให้ดูดีกว่านี้บ้างนะ ฉันถอนหายใจ แล้วเดินไปเปิดประตู

 

 

และคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็คือคนที่ทำให้ฉันหัวใจเกือบวายไปเมื่อชั่วโมงก่อน เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย และก็ไม่มีหมวกซานต้าอยู่บนหัว เขายืนยิ้มแหย ๆ ให้ฉันที่หน้าประตู

 

 

 

                “มีอะไรอีก”   ฉันถามสงสัย

 

                “คือ… เอานี่มาขอโทษคุณน่ะ ที่ทำให้คุณตกใจ”    เขายื่นห่อคุกกี้มาให้ฉัน ฉันตัดสินใจรับมา และมองดูคุกกี้รูปทรงประหลาด    “ทำเองน่ะ”

 

 

 

ฉันมองหน้าเขาแบบไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ เขาหัวเราะนิด ๆ แล้วเอามือเกาหัวตัวเอง คงไม่รู้จะเอามือไปไว้ตรงไหนหละมั้ง

 

 

 

                “ขอโทษอีกทีนะ ไม่คิดว่ามีคนอยู่น่ะ”

 

                “คราวหลังคุณก็ควรจะรอผู้ดูแลมาเปิดประตูให้นะ ไม่ใช่ทำแบบนี้”

 

 

 

เขาพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้ม ก่อนเขาจะมองเลยเข้าไปในห้อง

 

 

 

                “คุณทานข้าวอยู่หรอ”

 

                “เอ่อ…”   ฉันหันมองโต๊ะทานข้าว มองกับข้าวที่ฉันเพิ่งเริ่มทานไปได้ไม่กี่คำ   “ใช่”

 

                “มีเหลือมั้ย”

 

                “หืม”

 

                “คือ… พอดีว่าที่ห้องไม่มีอะไรติดไว้เลยน่ะ แล้วขี้เกียจออกไปข้างนอก”   เขาพูดผ่านรอยยิ้มเกร่อ ๆ ของเขา    “ขอกินข้าวด้วยได้มั้ย”

 

                “ฉันต้องให้คนที่ทำบุกรุกเข้ามาที่ห้องของฉัน ทำฉันตกใจแทบแย่ และยังเป็นคนแปลกหน้าสำหรับฉัน เข้ามาทานข้าวด้วยอย่างนั้นหรอ”

 

                “เอ่อ… จูรินะ ฉันชื่อ จูรินะ มัตสึอิ จูรินะ แล้วคุณ…”

 

                “เอ๊ะ…”   ฉันแปลกใจ แต่พอเวลาโดนถามชื่อ ฉันมักตอบออกไปโดยสัญชาตญาณ    “มัตสึอิ เรนะ”

 

                “โอเค เรนะซัง เราสองคนรู้จักกันแล้ว ดังนั้น ฉันไม่ใช่คนแปลกหน้า ทีนี้จะให้ฉันเข้าไปกินข้าวด้วยได้รึยัง”

 

 

 

 

                หน้าด้านสุด ๆ!!!!!!!!!!!!!!!!!!

 

 

 

 

ฉันคิดในใจ แต่ดูท่าทางต่อให้ฉันว่าเขาไปเขาก็คงไม่สะทกสะท้าน ไอ้รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้า ฉาบเอาไว้หรอ ถึงได้ไม่หยุดยิ้มสักที

 

 

และฉันก็ยอมปล่อยให้คนที่บุกเข้ามาในระเบียงห้อง แถมยังทำฉันตกใจแทบแย่ แต่…ไม่ใช่คนแปลกหน้า??? เข้ามาในห้องของฉัน และนั่งทานข้าวร่วมโต๊ะกับฉัน

 

 

 

 

                “ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะ เรนะซัง”   เขาบอกพร้อมวางตะเกียบ หลังจากที่ทานข้าวเสร็จ    “รอดตายไปอีกมื้อ”

 

 

 

ฉันไม่ได้พูดอะไรกับเขา นอกจากมองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้แคร์อะไรบนใบหน้าฉันเลย

 

 

 

                “ว่าแต่ คุณไม่ออกไปไหนหรอ”

 

                “ออกไปไหนคือ…”   ฉันถามสงสัย

 

                “ก็วันคริสต์มาสแบบนี้ คนส่วนใหญ่ก็มักจะออกไปเดทกับแฟน”

 

                “นี่ตั้งใจกวนประสาทกันใช่มั้ย”    ถามเรื่องแฟนกับฉันเนี่ยนะ ถ้าฉันมีฉันก็ไม่นั่งแกร่วอยู่แบบนี้หรอก ให้ตายสิ

 

                “แสดงว่ายังไม่มีแฟน”    และก็สรุปออกมาได้หน้าตาเฉย กับคนที่เพิ่งรู้จักกันครั้งแรก เขาเป็นคนยังไงกัน    “งั้นคืนนี้คุณก็ไม่มีอะไรทำน่ะสิ”

 

                “มี”    ฉันตอบรับเสียงหงุดหงิด   

 

                “ทำอะไร”

 

                “ดู DVD โต้รุ่ง”

 

 

 

เขาหัวเราะออกมาทันทีกับคำตอบของฉัน

 

 

 

                “ดูหนังแผ่นหรอ น่าเบื่อจะตาย ไปดูหนังที่โรงกันดีกว่า”    เขาพูดเสียงรัว ๆ    “ฉันเลี้ยงเอง ถือว่าขอบคุณสำหรับข้าวเช้า”

 

                “เธอชวนฉันไปดูหนัง”

 

                “เปล่า”

 

 

 

อ้าว!!!!! แล้วมันอะไรล่ะ

 

 

 

                “ฉันชวนคุณไปเดท”

 

 

 

เขาตอบพร้อมยิ้มกว้างยิ่งกว่าเดิมสามเท่าตัว ฉันมองหน้าเขา ขออึ้งไปสักสิบวินาทีได้มั้ย

 

 

 

                “เอาเป็นว่าตามนี้แล้วกัน สัก…”    เขามองนาฬิกาในห้องของฉัน   “ทุ่มนึง ฉันมาหาที่ห้อง ตกลงนะ”

 

 

 

และก็ไม่รอคำตอบด้วย เดินลิ่ว ๆ ออกจากห้องฉันไปเฉยเลย รวบรัดตัดตอนสุด ๆ แล้วฉันล่ะ… ฉันหันมองนาฬิกา เพิ่งจะสิบโมงเช้า

 

 

 

แต่…ฉันคิดข้ามฉอตไปตอนกลางคืนเรียบร้อย… ฉันควรจะแต่งตัวยังไงดีล่ะ นี่ขนาดงง ๆ กับคนแบบเขานะ

 

 

จากที่เหงา ๆ จะกลายเป็นปวดหัวแทนละมั้ง

 

 

คิด ๆ ดูแล้ว นี่มันเกิดอะไรกันแน่ หรือว่า…. นี่จะเป็นของขวัญคริสต์มาสที่ฉันได้รับจากซานตาคลอส

 

 

ความรักงั้นหรอ… จะใช่หรือไม่ใช่ล่ะเนี่ย กับเขาคนนั้นเนี่ยนะ

 

 

ถ้าใช่ขึ้นมา ซานตาคลอสเนี่ย ก็คงเป็นคนที่…

 

 

 

 

          กวนมากเลยสินะ

 

 

 

 

*******************

 

 

 

 

END

 

 

 

 

 

 

 

 

 

===================================

 

ซานตาคลอส????

 

OS สั้น ๆ รับวันคริสต์มาส ละกันครับ

 

Merry X’mas ครับผม

จูรินะของพี่ >W<
เชอะๆ ของขวัญแบบนี้หาที่ไหนได้บ้างนิ
ขอบคุณสำหรับฟิคดีๆค่ะ

จะว่าดีก็ดี
จะว่ากวนก็กวนนะซานต้า 555
คุณเรคงจะบ่นทั้งวันเป็นแน่ ฮ่าๆ

คงเป็นคู่รักที่ดูไม่เข้าขากันที่สุดเลยก็ว่าได้ wwww

เรนะซัง มีคนมาก็รีบคว้าเถอะค่ะ ถ้าพลาดเดี๋ยวขึ้นคาน

ซานต้ากวนๆคนนี้น่ารักนะเรนะ เก็บไว้ๆ อิอิ

จริงๆเจ้านี่มันหน้าด้านตั้งแต่แต่งเรื่องไปนอนกับสาวแล้วผัวเค้ามาเจอแล้วนะ -..-

กวนตีกันหน้าด้านๆเลย เรนะจะไร้เงาคานก็ปีนี้แหละ *0*

กวนนนนนนนนติงงงมากกกกกก 555555555

ไม่ใช่ว่าจูรินะแอบมองอยู่แล้วเหรอคะ ได้อกาสเลยจีบเลย *3*

เอ่อ.. หน้าด้านสุด ๆ อะจู 55555 แถมยังกวนส้นอีก
แต่ก็เอาเถอะนะเรนะ ซานต้าจัดให้ก็.. คว้าไว้เต้อะ

เรนะอย่ารอช้า! รีบคว้ายัยซานต้าจอมกวนเลยยย!!! >.<

ซานต้าจู ถือว่าเป็นของขวัญที่สุดยอดเลยล่ะ 

ดีจะตายเรนะ อยู่ดีๆก็มีคนมาชวนเดทเฉย

เรนะคะ บางทีก็เป็นคนที่โชคดีเกินไปนะ 

เป็นลมเถอะ 55555 อยากได้ภาคต่อมากกกก

จูจังมาเร็ซเคลมเร็ว

รวดรัดตัดตอน ทำเอาเฮียงงเลย

5555