[FIC] オムライス ♨︎ ข้าวห่อไข่สื่อรัก ♨︎ [SayaMilky] เสิร์ฟจานที่ 17 : 09/07/16 : 21:52

Fiction “SayaMilky”

オムライス

♨︎ ข้าวห่อไข่สื่อรัก ♨︎

 

ஐﻬ ﻬஐ ஐﻬ ﻬஐ ஐﻬ ﻬஐMenuஐﻬ ﻬஐ ஐﻬ ﻬஐ ஐﻬ ﻬஐ

 

₪₪₪₪₪ เสิร์ฟจานที่ ₪₪₪₪₪

 

 

₪₪₪₪₪ เสิร์ฟจานที่ ₪₪₪₪₪

 

 

₪₪₪₪₪ เสิร์ฟจานที่ ₪₪₪₪₪

 

 

₪₪₪₪₪ เสิร์ฟจานที่ ₪₪₪₪₪

 

 

₪₪₪₪₪ เสิร์ฟจานที่ ₪₪₪₪₪

 

 

₪₪₪₪₪ เสิร์ฟจานที่ ₪₪₪₪₪

 

 

₪₪₪₪₪ เสิร์ฟจานที่ ₪₪₪₪₪

 

 

₪₪₪₪₪ เสิร์ฟจานที่ ₪₪₪₪₪

 

 

₪₪₪₪₪ เสิร์ฟจานที่ ₪₪₪₪₪

 

 

₪₪₪₪₪ เสิร์ฟจานที่ ₪₪₪₪₪

 

 

₪₪₪₪₪ เสิร์ฟจานที่ 11 ₪₪₪₪₪

 

 

₪₪₪₪₪ เสิร์ฟจานที่ 12 ₪₪₪₪₪

 

 

₪₪₪₪₪ เสิร์ฟจานที่ 13 ₪₪₪₪₪

 

 

₪₪₪₪₪ เสิร์ฟจานที่ 14 ₪₪₪₪₪

 

 

₪₪₪₪₪ เสิร์ฟจานที่ 15 ₪₪₪₪₪

 

 

₪₪₪₪₪ เสิร์ฟจานที่ 16 ₪₪₪₪₪

 

 

₪₪₪₪₪ เสิร์ฟจานที่ 17 ₪₪₪₪₪

 

อยากเป็นสะไภ้บ้านนี้ กับใครก็ได้ 555555555555 #ผิดๆ

โอ้ยยยย เลิ๊ฟข้าวห่อไข่ อยากกินนนนน//เกี่ยวมั้ย

รอมิ้วออก หุหุ

หิวเลย…5555 ติดตามค่า

55 แค่เห็นรูป น้ำลายก็จะไหลแล้ว 55 เย้ >< ซายะมิ้ลกี้ ~

เขาบอกว่าผู้ชายทำอาหารเป็นจะมีสเน่ห์ ?? ฮาาาาา

 

แต่แอบอยากรู้นาจังจะมีคู่กับเขาไหม 

 

แต่รูปอีโมนี้นึกถึงบ่อน้ำพุร้อนเลย

หิวข้าว…. ซะงั้น

มารอคิว อยากชิมใจจะขาดอยู่แล้ว!!!

อยากเป็นสะไภ้บ้านนี้ กับใครก็ได้ 555555555555 #ผิดๆ

.

.

.

เสิร์ฟจานที่ 1

 

 

 

 

            ร้านอาหารฝรั่งเศสที่เปิดมานานกว่า 60 ปี ภายในร้านตกแต่งอย่างเรียบง่ายสไตล์ยุโรป แต่ก็ไม่ได้ละทิ้งความเป็นญี่ปุ่นไปซะหมด ทีเด็ดของร้านไม่ได้อยู่ที่อาหารฝรั่งแต่อย่างใด กลับเป็นข้าวห่อไข่ที่ราดด้วยเดมิกราซอสรสเข้มข้น เป็นรสชาติที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็ต่างติดใจ เป็นเดมิกราซอสสูตรที่ไม่มีร้านไหนเลียนแบบรสชาติได้

 

 

 

            …กรุ๊งกริ๊ง…

 

 

 

“กลับมาแล้วค๊า…” เสียงน้องสาวคนกลางเปิดประตูหน้าร้าน (หน้าบ้านนั่นแหละ) แล้วเดินเข้ามาในครัวเพื่อทักทายพี่สาวคนโตที่กำลังง่วนอยู่กับการปรุงแต่งเดมิกราซอสให้เหมือนกับรสชาติที่คุณพ่อทิ้งไว้

 

 

 

“กลับมาแล้วหรอ” ซายากะตักซอสที่เพิ่งปรุงเข้าปากก่อนที่จะพูดตอบรับนาจัง

 

 

 

            นาจังยิ้มรับก่อนจะวางกระเป๋านักเรียนไว้ตรงเคาท์เตอร์ และตรงดิ่งไปยังหม้อเดมิกราซอส

 

 

 

“เมรุจังล่ะ” ฉันถามขึ้นเมื่อน้องเดินมาอยู่ใกล้ ๆ

 

 

“อยู่ซ้อมฟุตบอลกับชมรมค่ะ ก็กลับเย็น ๆ เป็นปกติเหมือนทุกวันหนิคะ ถามทำไมหรอ” นาจังทำหน้าสงสัย

 

 

“นั่นซินะ…” ฉันได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ แล้วปรุงรสหารสชาติที่มันใช่ต่อไป ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

 

 

 

            นาจังมองพี่สาวของตัวเองทำเดมิกราซอสอยู่ซักพัก

 

 

 

“พี่คะ…แล้ว…เราจะเปิดร้านกันเมื่อไหร่หรอคะ”

 

 

“ก็คงเร็ว ๆ นี้แหละ เอ้อ! ถ้านาจังไม่มีอะไรทำที่โรงเรียนก็มาช่วยที่ร้านทีได้มั้ย”

 

 

“ได้อยู่แล้วค่ะ”

 

 

 

            นาจังตอบรับคำขอของฉันโดยไม่คิดซักวินาที น่ารักจริง ๆ เลยน๊า…น้องสาวฉัน

 

 

 

“งั้นมานี่เลย” ฉันละจากเดมิกราซอส แล้วเริ่มการสอนทำอาหารต่าง ๆ ที่เป็นเมนูของร้าน นาจังเองก็ฟังอย่างตั้งใจ พยักหน้ารับรู้ และมองดูฉันแสดงตัวอย่างไม่วางตา

 

 

 

            วิธีทำ และรสชาติที่ถ่ายทอดมาจากรุ่นคุณปู่ มายังคุณพ่อ และต่อมาก็คือฉัน มันกำลังถ่ายทอดไปยังนาจัง น้องสาวของฉันอีกคน ความหวังที่จะเปิดร้านในเร็ว ๆ นี้ มันเป็นไปได้มากกว่าเดิมเยอะเลยล่ะ

 

 

.

 

 

.

 

 

.

 

 

.

 

 

.

 

 

 

            หลังจากแยกย้ายกันกับเพื่อนในชมรม เมรุก็เดินกลับบ้านพร้อมกับโยนลูกฟุตบอลที่อยู่ในมือให้ลอยเหนือมือนิด ๆ และคอยรับ ทำอยู่อย่างนั้นเพื่อให้มีอะไรทำระหว่างเดินกลับคนเดียว

 

 

 

 

“อย่ามายุ่งกับฉันนะ!” เสียงเล็ก ๆ ของเด็กสาวคนหนึ่ง กำลังถูกหนุ่มวัยรุ่น 2 คนกำลังฉุดกระชากลากถู เหมือนกับพวกที่ชอบชวนเด็กนักเรียนสาว ๆ ไปเที่ยว แต่ใครจะไปกับมันกันล่ะ …เด็กผู้หญิงคนนั้นน่ารักใช่เล่นแหะ โชว์แมนโดยที่ไม่ต้องเจ็บตัวหน่อยดีกว่าเรา

 

 

 

            ฉันมองลูกฟุตบอลที่อยู่ในมือ และจ้องไปยังวัยรุ่น 2 คนนั้น ตั้งสมาธิให้มั่น นึกถึงหลักการเตะ และ สุภาสิตไทยที่ว่า “ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว” ฉันจะทำให้ดู “เตะลูกฟุตบอลครั้งเดียวโดนหัวมันทั้งสองคน” เป็นยังไง เอาล่ะ…

 

 

 

            เมรุจังวางลูกฟุตบอลไว้บนหลังเท้าก่อนจะเดาะบอล 2 – 3 ที ครั้งสุดท้ายเดาะให้มันลอยขึ้นไปบนอากาศเหนือศีรษะขึ้นไป รอจังหวะที่ลูกฟุตบอลกำลังทิ้งตัวลงมา …ง้างขาไปข้างหลังและใส่ไปที่ลูกฟุตบอลเต็มแรง…ไปเลยลูกพ่อ!!! (?)

 

 

 

            …ขอร้องเถอะนะ…โดนหัวเต็ม ๆ เลยเถอะ

 

 

 

            ตุ๊บ ตุ๊บ ตะลุบตุ๊บ ปัง ปุ้ง แผละ …ลูกฟุตลอยไปกระทบกำแพงก่อนที่จะไปโดนหัวคนแรก และเด้งไปโดนคนที่สอง โชคดีที่ไม่โดนเด็กผู้หญิงคนนั้น…แม่นเหมือนกันแหะ

 

 

 

“เยส!” เมรุกำหมัดแน่นทำท่าดีใจเมื่อเห็นผลงานของตัวเอง เด็กวัยรุ่น 2 คนนั้นล้มลงไปนอนกับพื้น ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บ เด็กผู้หญิงคนนั้นมองมาที่ฉันด้วยสีหน้าตกใจปนอึ้งนิดหน่อย

 

 

 

            ฉันรีบวิ่งไปหาเด็กผู้หญิงคนนั้นก่อนจะจับมือเธอวิ่งหนีก่อนที่พวกนั้นมันจะลุกขึ้นมาได้อีก แต่แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้นก็หยุดวิ่ง พาให้ฉันหยุดวิ่งไปด้วย

 

 

 

“หยุดวิ่งทำไมอ่ะ เดี๋ยวพวกมัน…” ไม่ทันที่ฉันจะได้พูดต่อ เด็กผู้หญิงคนนั้นก็วิ่งไปหยิบลูกฟุตบอลของฉัน และยื่นให้ฉัน

 

 

“เอ่อ…ขอบใจนะ ที่จริงไม่ต้องเก็บมันก็ได้ ห่วงตัวเองก่อนดีกว่ามั้ย นู้นน่ะ” หันเบ้หน้าไปที่ชายหนุ่ม 2 คนนั้นที่กำลังลุกขึ้นมา เด็กผู้หญิงรีบหันมามองฉันด้วยสายตาอ้อนวอน ให้ตายซิ…

 

 

 

            ฉันรับลูกฟุตบอลมา ก่อนจะจับมือเธออีกครั้ง และพาเธอวิ่งหนี …หนีจนแน่ใจแล้วว่าสองคนนั้นไม่ตามมาแล้ว เหนื่อยชะมัดเลย..แต่ว่าดูท่าทางอีกคนคงเหนื่อยมากกว่าฉันหลายเท่าเลยแหะ

 

 

 

“นั่งอยู่ตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวไปกดน้ำมาให้” ฉันพาเธอไปนั่งที่ม้านั่งใกล้ ๆ

 

 

 

            เมรุกำลังจะก้าวเดินไปที่ตู้กดน้ำ แต่โดนเด็กผู้หญิงคนนั้นดึงชายเสื้อไว้

 

 

 

“มะ…ไม่เป็นไร” เสียงเบา ๆ ดังลอดออกจากลำคอของเด็กสาว

 

 

“ไปส่งฉัน…หน่อย…ได้มั้ย” เธอเงยหน้าขึ้นมามองฉัน แววตาที่เป็นประกาย แต่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่ถึงอย่างนั้น…ดูยังไง ๆ ฉันก็ว่าเธอ…น่ารักชะมัดเลย -////-

 

 

“บ้านเธออยู่ไหนล่ะ” เพียงแค่ยอมไปส่ง เธอก็ยิ้มออกมาทันที //ฉ่า….ทำไมมันร้อนที่หน้าแปลก ๆ

 

.

 

 

.

 

 

.

 

 

.

 

 

.

 

 

            ภายในห้องเช่าที่ค่อนข้างเล็ก ราคาถูก แต่ก็จัดตกแต่งอย่างสวยงาม และสะดวกสบาย เหมาะกับการอยู่กันแค่สองคนพี่น้อง

 

 

 

            คนพี่ “มิรุกิ” เป็นพนักงานบริษัทธรรมดา แต่งานอดิเรกของเธอคือ การได้ไปกินอาหารตามร้านอาหารต่าง ๆ และเอามาวิจารณ์ลงในบล็อกของตัวเอง ที่ตอนนี้มีแฟน ๆ ติดตามมากพอสมควร และ คนน้อง “มาโกะ” เด็ก ม.ปลาย ธรรมดา ๆ ที่รักการทำอาหาร แต่ก็ออกมาไม่ได้เรื่องทุกครั้งไป

 

 

 

            วันนี้มีเพื่อนของมิรุกิที่ร่วมตระเวนกินอาหารมาเยี่ยมที่บ้าน มาโกะจึงมีโอกาสโชว์ฝีมือการทำอาหาร โดยได้คำเตือนจากพี่สาวของเธอ ว่า “ขออร่อย ๆ นะ อย่าทำไหม้อีกล่ะ”

 

 

 

            “ติ๊งหน่อง ๆ”

 

 

“พูดถึงก็มาพอดีเลย” มิรุกิบ่นกับน้องเสร็จก็เดินไปเปิดประตูให้เพื่อนสาว

 

 

 

            เมื่อประตูเปิดออก…

 

 

 

“Hi~~~~~” ปรากฏร่างหญิงสาวตัวเล็กนามว่า “โอบะ มินะ” หรือ “มินารุน”

 

 

 

            เจอหน้ากันก็จุ๊บซ้ายจุ๊บขวาทักทายกันแบบฝรั่ง ก่อนจะเพื่อนเข้าไปข้างใน

 

 

 

“แกลืมคอไว้ที่บ้านหรือเปล่า” ฉันเดินนำมาที่โซฟารับแขก พร้อมกับแซวเพื่อนสนิทไปด้วย

 

 

“ไม่ได้ลืม! นี่ไงคอฉัน อย่ามาล้อกันนะยะ” ถึงจะบ่นแบบนั้นก็เถอะ แต่มินารุนก็ไม่ได้สนใจคำล้อของฉันหรอก ตั้งใจจะตบมุกไปอย่างนั้นแหละ

 

 

 

            เราสองคนหัวเราะกันเสียงดัง คุยเม้ากันอย่างกับไม่เจอกันมาชาติหนึ่ง…

 

 

 

“แก…เมื่อวานฉันขับรถผ่านร้านอาหารร้านนึง แต่เหมือนว่ายังไม่เปิดกิจการ เอ๊ะ! หรือว่าปิดตัวไปแล้ว”

 

 

“อะไรของเธอเนี่ย ยังไงกันแน่” ฉันพูดเหมือนไม่ได้สนใจที่มินารุนพูดมากนัก เพราะกำลังอัพเดทบล็อกของตัวเอง และกำลังตอบคอมเม้นแฟน ๆ ในโน้ตบุ๊ค

 

 

“จริง ๆ นะ จะว่ายังไม่เปิดกิจการ แต่ร้านก็ดูเหมือนเปิดมาหลายสิบปีแล้ว จะว่าปิดตัวมันก็เหมือนกับ…บอกไม่ถูกอ่ะแก แกต้องไปดูให้เห็นกับตา แล้วแกจะเข้าใจฉัน”

 

 

 

            มินารุนพยายามอธิบายให้เพื่อนรักเข้าใจ

 

 

 

“เออ ๆ เอาเป็นว่าฉันเข้าใจแล้วกันนะ แล้วร้านนั้นอยู่แถวไหนอ่ะ”

 

 

“เหมือน ๆ จะแถวโรงเรียนไคโตะนะ”

 

 

“เห๊! ก็แถวโรงเรียนมาโกะจังน่ะซิ ทำไมฉันไม่เคยเห็นน๊า…” หรือเพราะว่าฉันไม่ค่อยได้ไปแถวนั้น เพราะมาโกะก็ไปโรงเรียนเอง เราก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปแถวนั้น

 

 

 

            ในเมื่อมันอยู่ใกล้โรงเรียนของมาโกะจัง ถามเจ้าตัวเลยดีกว่า…

 

 

 

“มาโกะจัง…รู้จักร้านอาหารที่อยู่แถว ๆ โรงเรียนบ้างมั้ย” ฉันไม่ต้องตะโกนเสียงดังมาก เพราะครัวก็อยู่ใกล้ ๆ นั่นแหละ

 

 

“เห๊! ก็มีหลายร้านนะคะ ไม่เจาะจงแบบนี้หนูตอบไม่ได้หรอกค่ะ” มาโกะที่วุ่นอยู่กับการไล่ลมชิ้นเนื้อสับ

 

 

“แล้วร้านที่กำลังเปิดกิจการ หรือร้านที่ปิดตัวลงแล้วล่ะ มีมั้ย” เป็นมินารุนที่ถามขึ้นมา

 

 

“อืม…ที่บอกมาไม่มีหรอกค่ะ แต่แบบปิดชั่วคราวก็มีนะคะ” คำตอบของมาโกะทำให้สองเพื่อนซี้หันมายิ้มให้กันอย่างมีหวัง

 

 

“เป็นร้านของพ่อเพื่อนหนูเองแหละ พอดีว่าพ่อของเขาเสียเลยต้องปิดร้านชั่วคราวน่ะค่ะ”

 

 

“แล้ว…เขาจะเปิดเมื่อไหร่อ่ะ” มิรุกิถามอย่างสนอกสนใจ

 

 

“คิดว่าอีกไม่นานหรอกค่ะ เพราะว่าพี่สาวของนาจังก็รับช่วงต่อมาแล้ว”

 

 

“แต่ว่า…จะทำได้ดีเหมือนเดิมหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ ไม่เคยไปกินตอนคุณพ่อเขายังอยู่ด้วยแหะ” มิรุกิชักไม่แน่ใจรสชาติอาหารของร้านนี้เสียแล้ว

 

 

“เชื่อมือพี่ซายาเน่ซิคะ รายนั้นทำอาหารอร่อยโคตร” มาโกะอวยซายากะพี่สาวของเพื่อนตัวเองจนออกนอกหน้า จึงทำให้มิรุกิ และมินารุนเกิดอาการหมันไส้เล็กน้อย

 

 

“แล้วเธอทำไมไม่ไปฝึกวิชามาจากเขาเลยล่ะ จะได้ทำของอร่อย ๆ ให้พี่กินบ้าง ไม่ใช่อะไรก็ไม่รู้”

 

 

 

            มินารุนผู้รับชะตากรรมทุกครั้งที่มาหามิรุกิ

 

 

 

“ใครบอกว่าไม่ได้ไปฝึกมาล่ะคะ วันนี้คอยดูเถอะ จะทำให้อึ้งกับอาหารของหนูเลย”

 

 

“อึ้งแบบไหนดี เค็มปี๋ เผ็ดจี๊ด เปรี้ยวปรี๊ด หรือหวานจนแสบคอ”

 

 

“พูดไปเถอะค่ะ เพราะยังไงวันนี้หนูก็มั่นใจ สูตรพี่ซายาเน่”

 

 

“จ้า ๆ ถ้าสูตรพี่ซายาเน่ของหนู ทำให้พี่ท้องเสียล่ะก็ จะไปถล่มถึงที่ร้านเลยคอยดูเถอะ”

 

 

 

            มิรุกิไม่เชื่อใจฝีมือการทำอาหารของน้องสาวเลยซักนิด ถึงจะบอกว่าฝึกมาจากคนที่ชื่อซายาเน่อะไรนั่นก็เถอะนะ

 

 

.

 

 

.

 

 

.

 

 

.

 

 

.

 

 

            ตกค่ำน้องทั้งสองคนก็กลับมาถึงบ้าน กำลังเตรียมตัวลงไปทานข้าวข้างล่าง ก่อนจะลงไปข้างล่างเตรียมอาหาร ซายาเน่เดินมาหยุดอยู่ตรงรูปถ่ายครอบครัว ที่ติดกับฝาผนังบ้าน …มองภาพนั้นด้วยน้ำตาที่คลอนิด ๆ …รู้สึกคิดถึง…

 

 

 

“คุณพ่อคะ หนูจะไม่ทำให้คุณพ่อผิดหวัง ทั้งเรื่องเลี้ยงน้อง และเรื่องร้าน หนูจะทำให้ดีที่สุด หนูจะพยายามนะคะ คุณปู่ คุณพ่อ คุณแม่ เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ”

 

 

 

            ซายาเน่บอกความในใจกับบุคคลที่ล่วงลับผ่านภาพถ่าย ไม่รู้ว่าเขาทั้งหลายจะรับรู้หรือไม่ สิ่งที่ฉันอยากจะให้เขารับรู้ อยากจะบอกให้เขาทำอะไรบางอย่างเพื่อให้รู้ว่าเขารับรู้แล้ว แต่ไม่เอาล่ะ…มันหลอนเกินไป เอาเป็นว่าได้บอกความในใจก็สบายใจแล้ว

 

 

 

            ระหว่างรับประทานอาหาร น้อง ๆ ดูเอร็ดอร่อยกับอาหารที่ฉันทำ ยิ่งเฉพาะกับเมรุจังนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย จานที่ 2 แล้วก็ยังไม่พอ จะกินเยอะไปไหนเด็กคนนี้ มันอร่อยขนาดนั้นเชียวหรือไงนะ

 

 

 

“นี่เมรุจัง เบา ๆ หน่อย กินจานเดียวก็น่าจะพอแล้วนะ กินเยอะเดี๋ยวอ้วนเป็นหมูหรอก” นาจังบ่นน้องสาวที่กินเอา ๆ แต่เหมือนเมรุจังจะไม่สนคำบ่นของนาจังซักนิด

 

 

 

“ไปอารมณ์ดีมาจากไหนห๊ะเรา” ฉันเพิ่งสังเกตว่ามันผิดปกติตั้งแต่เมรุจังกลับมาถึงบ้านแล้ว เดินเต้นแร้งเต้ากาเข้ามาในบ้าน แถมยังจูบลูกฟุตบอลสุดรักสุดหวงของตัวเองอีก

 

 

 

            หรือว่าจะมีความรักกันนะ…

 

 

.

 

 

.

 

 

.

 

 

.

 

 

.

 

 

            ในที่สุดอาหารฝีมือมาโกะที่ผ่านการขัดเกลาจากซายาเน่ก็เสร็จครบ 3 คน มาโกะรู้สึกมั่นใจกับอาหารจานนี้เป็นพิเศษ และตั้งความหวังเอาไว้สูงเหมือนกัน

 

 

“มาแล้วค๊า…แฮมเบิร์กสเต็กเนื้อ สูตรพี่ซายาเน่ ขอบอกว่าอร่อยมาก”

 

 

 

 

 

 

 

            มาโกะยกอาหารมาเสิร์ฟพี่ ๆ อย่างกุลีกุจอ มิรุกิและมินารุนมองการตกแต่งในจาน กลืนน้ำลายลงคอทันที หน้าตาหน้าทานใช่ย่อย แต่เมื่อคิดว่าเป็นมาโกะจังเป็นคนทำ หน้าตาก็เริ่มแหยทันที

 

 

 

“ทำไม่ทำหน้าอย่างนั้นกันล่ะคะ ทานเลยค่ะทานเลย” มาโกะยุให้พี่ ๆ เริ่มทานกันซักที แล้วเฝ้ามองปฏิกิริยาตอบรับอย่างมีความหวัง…ว่ามันจะอร่อย

 

 

 

            มันกินได้จริง ๆ นะมาโกะจัง ฉันได้แต่มองหน้าน้องสาวที จานสเต็กตรงหน้าที แล้วก็ตัดสินใจหยิบมีด และส้อม เริ่มบรรจงหันชิ้นเนื้อสับย่างนั้นอย่างบรรจง

 

 

 

            เมื่อได้มาหนึ่งชิ้นพอดีคำ ยกขึ้นมาไว้บนหน้า กลิ่นหอมเชิญชวนให้ลิ้มลอง มองมินารุนเพื่อขอความช่วยเหลือถ้าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้

 

 

 

            ฉันค่อย ๆ นำชิ้นที่อยู่บนส้อมเข้าปากอย่างช้า ๆ ลิ้นสัมผัสกับรสชาติของซอสที่ราดเนื้ออยู่เป็นอันดับแรก …หอม…ความหวานของเนื้อค่อย ๆ ละลายในปาก …อื้ม…นุ่ม…

 

 

 

            …อร่อย…

 

 

 

            ฉันหลงไปกับรสอาหารได้ไม่นาน ก็เริ่มตั้งสติได้…น้องสาวฉันทำอาหารอร่อย! ฉันทำตาโตตกใจมองไปที่มาโกะที่ประสานมือยิ้มให้ฉัน เชิงถามว่าเป็นยังไง

 

 

 

“พี่ว่าคนที่ชื่อซายาเน่นี่สุดยอดไปเลยนะ” มิรุกิพูดจบก็กินต่อทันที และนั่นทำให้มาโกะยิ้มออกมาอย่างดีใจ

 

 

 

“แสดงว่าอร่อยใช่มั้ยคะ” มิรุกิไม่ได้ตอบอะไร การกินของเธอตอนนี้บ่งบอกเป็นอย่างดีว่ามันอร่อยขนาดไหน มินารุนมองจ้องเพื่อนอย่างไม่น่าเชื่อ ก่อนจะพิสูจน์ด้วยตัวเอง

 

 

 

            …หั่นเนื้อที่อยู่ตรงหน้าแล้วค่อย ๆ เอาเข้าปาก…

 

 

 

“หื่ม!!! อร่อย!!!” มินารุนทำตาโตตกใจกับรสชาติที่ไม่คิดว่ามาโกะจะทำได้อร่อยขนาดนี้

 

 

 

“ย๊า….โล่งอกไปที ขอบคุณพี่ซายาเน่นะคะ” มาโกะเอามือประสานอกแล้วมองขึ้นไปข้างบนนึกภาพพี่ซายาเน่สุดหล่อ

 

 

 

“งั้นหนูก็จะกินบ้างล่ะนะ”

 

 

 

 

 

 

ทานแล้วนะคะ

 

 

 

 

 

 

 

————————– TBC ————————-

 

จานที่ 1 มาเสิร์ฟแล้วนะคะ อร่อยกันหรือเปล่า

 

วันนี้แต่งแบบมึน ๆ งง ๆ ผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยด้วยนะคะ

 

เพิ่มคู่น้องล่ะ … จะให้พี่มีคู่คนเดียวเดี๋ยวน้อง ๆ น้อยใจ ฮ่า ๆ

 

ขอบคุณสำหรับคอมเม้น และการติดตามนะคะ

 

————————————————————————

โอ้เย่ ~ คนเเรก 555 พี่เน่หล่อมากก >< 

เมรุจังไปช่วยใครไว้นะ 555 เเถมยังจุ๊บลูกฟุตบอลอีก ดู๊ ~ 555

มาโกะกี้ทำสูตรพี่เน่เเล้วอร่อย เจ๋งเบย กิกิ ~

โอ๊ยยยยยยย เน่ พ่อศรีเรือนนนนนน
ได้เน่ไปมิ้วสบายไปทั้งชาติค่ะ บอกเลย
เมรุ จะเทพไปไหน เตะบอลทีเดียว ซัดนักเลงไปสอง 
รอเมนูต่อไปฮ่ะ

พูดได้คำเดียวเลยว่า หิว ….

กรี๊ดดดดดดดด ตอนหน้าคงจะได้เจอกันแล้วสินะ หุหุหุหุ

เมรุเจอกับใครอะ //มิโอะป่าว

ส่วนท่านไรท์… ม่านใส่รูปมาอย่างนั้น ข้าพเจ้าก็หิวสิ อ๊ากกกก //แสบท้องง งืมม

เมรุเตะบอลเทพมาก

อยากให้พี่เน่มาสอนทำอาหารให้บ้างจุง (°////°)

พลาด… ดันเข้ามาอ่านตอน 4 ทุ่มเจอรูปเข้าไปรู้สึกหิว ;w;

 

นาจังคู่กับหมีมาโกะสินะ 

 

เมื่อไหร่มิลกี้จะได้ไปชิมที่ร้านสักทีนะ

 

โรงเรียนนาจังอยู่แถไหนอ่ะจะแวะไปหาพ่อครัว….. ไม่ใช่ล่ะ!!! แวะไปกิน >_<

อร้ายยยยย เมรุหล่อมากกก>< เตะบอลด้วย
พี่เน่ทำอร่อยแถมคนทำก็หล่อมาก//อวยแป๊ป
เอ่อ…โกะกี้ดีแล้วที่ไปฝึกกะพี่เน่มา -*-

เมรุเท่อ่าาา … หน้าโคนันลอยมากลายๆ // ท่าเดาะบอลนั่น =] พี่เน่ทำอาหาร.. omg …
อ่านตอนนี้มันชวนน้ำลายไหลเสียจริง มีรูปมาประกอบอีกต่่างหาก

โว๊ะ..ดันๆๆๆๆ

ซายาเน่หล่อเลยยยยยยย><

ฟิคนี้เป็นฟิคที่ไม่สมควรอ่านตอนหิวหรือตอนกลางคืนสินะ

//ฉันพลาดแล้วววว หิวเดส