[Fic]The Luna – คืนที่19……+SP-AtsuMina <23/04/2558>

The Luna

01   02  03   04   05   05.5 [PIC]  06  07  07.5[Pic]  08

 

09   10   11   12.1   12.2   13  14   15   16   17   18   19 

 

SP-MaYuki

SP-AtsuMina -now

 

 

 

 

 

00—
ทุกๆที่ ทุกหนแห่ง ย่อมมีเรื่องเล่าแตกต่างกันไปตามแต่ท้องถิ่น บ้างเล่าขานถึงวิญญาณที่อยู่ร่วมกับมนุษย์ บ้างเล่าถึงสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่พยายามขึ้นมาเนื้อผิวน้ำ แต่ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ มันก็ยังคงถูกเล่าต่อกันมาจนกลายเป็นตำนานพื้นเมือง เป็นเรื่องเล่าในหนังสือ มันอาจเคยมีอยู่จริง หรือเป็นเพียงเรื่องที่บรรพบุรุษแต่งขึ้นเพื่อสอนคนรุ่นหลัง
ณ ที่แห่งนี้ก็มีตำนาน ตำนานที่เล่าขานกันมานาน นานจนถูกลบเลือนหายไปกับความเจริญทางวัตถุ แต่ก็ไม่ได้หายไปจากความทรงจำในหน้าหนังสือ ตำนานที่บอกเล่าเรื่องราวของหมาป่าร่างยักษ์ที่ออกมาย่างกลายอาบแสงจันทร์ยามราตรี เห่าห่อนส่งเสียงดังกึงก้องไปทั่วทั้งเมือง ตำนานที่เล่าถึง มนุษย์หมาป่า

********************************

มาแนวเดิม แฟนตาซีจ้า~

จริงๆไม่รู้จะสั้นหรือยาวนะ เอาเป็นว่าเรื่อยๆละกัน

จะดองหรือไม่…….อืม ก็ไม่รู้สินะ (โดนตบ)

ดูจากบทนำก็คงพอจะรู้ว่าเกี่ยวกับเรื่องอะไรนะ

ก็ขอฝากเรื่องใหม่ด้วยนะค่ะ

^^

ที่ใดมีฟิคเบิ้ลอิ ที่นั่นจะมีเรา //กล่าวไว้เอง ( -….- )

อยากถามนอกเรื่อง….น้องจูจะเคะไหมคะ 

ปูเสื่อรอค่ะ 55 มีมายูกิด้วยย 55 เรื่องนี้ใครจะเมะ ใครจะเคะค่ะ 55555

อร้ายยยย
หมาป่าาาาา
><

ตามอ่านมันให้ทุกเรื่องฟิคเบิ้ลอิเนี่ย555

 

แฟนซีแอร้ยยยยยย หมาป่า ใครกันที่เป็นหมาป่า><

ท่านลงฟิคใหม่แล้ว เราจะรอ//ทำหน้าจริงจัง
มาแนวหมาป่าน่ารัก(?) เราจะรอติดตามนะคะ>w<!!!

คุณหมาป่าแฟนตาซี เย้~~~~!

คำถามเหมือนกับคนอื่นๆ ใครเคะใครเมะคะ???55555555555 หวังว่าจูจะเคะอย่างสุดใจ #โดนโบก

จะรอติดตามนะค่ะ

อ๊าย แฟนตาซี มนุษย์หมาป่าไรพวกนี้ล่ะชอบมาก 

เอาจิงๆแค่เห้นมีอัตสึมินะ กับโคจิยู ก้เข้ามาในบัดดล 555

ที่ใดมีฟิคเบิ้ลอิ ที่นั่นจะมีเรา //กล่าวไว้เอง ( -….- )

อยากถามนอกเรื่อง….น้องจูจะเคะไหมคะ 

01—

                หญิงสาวปิดหนังสือเล่มหนาตรงหน้า บิดกายไปมาคลายเส้นที่ยืดจากการนั่งนานๆ เธอมองออกไปนอกหน้าต่าง ฟ้าเริ่มมืดแล้ว คงได้เวลาทีเธอจะกลับบ้านเสียที ร่างบางลุกขึ้นเดินนำหนังสือที่อ่านเสร็จแล้วไปเก็บคืนที่ก่อนจะหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องสมุดไป

                มัทสึอิ เรนะ หญิงสาวเจ้าของดวงตากลมสีน้ำตาลเข้ม ผมที่ดำขลับยาวเกือบถึงกลางหลัง ผิวขาวผ่องราวกับไม่เคยถูกแสงยูวีใดๆทำร้าย รูปร่างที่ดูบอบบางและแสนจะเรียบร้อยนั้นทำให้ใครๆต่างหลงใหลและชื่นชม ถึงแม้ตัวเธอจะไม่คิดว่าตนเองมีดีอะไรขนาดนั้นเลยก็ตาม

 

                เรนะมักจะใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนอยู่ในห้องสมุดจนถึงเย็น แต่วันนี้ดูเหมือนว่าเธอจะอยู่เพลินไปหน่อย เพราะไฟข้างทางเริ่มส่องแสงให้ความสว่างแก่ผู้สัญจรยามราตรีแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ไม่ได้เร่งรีบอะไร ยังค่อยๆเดินตามทางไปเรื่อยๆ แต่ดูเหมือนการไม่เร่งรีบนั้นจะพาให้เธอพบกับความโชคร้าย เรนะหยุดชะงักเมื่อจู่ๆก็มีชายท่าทางประหลาดเดินมาดักหน้าเธอไว้ แม้จะตกใจไม่น้อยแต่ก็ยังมีสติพอที่จะไม่ตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก หญิงสาวกำชับกระเป๋าของตัวเองไว้แน่น ก่อนจะหันหลังเตรียมที่จะวิ่งหนี แต่ชายคนที่ควรจะอยู่อีกฝั่งตรงนั้น กลับมาอยู่ต่อหน้าเธออีกครั้ง ด้วยความตกใจเธอจึงก้าวถอยหลังกะทันหันทำให้ขาพันกันและล้มลง

 

 

                “อะ อะไรกัน” หญิงสาวเริ่มรู้สึกหวาดกลัวกับคนตรงหน้า ไม่สิ ความรู้สึกส่วนลึกของเธอมันบอกว่าที่อยู่ตรงหน้าเธอนั้นมันไม่ใช่มนุษย์ ดวงตาสีแดงก่ำดั่งโลหิต เล็บสีดำสกปรกที่เหลมยาว เขี้ยวคมมีน้ำลายไหลยืดอย่างน่าขยะแขยง เรนะทั้งกลัวทั้งอยากจะร้องไห้ ขาเจ้ากรรมก็ดันมาหมดแรงเสียตอนนี้ หญิงสาวได้แต่ดันตัวถอยหลังออกห่างจากชายตรงหน้าไปให้มากที่สุด

 

 

                ภาพความหวาดกลัวถูกสะท้อนอยู่ในดวงตาสีแดงสดคู่นั้น มันยิ้มหัวเราะอย่างพึงพอกับความจนตรอกของหญิงสาว ก่อนจะย่างท้าวเข้าไปหาอย่างช้าๆเหมือนเล่นเกม

                “กลัวเข้าไป กลัวเข้าไป” เสียงต่ำที่แหบพร่านั้นดังก้องอยู่ในโสตประสาทของเรนะ “ความกลัวมันจะทำให้เนื้อของเจ้าหวานยิ่งขึ้น”

                อยากจะกรีดร้อง แต่ก็ไม่อาจเปล่งเสียงออกมาได้ น้ำใสๆแห่งความหวาดกลัวไหลลงอาบแก้มทั้งสองข้างของเธอ เรียกรอยยิ้มแสยะอย่างน่ารังเกียจของอสูรได้เป็นอย่างดี มันค่อยๆแลบลิ้นเลียรอบริมฝีปากตัวเองอย่างชั่งใจ ก่อนจะกระโจนเข้าใส่หญิงสาวที่ไม่มีทางหนีรอดได้ เรนะหลับตาแน่นสนิท

 

                “อั่ก!!!”

                 เสียงกระอักของอสูรดังขึ้นพร้อมกับเสียงกระแทก ร่างบางค่อยๆลืมตาขึ้นมอง อสูรที่ควรจะกระโจนเข้าใส่เธอตอนนี้มันกลับนอนร้องโอดครวญอย่างเจ็บปวด ห่างออกไปจากตัวเธอไม่มากนัก เกิดคำถามต่างๆมากมายในความคิดของหญิงสาว  นี่มันเกิดอะไรขึ้น  ชายคนนั้นเป็นตัวอะไรกันแน่ ทำไมถึงได้….. ถูกอย่างช่างดูสับสนวุ่นวายไปหมด พลันสายตาเหลือบไปเห็นเงาดำที่ยืนอยู่ข้างๆเธอ เรนะดันตัวหนีทันทีตามสัญชาตญาณก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเงาดำนั้นอย่างหวาดหวั่น

 

 

                “ไม่ต้องกลัวหรอก ข้าไม่ได้จะทำร้ายเจ้า” เจ้าของร่างนั้นพูดขึ้น แสงจันทราที่สาดส่องลงมาทำให้เรนะสามารถมองเขาได้ชัดขึ้น ร่างสูงที่ผมซอยสั้นประบ่า สวมเสื้อแจ๊คเก็ตแขนกุดและกางเกงขาสั้น ถ้าดูเผินๆก็เหมือนคนธรรมดาทั่วไป ถ้าไม่ติดตรงที่ดวงตาสีแดงก่ำดั่งโลหิตเหมือนกับอสูรที่ทำร้ายเธอเมื่อกี้นั้น มันบ่งบอกให้เธอรู้ว่าคนตรงหน้าไม่ใช่ธรรมดาแน่ๆ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มีจุดที่ต่างออกไป ดวงตาของเขาดูเป็นประกายแวววาวมากกว่าของอสูรนั้น และสายตาที่ทอดมองเธอนั้นมันดูเป็นห่วงมากกว่าจะทำร้าย ทำให้เรนะพอชื้นใจขึ้นเล็กน้อย

 

                “เจ้าไม่ควรมาเดินเล่นในคืนที่พระจันทร์ใกล้เต็มดวงอย่างนี้นะสาวน้อย”

                “เอ๊ะ….?”

                ยังไม่ทันทีเรนะจะเอยถามอะไร เจ้าอสูรที่กระเด็นไปนั้นก็กลับลุกขึ้นกระโจนใส่คนปริศนาให้ล้มลงกระแทกไปไกล ทั้งคู่ยื้อดันกันอยู่สักพัก สุดท้ายคนที่ต้องงกระเด็นออกไปก็คือเจ้าคนที่พุ่งใส่ มันกระเด็นออกไปไกล และยังไม่ทันที่จะทรงตัวได้ อีกคนก็เข้าประชิดและอัดหมัดเข้าเต็มท้องจนมันจุกตัวงอ และดูท่าจะไม่มีแรงพอจะลุกขึ้นมาต่อกรได้อีก แต่ก็ยังคงวางใจไม่ได้ เขาฟาดขาเตะเข้าที่ต้นคอของมันอย่างแรงจนมันนอนแน่นิ่งไป ก่อนจะหันกลับมาหาหญิงสาวที่ยังคงนั่งเข่าอ่อนอยู่ที่เดิม

                “คะ คุณเป็นใคร” กลั้นใจถามเมื่ออีกคนเข้ามาใกล้พอ

                “ตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องรู้หรอก”

                คนปริศนาเอ่ยพรางคุกเข่าลงตรงหน้าหญิงสาวให้อยู่ในระดับเดียวกัน ก่อนที่ทุกอย่างจะพร่ามัวและมืดไป

 

……………………………………

 

                “ไม่เป็นไรนะเจ้าหมาน้อย” เสียงเด็กสาวแสนอ่อนโยน ลูบหัวลูกสุนัขตัวน้อยที่ดูเหมือนมันจะได้รับบาดเจ็บที่ขาหลัง เด็กน้อยค่อยๆอุ้มมันขึ้นมาบนตักอย่างเบามือ ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าของตนออกมาพันแผลที่ขาข้างนั้นไว้

                “ทีนี้ก็ไม่เป็นไรแล้วละ” น้ำเสียงที่สดใสของเด็กสาวทำให้เจ้าหมาน้อยรู้สึกอบอุ่น และปลอดภัย เจ้าหมาน้อยขนสีดำสนิททั่วทั้งตัว มองมาที่เด็กสาวด้วยดวงตาสีแดงประกายสดใสจนสะท้อนให้เห็นใบหน้าของเธอบนนั้น……….

………………………………………..

                กริ๊ง~

                เสียงนาฬิกาปลุกที่แผดเสียงร้องดังลั้นห้อง ปลุกให้หญิงสาวตื่นจากห่วงนิทรา แต่ก็ยังไม่พร้อมจะลืมตาขึ้นมารับแสงที่ส่องผ่านม่าน เธอจึงเลือกที่จะยกมือขึ้นปิดเจ้าเสียงทำลายประสาทนี่แล้วซุกตัวนอนต่อ แต่ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

 

                ทำไมเธอถึงมานอนอยู่ในห้องของตัวเองได้

                เรนะจำได้ว่าระหว่างทางกลับบ้าน เธอพบกับชายประหลาดคนหนึ่งกับอีกคนที่มาช่วยเธอเอาไว้ แต่ไม่มีความทรงจำที่ว่าเธอมาอยู่ที่บ้านของตัวเองเลย มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ คิดไปพรางเดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกาย และเพื่อทำให้สมองทำงานในยามเช้า

 

                หรือว่ามันจะเป็นความฝัน

 

                มือก็ตักข้าวเข้าปากสมองก็ยังคิดถึงเรื่องที่ยากจะหาคำมาอธิบาย สุดท้ายก็ต้องถอนหายใจทิ้งเรื่องปวดหัวแล้วมุ่งหน้าสู้โรงเรียน

                ยามเช้าแสนสดใส และธรรมดาเหมือนเช่นเคย เสียงกล่าวทักทายยามเช้าดังขึ้นตลอดทางตั้งแต่ก้าวเข้ามาในโรงเรียน ได้บรรยากาศของวัยรุ่น เข้ามาในห้องก็มีเสียงพูดคุยของเหล่าหญิงสาวที่นั่งจับกลุ่มคุยกันเรื่องละคร เรื่องแฟชั่น บางคนหันมาเห็นเธอก็กล่าวทักทายอรุณสวัสดิ์ เรนะเดินมาที่โต๊ะตัวที่สองริมหน้าต่าง วางกระเป๋าและนั่งลงที่ที่ของเธอ แต่ยังไม่ทันจะนั่งดีก็มีคนเดินเข้ามาตบโต๊ะเธอเป็นการทักทายที่เรนะคุ้นเคยดีอยู่แล้ว

 

                “อรุณสวัสดิ์เรนะ” ผู้มาเยือนกล่าวทักทายให้คนที่นั่งอยู่อมยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะทักทายตอบ

                “อรุณสวัสดิ์ ยูกิ”

                เจ้าของตาโต ใบหน้าเรียวผมยาวถึงกลางหลัง เหยียดริมฝีกปากสีชมพูยิ้มกว้างให้เพื่อนสนิท ก่อนจะเขยิบเก้าอี้ตัวข้างหน้าเรนะ มานั่งคุยกับอีกคนก่อนที่ครูจะเข้าในคาบแรก

                “เห็นว่าวันนี้จะมีนักเรียนใหม่เข้ามาแหละ”

                “กลางเทอมเนี่ยนะ”

                “ใช่ คงย้ายมาตามพ่อแม่ละมั้ง”

                “จะเป็นคนแบบไหนนะ”

                “อ๊ะ บอกไว้ก่อนว่าเป็นรุ่นน้อง ไม่ใช่รุ่นเราหรอก”

                “แล้วมาบอกเพื่อเนี่ย”

                เรนะหัวเราะขำๆกับข่าวแปลกๆของยูกิ ไม่ได้จะย้ายมาอยู่ในชั้นเดียวกับเธอ แต่ดันเอามาบอกเนี่ย ดูไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไรเลย

                “นา ข่าวนี่มายุบอกมา”

                “อ้อ เหรอ”

                ส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปให้อีกคนทำรีแอคชั่นแปลกๆ โบกมือไปมาอย่างรู้ทันว่าเธอคิดอะไรอยู่

                “รู้นะคิดไร”

                “ก็เปล่านี่”

 

…………………………………………

                การเรียนที่แสนจะน่าเบื่อได้ผ่านไป ในที่สุดก็ถึงเวลากลับบ้านเสียที แต่ถึงอย่างนั้นเรนะก็ยังไม่คิดจะกลับบ้านตอนนี้หรอก

                “นี่จะไปหมกตัวในห้องสมุดอีกเหรอ”

                “ฆ่าเวลาน่ะ”

                แม้ยูกิจะชวนเธอไปนั้นไปนี่ แต่ก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะสำเร็จ เพราะคุณเธอได้ชื่อว่าหนอนหนังสือของแท้ อ่านทุกเรื่องทุกแนว ตั้งแต่นิทานยันวิชาการ ไม่รู้ว่าอ่านหมดทั้งห้องสมุดหรือยัง

                “ยูกิ~”

 

                ระหว่างที่ตั้งใจจะชวนเรนะกลับ ก็มีเสียงหวานของเด็กสาวดังขึ้นที่หน้าห้องให้ทั้งสองหันไปยกมือทักทายคนตัวเล็กที่เดินเข้ามาหา

                “ทักแต่ยูกินะ” เรนะอดที่จะแซวสาวผมแกละคนนี้อย่างน้อยใจไม่ได้ อยู่ด้วยกันตั้งสองคน แต่ทักแค่เพื่อนเธอคนเดียว ไม่ยุติธรรมเลย

                “เปล่านะ ก็กำลังจะทักอยู่นี่ไง พี่เรนะ”

 

                พูดเสร็จคนตัวเล็กก็เข้ามาเกาะแขนรุ่นพี่ด้วยท่าทางน่ารักเป็นเชิงง้อ แบบนี้ใครจะโกรธลง ยิ่งเป็นคนรักเด็กอย่างเรนะด้วยแล้ว หญิงสาวยกมือขึ้นลูบหัวมายุอย่างเอ็นดู ให้ยูกิที่ยืนเก้อๆอยู่เข้าไปรวบกอดทั้งสองเอาไว้อย่างหมั่นไส้

                เรนะ ยูกิ และมายุ ทั้งสามรู้จักกันตั้งแต่เด็ก  เล่นมาด้วยกัน โตมาด้วยกัน เรียกได้ว่าสนิทกันสุดๆ โดยเฉพาะยูกิกับมายุ ที่ดูสนิทกันแบบสุดๆ อาจเพราะทั้งสองบ้านอยู่ใกล้กันด้วยละมั้ง แต่ในความคิดของเรนะ เธอเห็นว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ แต่ถ้าทั้งสองไม่อยากบอก เธอก็จะไม่ถามละนะ

 

                “เอาละ กลับกันเถอะ”

                หลังจากเล่นอะไรแบบเด็กๆกันได้สักพัก ยูกิก็เอ่ยปากชวนเพื่อนทั้งสอง โดยเฉพาะเรนะ แต่ก็แน่นอนว่าเธอต้องปฏิเสธ

                “กลับบ้านดึกๆมันอันตรายนะพี่เรนะ” มายุหันไปเตือน “ช่วงนี้ยิ่งมีข่าวพวกโจรปล้น กับพวกทำร้ายร่างกายอยู่”

                คำเตือนอย่างเป็นห่วงจากมายุทำให้เธอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เรื่องที่เธอคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ฝัน หรือวันนี้จะกลับเร็วหน่อยดีนะ แต่ว่าก็ยังมีเรื่องที่อยากอ่านอยู่ด้วยสิ

                “ถ้ามีเรื่องที่อยากอ่าน ยังไงก็ยืมไปอ่านที่บ้านก็ได้นะ” ยูกิพูดเหมือนเดาความคิดของเธอได้

                “…..ก็ได้” เรนะยอมตกลงที่จะกลับบ้านพร้อมคนทั้งสอง แต่ก่อนอื่น ขอไปยืมหนังสือที่อยากอ่านก่อนละกัน

 

………………………

                เรนะเดินกอดกระเป๋าที่ดูท่าจะหนักกว่าตอนขามา เพราะมันหนักเกินจะถือได้ กอดไว้มันช่วยให้สบายแขนกว่า ดูท่าเธอจะยืมหนังสือมาเยอะไปหน่อย แต่ก็เอาเถอะ ค่อยๆทยอยอ่าน

                “ท่าจะหนักนะนั้น” ยูกิพูดขำๆ หัวเราะเพื่อนที่ดูท่าจะไม่รู้จักพอกับการอ่านหนังสือสักที เอาเถอะ ยังไงมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร “ว่าแต่ นักเรียนใหม่เป็นไงบ้างละมายุ”

                “เป็นคนที่ดูเท่มากเลยละแต่ก็ดูน่ากลัวอยู่นะ”

 

                ทั้งสามเดินออกมาจากตึกจนจะถึงประตูโรงเรียน เหมือนมายุจะเหลือบไปเห็นใครคนหนึ่งก็สะกิดชี้ชวนให้รุ่นพี่ทั้งสองมองตาม “เด็กคนนั้นละ เพิ่งย้ายมา”

 

                 สองสายตามองตามนิ้วของเด็กสาวไปพบกับคนๆหนึ่ง ผมซอยสั้น ตัวสูงโปร่ง ตาคมโต เด็กสาวสมาชิกใหม่ในรั่วโรงเรียนยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใกล้ทางออก และถ้าไม่ได้คิดไปเอง เรนะรู้สึกคนๆนั้นกำลังจ้องมาที่เธอ มันทำให้เธอรู้สึกไม่ดีอย่างบอกไม่ถูก จนต้องหลบตาของอีกคน

 

เดินจนมาถึงทางแยก เรนะโบกมือลายูกิและมายุ ก่อนจะเดินไปตามทางกลับบ้านของตน แม้ฟ้าจะยังสว่างแต่ก็อดรู้สึกใจสั่นไม่ได้ ไม่รู้ทำไม เธอรู้สึกเหมือนมีคนมองเธอมาตั้งแต่แยกกับพวกยูกิแล้ว ได้แต่ภาวนาให้ตัวเธอคิดไปเองเท่านั้น พยายามเดินให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้  จนในที่สุดก็ถึงบ้าน หญิงสาวไม่รอช้ารีบเปิดประตูใส่กุญแจทันที ร่างบางใช้หลังมือซับเหงื่อที่หน้าผากมลของตนเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปมองผ่านกระจกประตู ก็ไม่เห็นใคร คงจะคิดมากเกินไปเท่านั้น

 

………………………………..

                “เรนะ เรนะ!”

                เสียงผู้เป็นแม่ดังขึ้นจากข้างล่าง ปลุกให้เรนะตื่นขึ้นจากโลกในหนังสือแล้วเดินลงมาหาตามเสียงเรียก

                “มีอะไรเหรอคะ”

                “ช่วยไปซื้อของให้แม่หน่อยสิ” พูดจบมารดาก็ยื่นกระดาษแผ่นเล็กๆกับกระเป๋าเงินให้ลูกสาว เรนะก็รับมาและออกไปซื้อของตามที่สั่งอย่างว่าง่าย โดยที่เธอลืมเรื่องที่เจอเมื่อวานไปเสียสนิท

 

                ท้องฟ้าสีส้มบ่งบอกเวลาตะวันใกล้ลับฟ้า เรนะเดินออกมายืนหน้าร้านค้าตรวจสอบของที่ซื้อมาว่าครบตามที่เขียนไว้ในใบรึเปล่า พอเห็นว่าไม่ขาดอะไรแล้ว หญิงสาวก็ออกเดินทางกลับบ้าน แต่ไม่วายแวะซื้อของนอกเหนือใบสั่งด้วย ขาเรียวเดินเข้าร้านขนมปังที่อยู่ใกล้ๆแล้วหยิบสิ่งที่ต้องการไปคิดเงิน ใบหน้าอิ่มเอิบมีความสุขราวกับคนถูกรางวัล เธอเดินก้าวกระโดดเล็กน้อยอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่ความรู้สึกชวนขนลุกจะมาขัดเธอเอาไว้

 

                เรนะชะงักเท้าที่กำลังก้าว หันไปมองรอบตัวอย่างแปลกใจ ทั้งๆที่เมื่อกี้เธอเดินตามทางกลับบ้านปกติแท้ๆ แต่ทำไมถึงเข้ามาอยู่ในป่าได้ละ แล้วเมื่อกี้ฟ้ายังสว่างอยู่เลยไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้ถึงมีดวงจันทร์ลอยอยู่บนท้องฟ้าตรงหน้าเธอได้ละ บรรยากาศหนักอึ้งชวนคลื่นไส้ถาโถมเข้าใส่อย่างรุนแรงจนเรนะเริ่มรู้สึกเวียนหัว

                “ฮี่ฮี่ จับสาวน้อยได้คนหนึ่งล่ะ” เสียงเล็กๆแสบแก้วหูดังขึ้นเบื้องหลังเรนะ หญิงสาวหันไปมองอย่างเหนื่อยล้า ก็เจอกับ จะว่ายังไงดีละ คนที่มีหน้าเหมือนกับหนู ดูทาท่าเจ้าเล่ห์เดินออกมาจากเงามืดของต้นไม้ 

                ไม่มีแรงพอจะตกใจ ร่างบางได้แต่ก้าวเท้าถอยหลังหนีเท่านั้น แต่หลังของเธอกลับไปชนเข้ากับบางอย่าง

                “ไม่ต้องกลัวไปหรอกสาวน้อย” น้ำเสียงแสนน่ารังเกียจดังขึ้นช่างคุ้นหู “คราวนี้เจ้าไม่รอดแน่”

                เรนเบิกตากว้าง เมื่อหันไปพบกับชายประหลาดที่เจอในความฝัน ลงแบบนี้แล้วเมื่อวานนั้นไม่ใช่ความฝันแน่ๆ

 

 

                “พะ พวกนายต้องการอะไร” กลั้นใจถามด้วยน้ำเสียงสั่นกลัว เรียกเสียงหัวเราะอย่างชอบใจจากสัตว์ประหลาดทั้งสองได้เป็นอย่างดี เจ้าตัวที่อยู่ใกล้เรนะที่สุด ชะโงกหน้าเข้าใกล้ให้เธอผงะถอยหลัง ขณะเดียวกัน เจ้าปีศาจหนูก็ย่างเท้าเข้ามาใกล้เธอขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีทางให้หนีได้เลย แต่ถึงหนีไปได้เธอก็ไม่รู้อยู่ดีว่าตัวเองอยู่ที่ไหน พอรู้สึกว่าตัวเองนั้นจนตรอก น้ำใสๆก็ไหลออกมาจากดวงตา ยิ่งเรียกความชอบใจจากอสูรทั้งสอง

                “อย่างนั้นละ อย่างนั้น ยิ่งเจ้ากลัวเท่าไร เนื้อของเจ้าจะยิ่งอร่อยมากขึ้น!”

                เจ้าอสูรทั้งสองหัวเราะลั่นอย่างชอบใจที่เห็นเรนะค่อยๆทรุดตัวลงกับพื้นและก้มหน้าร้องไห้ แต่เสียงหัวเราะก็ไม่อาจคงอยู่ได้นานเมื่อมีเงาดำร่างใหญ่พุ่งเข้ามาฝากกรงเล็บไว้บนใบหน้าของปีศาจหนู มันเอามือกุมใบหน้ากรีดร้องด้วยเสียงเหลมเล็กน่ารังเกียจ เสียงด่าทอสารพัดดังตามมาไม่ขาดสาย

                “ใครน่ะ!!!!” อสูรอีกตนตวาดก้องใส่เงาดำที่หลบตัวอยู่ในเงา ดวงตาสีแดงสุกใสฉายแววโรธมองจ้องมาทำเอามันกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคออย่างอยากลำบาก

                “ข้าไม่ได้บอกเจ้าเหรอว่า อย่ามายุ่งกับหญิงสาวคนนี้อีก” ร่างนั้นคำรามใส่ ทำเอาพวกอสูรขวัญหนีไปหมด แต่ก็ยังใจกล้ายืนประจันหน้ากับเงามืดนั้นอยู่

 

                เรนะรู้สึกว่าบรรยากาศรอบข้างเงียบไปจึงค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา มองไปยังแสงสีแดงที่หลบอยู่ในเงาของต้นไม้ มันจ้องมองมายังเธอ ทั้งๆที่ควรจะกลัว แต่เธอกลับรู้สึกปลอดภัยมากกว่า เธอมองร่างนั้นค่อยๆก้าวออกมาปรากฏตัวท่ามกลางแสงจันทร์เหนือฝากฟ้า มือใหญ่ที่มีกรงเล็บสีเงินสะท้อนกับแสงจันทร์ ขนสีดำเงาลู่ไปตามลมที่พัดไหว เขี้ยวคมที่โผล่พ้นปากกว้าง ดวงตาสีแดงสุกใส ใบหูใหญ่ของสัตว์ที่เธอคิดว่าเธอรู้จัก หรือว่าที่เธอเห็นอยู่นี่จะเป็น

 

                มนุษย์หมาป่า!

 

 

 

 

 

 

 

 

 

*******************************

มาลงตอนที่1!!!!!

พอมาแต่งแฟนตาซี+แอคชั่นแบบนี้แล้ว รู้สึกเลยว่า

มันช่างแต่งยากยิ่งนัก

(หมอบ//แต่ก็อยากแต่งดู)

หากบกพร่องตรงไหน ช่วยชี้แนะด้วยนะค่ะ

Whot is This!!!! //แค่นี้แหละค่ะ5555

 

 

จูเมะสินะ^^ ดีใจ555 จูแบบ หนูหล่อมากคร๊าาาาาา ปรบมือ//แปะๆๆ

อุ้ยยยยยยยยยยยย

เรนะเคยช่วยจูตอนยังเป็นลูกหมา

พอจูโต(เป็นหนุ่ม)เลยมาช่วยคืนสิ่นะคะ

กริ้ดดดดดด >_< หล่อมาก

อ้ายย เขินจังงง เพราะเฮียช่วยไว้เเต่เล็กสินะ พอโตมาเลยมาช่วยเฮียย

จูจังเท่จริงอะไรจริงง 55 

สงสัยเรนะจังจะได้สัตว์เลี้ยงกลับบ้าน

เรนะช่วยจูไว้ตอนจูยังเป็นลูกหมาสินะ พอจูโตถึงได้มาช่วยเรนะบ้าง
ตอนนี้จูอย่างเท่อะ

ข้าได้กลิ่นอัตสึมินะเลยวิ่งตามมา #นั้นมันตัวอะไรฟ่ะ #หืม

แหม๊ๆ  ~  ปรากฏตัวอย่างเมพเลยนะ น้องจู ~

คู่มายูกินี้แบบ  -////-   น่าจะฟิน กิกิ บ้านใกล้กัน เพื่อนวัยเด็ก โรแมนติกน่าดูเชียว ~

มายุน่ารักก เรียกเรนะว่าพี่ด้วย ฮ่าๆ 

จูรินะใช่ไหมนั้นที่มาช่วยเรนะ ถ้าใช่จู

นายเท่มั่กมากๆ น่าติดตามจริงๆ รอมาต่อนะไรเตอร์ ( =w=)b

พระเอกโผล่มาช่วยนางเอกได้อย่างหวุดหวิดเลย 

อุ๊ย น้องจูเท่ห์จุงเบย ถึงเป็นหมาป่าพี่ก็รักนะน้อง// กระดีดกระดิ้ง

อะแฮ่มๆ กลับเข้าเรื่องก่อน เราชอบการที่เรนะจังเคยช่วยน้องจูไว้ตอนเด็กๆ มากเลยอะ น่ารักเกิ๊นนนนน//อ๊ายยย

ติดตามต่อนะค้าา