[OS] Can’t Escape (Matsui Jurina, Fujita Nana)

Can’t Escape

 

 

 

 

 

                ทุกคนในออฟฟิศเล็ก ๆ บนชั้น 12A ของอาคารพาณิชย์ที่เปิดให้เช่าเป็นสำนักงาน กำลังให้ความสนใจไปในทิศทางเดียวกัน …ห้องผู้บริหารที่อยู่ด้านในสุด

 

 

เป็นปีแรกของบริษัทที่เปิดรับนักศึกษาฝึกงาน นักศึกษาปีสุดท้ายจากคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ เพราะเป็นงานเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ โปรแกรมซัพพอร์ตต่าง ๆ ทำให้มีพนักงานชายเกือบครึ่ง และพอเห็นนักศึกษาฝึกงานเป็นผู้หญิงเท่านั้นแหละ ชายหนุ่มทุกคนก็แอบเฮอยู่ในใจ

 

 

 

                พอประตูห้องเจ้าของบริษัทเปิดออก ทุกคนก็ทำเป็นหันไปสนใจงานของตัวเอง แต่ไม่วาย ยังแอบชำเลืองมองไปทางน้องนักศึกษาใบหน้าสวยคมคนนั้น ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ชายมีอายุรูปร่างสูงใหญ่

 

 

 

                “เอาล่ะ ทุกคนคงรู้กันแล้ว ว่าหลังจากนี้อีกหนึ่งเดือน น้องเขาจะมาฝึกงานที่บริษัทของเรา แนะนำตัวหน่อยสิ”

 

                “มัตสึอิ จูรินะค่ะ เรียนอยู่ชั้นปีสุดท้าย คณะ IT มหาวิทยาลัย A รบกวนขอฝากตัวด้วยนะคะ”   หญิงสาวคนนั้นบอกและโค้งให้กับพนักงานทุกคน

 

                “ยังไงฉันรบกวนให้ฟุจิตะซัง ช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้กับมัตสึอิซังทีแล้วกัน”    เจ้าของบริษัทบอกกับพนักงานสาวที่นั่งอยู่ไม่ไกล

 

                “เอ่อ… ค่ะ”  เธอบอกและมองไปทางคนอายุน้อย ชายหนุ่มหลายคนในบริษัทที่แอบเซ็งไปตาม ๆ กัน เพราะทุกคนก็อยากจะเป็นพี่เลี้ยงให้กับน้องนักศึกษาหน้าตาดีคนนั้นใจจะขาด

 

 

 

หลังจากนั้น หญิงสาวที่ถูกเรียกว่า ฟุจิตะซัง ฟุจิตะ นานะ ก็เดินนำเด็กสาวที่จะอยู่ในความดูแลของเธอไปที่โต๊ะทำงาน ที่เป็นโต๊ะแยกออกมาจากกลุ่มพนักงานประจำ

 

 

 

                “คอมเครื่องนี้น่าจะใช้ได้ เดี๋ยวฉันจะมาสอนงานเธอแล้วกัน แล้วจะให้ฉันเรียกเธอว่าอะไร มัตสึอิ หรือจูรินะ”   เธอถามและมองจ้องจูรินะไม่วางตา

 

                “แล้วแต่ฟุจิตะซังเลยค่ะ”   เขาตอบคำถาม แต่ไม่ได้มองสบตากับนานะ นานะมองจ้องใบหน้าด้านข้างของคนอีกคนอย่างพิจารณา มองจมูกที่โด่งได้รูป สันกรามที่เห็นเด่นชัด แต่สิ่งที่นานะมองเห็นไม่ชัดเจนคือดวงตาของเด็กคนนี้

 

                “พูดกับผู้ใหญ่แล้วไม่สบตา ดูไม่ค่อยมีมารยาทนะ”   

 

                “อ๊ะ”   จูรินะรีบหันมามองพี่เลี้ยงของเขา เพราะมัวแต่สนใจว่าคอมพิวเตอร์ตรงหน้า เลยทำตัวเสียมารยาทไปแล้ว   “ขอโทษนะคะ”   เขารีบก้มหัวขอโทษ จะโดนเขม่นมั้ยนะ    “ขอโทษที่เสียมารยาทค่ะ พอดีกำลังดูว่าคอมพิวเตอร์ตัวนี้ เป็นรุ่นอะไร”

 

 

 

นานะยิ้มออกมา ไม่ใช่เพราะจะทำให้เด็กสาวคนนี้สบายใจหรอก แต่เพราะ.. เธอได้เห็นแววตาของจูรินะชัด  ๆ อย่างที่เธอต้องการต่างหาก และเธอก็เริ่มจะสนใจเด็กคนนี้เข้าให้แล้ว

 

 

 

                “ถ้าอย่างนั้นก็พอเข้าใจได้”  นานะบอกและยังคงเฝ้ามองจูรินะอยู่แบบนั้น จูรินะก็พยายามสบตากับนานะ ไม่ให้ทำตัวเสียมารยาทเป็นครั้งที่สอง   “ส่วนเรื่องชื่อเธอที่จะให้ฉันเรียกนี่แล้วแต่ฉันใช่มั้ย”

 

                “ค่ะ”

 

                “งั้นเรียกเธอว่า “ที่รัก” ได้รึเปล่าล่ะ”

 

 

 

เจอคำถามนี้เข้าไป จูรินะถึงกับขมวดคิ้วเข้าหากัน ส่วนนานะน่ะหรอ ดวงตาเป็นประกายยิ่งกว่าเดิมเสียอีก

 

 

 

                “ฟุจุตะซังชอบพูดเล่นแบบนี้หรอคะ”  

 

                “พูดจริง ๆ”    และอันนี้ยิ่งตอกย้ำให้จูรินะงงหนักเข้าไปอีก    “หรืออยากให้เรียกอย่างอื่นล่ะ ถ้าไม่ใช่ที่รัก จะให้เรียกว่า Love หรือว่า Babe ดีล่ะ”

 

                “เอ่อ…”   เล่นเอาจูรินะไปไม่เป็นอยู่ชั่วครู่ ตามจริง ตั้งแต่สมัยเรียน เขาเคยชินแล้วหละที่โดนทั้งผู้หญิงและผู้ชายมาพูดจาแบบนี้ใส่ และเขาเอง… ก็ชอบเล่นสนุกกับเรื่องพวกนี้ซะด้วย แต่ถ้าเรื่องรู้ไปถึงหูคนอื่น หรือเรื่องไปถึงเจ้าของบริษัท เขาจะฝึกงานไม่จบเอาน่ะสิ     “คนอื่นมาได้ยินคงไม่ดีมั้งคะ”

 

                “ไม่ชอบหรอ”   นานะถามเล่นหูเล่นตา จูรินะครุ่นคิดกับตัวเองเล็กน้อย สักนิดก็ได้ฟระ

 

                “ไม่เชิง คือ… ถ้าอยู่กันแค่สองคนค่อยเรียกได้มั้ยคะ”

 

 

 

นานะเลิกคิ้วเล็กน้อย และยิ้มออกมา เธอรู้แล้วหละว่าเด็กตรงหน้าเป็นคนแบบไหน และถ้าไม่กลัวไม่เกรงแบบนี้ อย่ามาเสียใจทีหลังก็แล้วกัน

 

 

จูรินะมองนานะที่เดินไปแล้ว สักนิดสักหน่อย เผื่อจะกรุยทางให้การฝึกงานราบรื่นไปด้วยดี แต่จะให้จริงจัง… ขอคิดดูก่อนก็แล้วกัน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

…………………………..

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                จูรินะกำลังไล่สายตาไปตามตัวอักษรที่เธอป้อนเข้าไป เช็กกับเอกสารแนะนำอีกที ถึงไม่ใช่การรันระบบจริง ๆ เป็นเพียงการทดลอง แต่ว่าถ้ามันไม่สำเร็จ หรือผิดพลาด เธออาจจะโดนประเมินคะแนนฝึกงานไม่ดีเอา

 

 

หนึ่งอาทิตย์ผ่านมา นอกจากโดนพวกพี่ ๆ ผู้ชายแวะเวียนมาแจกขนมจีบไม่ขาดระยะ ยังมีอีกคนที่อันตรายกว่านั้น นอกจากจะมาสอนงานแบบถึงเนื้อถึงตัวให้ใจหวั่นไหวเล่น ยังชวนกินข้าว ชวนกลับบ้านด้วยกัน แล้วก็ชอบชวนแบบทีเล่นทีจริงให้แวะไปดื่มชาที่ห้อง

 

 

ไม่ใช่ใครที่ไหน พี่เลี้ยงในการฝึกงานของเขานั่นแหละ นานะ

 

 

 

               นานะเดินมายืนมองจูรินะอยู่สักพัก เธออมยิ้มกับท่าทางเคร่งเครียดของเด็กสาว ไม่ว่าทำอะไรก็ดูดีไปหมด จะไม่ให้เธอหลงได้ยังไง แต่ว่า…เธอจะต้องทำให้จูรินะมาหลงเธอให้ได้เหมือนกัน

 

 

นานะเดินไปยืนด้านหลังของจูรินะ โดยที่เขายังไม่รู้ตัว

 

 

 

                “นี่”   โน้มตัวลงไปกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหู แต่เล่นเอาคนที่นั่งอยู่สะดุ้งแทบตกเก้าอี้ จูรินะหันมองคนที่หัวเราะคิกคักอยู่ข้างหลัง และ… จะเอาหน้ามาใกล้ไปไหนเนี่ย   

 

                “ฟุจิตะซัง ตกใจหมดเลย”   เด็กสาวพูดเสียงตัดพ้อ กะจะแกล้งเขาแหง ๆ มาไม่ให้ซุ่มให้เสียงตอนกำลังมีสมาธิแบบนี้

 

                “ขวัญอ่อนจังนะ”   นานะแกล้งแหย่ จูรินะทำหน้ามุ่ย แล้วหันกลับไปสนใจหน้าจอคอมพิวเตอร์ต่อ

 

 

 

แต่นานะไม่หยุดแค่นั้น เธอโน้มตัวลงไปแนบชิดร่างกายของจูรินะ เคาะมือขวาไปตามแป้นพิมพ์ ทำเหมือนกับว่าจะช่วยพิมพ์ข้อความต่าง ๆ ให้ ส่วนมืออีกข้างก็จับไหล่ข้างซ้ายของจูรินะ

 

 

 

                “ฟุจิตะซัง”   เขาพูดเสียงเบา เมื่อรับรู้ว่าหน้าอกของคนอายุมากกว่า กำลังบดเบียดอยู่ที่ไหล่ข้างขวาของเขา แถมใบหน้าของนานะที่หันมองตอนเขาเรียกนั้น ปลายจมูกอยู่ห่างจากแก้มเนียนใสของเขาเพียงไม่กี่มิล เล่นเอาเขาไม่กล้ากระดุดกระดิกตัว   “เดี๋ยวใครมาเห็นนะคะ”

 

                “กลัวใครมาเห็น งั้นออกไปคุยกับฉันที่ห้องน้ำข้างนอกมั้ยล่ะ”   ชวนกันโต้ง ๆ แบบนี้เลยหรอ นี่ถ้าเป็นคนอื่น ไม่ใช่พนักงานบริษัทที่เธอฝึกงานอยู่ เธอไปแล้ว แต่บางอย่างมันค้ำคอจูรินะเอาไว้น่ะสิ ไม่นับรวมอะไรที่มาค้ำไหล่ของเขานะ

 

                “ไม่ได้หรอกค่ะ เวลางาน”   เขาปฏิเสธอย่างรวดเร็ว แต่ร่างกายกลับร้อนระอุไปหมด อยากจะเอาคืนนานะยังไงก็ไม่รู้ คนถนัดรุกแบบเขา มาโดนรุกเองแบบนี้ มันน่าเจ็บใจนี่นา

 

                “ถ้าอย่างนั้น ก็หันหน้ามามองฉันสิ”

 

                “หา!”

 

 

 

ถ้าหันหน้าไปหา จูรินะเชื่อว่ามันต้องเกิดอะไรที่ไม่ควรเกิดแน่ ๆ แต่จะให้ทนอยู่ในสภาพแบบนี้น่ะหรอ โอย ทำไมต้องมายั่วกันด้วยนะ จูรินะได้แต่โวยวายในใจ

 

 

 

                “ว่าไงคะ ที่รัก”   และนานะก็เล่นงานเขาจนได้ มือเธอยังคงพิมพ์งานได้อย่างคล่องแคล่ว ดวงตาก็ยังคงมองใบหน้าของคนที่เธอสนใจได้ไม่วางตา และดูท่าทาง เขาจะสะกดกลั้นอารมณ์ตัวเองเอาไว้ไม่ได้แล้ว

 

 

 

 

 

 

จูรินะตัดสินใจยอมหันหน้าไปหานานะ และเป็นเขาเองที่ช่วงชิงริมฝีปากของคนอายุมากมาเป็นของเขา แต่เพียงแวบเดียวเท่านั้น แป๊บเดียวนานะก็ดันตัวจูรินะออกห่าง ความรู้สึกเสียดายแล่นค้างอยู่ในสมองของจูรินะในทันทีทันใด

 

 

 

                “เดี๋ยวมีใครมาเห็นนะ”   เธอพูดพร้อมขยิบตา และเดินออกไปจากโต๊ะของจูรินะ

 

 

 

จูรินะจิ๊ปากเบา ๆ มาแกล้งยั่วแล้วก็ไปแบบนี้… วันหลังจะไม่ยอมให้อีกแล้ว เขาได้แต่บ่นกับตัวเองในใจ นึกว่าผู้หญิงที่ทำงานเกี่ยวกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์จะดูเป็นผู้หญิงเนิร์ด ๆ น่าเบื่อ ๆ เหมือนเพื่อนหลาย ๆ คนของเขา ที่ไหนได้มาเจอคนแบบเดียวกันเข้าเต็ม ๆ จูรินะถอนหายใจและหันไปมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ ถึงไหนแล้วเนี่ย เขาต้องทำอะไรต่อล่ะเนี่ย ในหัว… มีแต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

……………………

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                ตลอดช่วงฝึกงานหลังจากนั้น จูรินะพยายามทำเป็นไม่สนใจนานะ และพอดีกับที่มีโปรเจคของลูกค้าเข้ามาใหม่ บริษัทเลยดูวุ่นวายไปหมด ทำให้นานะไม่ได้มีโอกาสไปหาเศษหาเลยกับจูรินะเหมือนตอนแรก ๆ

 

 

จนมาถึงปลายสัปดาห์ก่อนสัปดาห์สุดท้ายที่ต้องฝึกงาน ทุกคนอยู่เร่งงานจนดึก และเหลือนานะกับจูรินะเป็นคนสุดท้ายในออฟฟิศ เพื่อรอยิงระบบหลังเที่ยงคืนของวัน

 

 

จูรินะช่วยตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ก่อนจะเอาเอกสารต่าง ๆ มาวางไว้ที่โต๊ะนานะ และก็ยืนมองหน้าจอของนานะอยู่แบบนั้น

 

 

 

                “พวกโปรแกรมซัพพอร์ต น่าจะมีให้รันโปรแกรมอัตโนมัติสักที”   จูรินะบ่น ๆ ที่ต้องอยู่ดึก ตอนแรกเขาก็ตั้งใจจะกลับตามเวลาปกติ แต่เพราะนานะต้องอยู่เฝ้าระบบ เขาที่เป็นนักศึกษาฝึกงานในความดูแลของนานะ จะกลับก่อนก็ใช่ที่ ถึงนานะจะบอกให้กลับได้ก็เถอะ

 

 

 

ก็เพิ่งจะเคยได้ดูดนานะทำงานอย่างเป็นจริงเป็นจังก็วันนี้ ปกติ… เอาแต่… ช่างเถอะ จูรินะพยายามไม่คิด

 

 

               

                “ไม่มีน่ะดีแล้ว”   นานะพูดขึ้นมา แล้วหันมองจูรินะ    “เพราะมันทำให้ฉันมีโอกาสได้อยู่กับเธอสองต่อสองยังไงล่ะ”

 

 

 

ไม่พูดเปล่า เธอยังลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับจูรินะ จูรินะรีบถอยตัวด้วยสัญชาตญาณ สัญชาตญาณและคำสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ยอมปล่อยให้นานะมายั่วเขาอีก

 

 

 

                “ฟุจิตะซัง งานยัง…”   จูรินะชี้มือไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ และเพิ่งเห็นคำว่า Success บนหน้าจอ   “ฉิบ…”   เขาคิดในใจ เสร็จแล้วนี่หว่า แบบนี้อันตรายแล้ว จูรินะหันมองนานะที่ส่งรอยยิ้มไม่ธรรมดามาทางเขา

 

                “ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยมีเวลาให้เธอเลย คิดถึงฉันใช่มั้ยล่ะ ถึงไม่ยอมกลับไปก่อน ทั้ง ๆ ที่บอกให้กลับ”

 

                “เอ๋ ไมใช่นะ…”

 

                “อย่ามาปากแข็ง”   นานะดันตัวของจูรินะลงไปนั่งที่โต๊ะทำงานข้าง ๆ    “ถ้าไม่ใช่ งั้นบอกมาสิ ว่าทำไมอยากอยู่ต่อกับฉันแค่สองคน เธอรู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น”

 

 

 

จูรินะกลืนน้ำลายยากขึ้นมาเลย นานะยกมือขึ้นจับแก้มของจูรินะ จูรินะคิดว่านานะเข้าใจผิดไปไกลแล้ว และเขาควรจะทำอะไร…. ควรจะทำยังไงดี

 

 

ใบหน้าของนานะใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ หัวใจของจูรินะเต้นรัวไปหมด นานะจับมือของเขาให้จับใบหน้าของเธอบ้าง ก่อนจะจับนิ้วมือของเขาระไปตามริมฝีปากของเธอ ดูดเม้มและขบกัดบนปลายนิ้วกลางเบา ๆ จูรินะมองค้างอยู่แบบนั้น ตั้งใจจะยั่วเขาจริง ๆ ใช่มั้ย

 

 

นานะยอมปล่อยมือของจูรินะ และเปลี่ยนเป็นฝังปลายจมูกของเธอลงบนต้นคอขาวเนียนของเด็กสาว จูรินะหายใจเข้าออกเสียงดัง กัดเม้มริมฝีปากตัวเอง เขาจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว

 

 

 

 

                “ตื๊ด ตื๊ด”

 

 

 

แล้วเสียงโทรศัพท์สายนอกก็ดังขึ้น นานะหันไปมองโทรศัพท์ที่โต๊ะตัวเอง ท่าทางจะเป็นลูกค้าโทรมา เธอรีบผละออกไปรับโทรศัพท์สายนั้น

 

 

จูรินะเป่าปากออกมาท่าทางโล่งใจ ก่อนจะพลิกมือตัวเองมามอง ยังจำสัมผัสนุ่มนวล และวาบหวามที่ปลายนิ้ว และซอกคอได้ดี แต่ว่า…

 

 

เขามองแผ่นหลังของนานะที่กำลังคุยสายกับลูกค้า รีบลุกออกจากโต๊ะทำงานตัวนั้น แล้วตรงไปที่โต๊ะของเขา เพื่อเก็บของทั้งหมดและรีบกลับออกจากออฟฟิศ

 

 

 

                “เธอหนีไปไหนไม่รอดหรอก”

 

 

 

น้ำเสียงนั้น จูรินะหันมองนานะที่วางสายโทรศัพท์สายนั้ และมองมาทางเขาด้วยแววตาเหมือนสิงโตกำลังมองเหยื่อของตัวเอง จูรินะกัดกรามตัวเองแน่น และตัดสินใจเดินออกไปจากออฟฟิศ

 

 

 

 

 

                นานะยังคงยิ้มอยู่แบบนั้น ก่อนจะหันไปที่คอมพิวเตอร์ของเธอ ขยับเม้าส์เพื่อส่งคำสั่งปิดเครื่องพร้อมกับฮัมเพลงท่าทางสบายอารมณ์ ไม่ถึงนาที เธอก็ได้ยินเสียงประตูออฟฟิศอีกครั้ง และไม่ต้องสงสัยเลยว่าใครที่เดินเข้ามา

 

 

 

                “ไม่หนีแล้วหรอ”   เธอถามคนตัวสูงที่ทิ้งกระเป๋าตัวเองลงกับพื้น และเดินตรงมาหาเธอ

 

 

 

เขาไม่พูดอะไรนอกจากดึงตัวนานะเข้าไปจูบ จูบที่ทั้งรุนแรงและหนักหน่วง จูบเหมือนจะเอาคืนที่นานะยั่วเขาจนสะกดกลั้นตัวเองเอาไว้ไม่ได้ แต่นานะกลับไม่คิดว่ามันเป็นการเอาคืนแม้สักนิด เธอพึงพอใจกับรสจูบที่ดุดันนี้เสียเหลือเกิน

 

 

 

                “ฉันบอกแล้วว่าเธอหนีไปไหนไม่รอด”    คำพูดที่ทำให้หัวจิตหัวใจที่พยายามเข้มแข็งของจูรินะพังทลายลง

 

                “ถ้ามีใครรู้แล้วฉันฝึกงานไม่ผ่านนะ”   จูรินะถอยตัวมามองนานะ น้ำเสียงเคือง ๆ แบบนี้ ยิ่งทำให้นานะชอบใจ

 

                “งั้นก็กลับบ้านไปสิ”   นานะพูดเหมือนไม่แคร์อะไร

 

                “ไม่กลับ”   เขาตอบโต้ออกมาเสียงดัง กลับไม่ได้แล้ว แค่ก้าวขาออกจากออฟฟิศเมื่อครู่ ในหัวก็มีแต่ภาพของนานะเต็มไปหมด จะกลับไปได้ยังไงล่ะ    “รับผิดชอบกันเลย”

 

                “มาสิ”   นานะเขยิบตัวขึ้นไปนั่งบนโต๊ะของตัวเอง ก่อนจะเอานิ้วชี้เชยคางของคนตัวสูงขึ้น    “จะรับทั้งผิด ทั้งชอบเลย”

 

 

 

จูรินะมองหญิงสาวที่ทำให้เขาปั่นป่วนไปหมด ท่าทางจะหนีไปไหนไม่ได้ อย่างที่นานะบอกจริง ๆ แล้วหละ

 

 

 

 

 

 

 

………………………..

 

 

 

 

END??

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

=====================================

 

 

 OS แก้บน

แก้บนอะไรเล่า!!!!!!!!

 

โดนยุให้แต่งครับ

เพราะโมเมนต์สองคนนี้เยอะเหลือเกิน

 

แต่งรวดเดียวจบ ไม่ได้ปรับได้แก้เลย

กลัวมาอ่านทวนแล้วอารมณ์เปลี่ยน แก้ไม่เลิก

เอาแบบนี้แหละครับ ฮ่า

บทสนทนาจูนานะในทวิตว่าเด็ดแล้ววว
เจอ….
ยอมความ ยอม
เอาไปเลยค่ะ55555 เหมาะกันสุด😂😂😂

อยากรู้หลังจากนี้จะเป็นยังไง~
ใครจะเบื่อใครก่อน55555

ได้ประสบการณ์ “ที่ดี” จากการฝึกงานกันเลยทีเดียว

ขำน้องจู เหมือนเด็กขี้แกล้งที่โดนเด็กขี้แกล้งด้วยกันแกล้ง

แล้วก็โดนล่อลวงไปง่ายๆซะงั้น ฮ่าๆๆ

ฟจตนน แซ่บมากค่ะ 
แต่จบแบบนี้มัน โฮฮฮฮ ค้างคาเกิ๊น

อยากให้มีต่อจังเลยยยยยยย

นานะนางแซ่บมากค่ะ 

โมเม้นท์สองคนนี้เยอะจนจะลืมเบิ้ลอิละ 

อืมมมมม นานะยั่วซะจูไปไหนไม่รอดเลย ช่างเป็นพี่เลี้ยงที่ดีเหลือเกิน บริษัทนี่อยู่ที่ไหน เราจะไปสมัครบ้าง

ชอบง่าาสสส์

แง้ววววววววว ฟินง่าาาาาาาา นานะอ้อยมาก55555 คนประเภทเดียวกันอยู่ด้วยกัน มันส์เลยทีนี้

คู่แปลกดี แต่ฟินมากกก