[Fic] KEHT detective team บทที่สาม (ภาคคดี) 15.03.17

เรื่องนี้เป็นภาคต่อของ CMM206 นะคะ ตัวละครหลักจะเหมือนเดิม

เพิ่มตัวละครใหม่ เนื้อเรื่องก็จะคนละสไตล์กับภาคแรก
โดยจะเป็นแนวสืบสวนสอบสวน บทอินเลิฟก็อาจจะมีบ้าง(รึป่าว)   

 

ชอบหรือไม่ชอบอย่างไรก็เม้นได้นะ XD

 

บทที่ศูนย์

 

รุ่งเช้าสาง บนเตียงนุ่ม ยังมีเด็กสาวคนนึงนอนหลับอย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง รวมถึงเสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งเวลาเอาไว้เวลา 7 โมงเช้า มือขาวอมชมพูเอื้อมมือไปกดปิด พร้อมยันตัวลุกขึ้นนั่ง ขยี้ตาไปมา ตาแหลบไปเห็นข้อความสั้นๆ แปะอยู่บนตู้เย็น

 

“ไปรับแพทย์นิติเวช คนใหม่ทีสิ

สนามบิน NGO เครื่องลงเวลา 9 โมงเช้า

ทาคาฮาชิ มินามิ”

 

เด็กสาวไม่รีรอ รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วขับรถคันโก้ไปสนามบินทันที เธอรู้ดีว่าคนที่ มินามิ ให้ไปรับนั้นเป็นใคร แน่นอนว่า เธอใส่ปลอกแขนว่ามาจากทีมสอบสวน KEHT ซึ่งเป็นข้อกำหนดของทีมว่าถ้าหากต้องทำงานหรือมีภารกิจเร่งด่วนนั้น จำเป็นจะต้องใส่ เพื่อให้ตำรวจรู้ว่า เราเป็นใคร อีกทั้งเด็กสาวยังปลอมตัวเป็นชายหนุ่ม และใส่ผ้าปิดปาก เพื่อต้องการทำบางสิ่งที่ยังคาใจตัวเองอยู่

 

เมื่อมาถึงสนามบิน เด็กสาวในคราบชายหนุ่มยกนาฬิกาขึ้นมามองแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง นี่ก็จะ 10 โมงแล้ว ทำไมยังไม่ออกมาจากเกตสักที แต่แล้วด้วยความที่เด็กสาวจำใบหน้าของอีกคนได้เป็นอย่างดี จึงไม่ต้องลังเล ที่จะเข้าไปทัก

 

“สวัสดีครับ ผมมาจากหน่วย KEHT คุณคือแพทย์นิติเวชที่มาประจำตำแหน่งใหม่ใช่รึป่าวครับ”  

 

“ใช่ค่ะ คุณใช่คนที่ทาคาฮาชิซัง ให้มารับดิฉันใช่ไหมค่ะ” หญิงสาวตอบพร้อมกับขยับแว่นไปมา

 

“ใช่ครับ ตอนนี้คุณคงเดินทางมาเหนื่อยมาก ทาคาฮาชิซัง ได้บอกกระผมให้เตรียมที่พักไว้ให้คุณแล้วครับ เชิญทางนี้ครับ ผมจะไปส่ง”

 

หญิงสาวที่จะมาทำหน้าที่แพทย์นิติเวชคนใหม่ เดินตามเด็กสาวในคราบชายหนุ่มไปอย่างนิ่งเงียบ ระหว่างการเดินทาง ไม่มีคำพูดใดเล็ดลอดออกมาจากปากของคนทั้งสอง จนกระทั้งถึงที่พัก ซึ่งเป็นหอพักสำหรับบุคคลที่ทำงานในหน่วย  KEHT ที่รัฐบาลสร้างให้ เป็นกรณีพิเศษ

 

“คุณผู้หญิง ถึงแล้วครับ”

 

“ขอบคุณค่ะ เอ่อ รบกวนช่วยดิฉันยกกระเป๋าได้ไหมคะ”

 

“ครับ”

 

“ขอบคุณค่ะ”

 

เมื่อชายหนุ่มพาแพทย์นิติเวชคนใหม่มาถึงยังห้องพัก เขาเสียบคีย์การ์ด และกดรหัสผ่านอย่างคล่องแคล่ว

จนหญิงสาวได้แต่ทำหน้าฉงน กำลังคิดบางอย่าง แต่ไม่ได้พูดสิ่งใดออกมา

 

เมื่อประตูห้องเปิด ห้องพักที่ไม่น่าจะมีสิ่งของวางอยู่กลับมี เรียกว่าห้องนี้มีคนอาศัยอยู่ก่อนหน้าแล้ว

 

“ขอโทษนะคะ พาฉันมาผิดห้องรึป่าวคะ”

 

“ไม่ผิด ห้องนี้ ทาคาฮาชิซังบอกผมไว้ เชิญเลยครับ นี่ห้องผมเอง”

 

“เอ๊ะ! จะให้ฉันนอนกับผู้ชายหรอค่ะ เดี๋ยวฉันจะโทรหาทาคาฮาชิซังก่อนนะคะ”

 

หญิงสาวเตรียมจะยกมือถือขึ้นมา แต่ชายหนุ่มก็สามารถแย่งมาได้ พร้อมกับการเปิดเผยตัวตนของตนเองว่าไม่ใช่ชายหนุ่มอย่างที่หญิงสาวคิด

 

ผ้าปิดปาก

 

แว่นตา

 

วิกผม

 

หนวดปลอม

 

ถูกถอดออกทีละชิ้น จนเหลือใบหน้าที่ไร้สิ่งปกปิดใดๆ

 

มุมปากของเด็กสาวยกยิ้มขึ้นมา

 

“สวัสดี เรนะจัง ไม่สิ ควรจะเรียกว่า มัตสึอิซัง จะดูสุภาพกว่า”

 

 

 

 

ติดตามค่า

เย้ยย เดี๋ยวนะ! นี้คือ. . . กลับมาเจอกัน??

อ้าวว สวัสดีจูริโอะคุง

 

เปิดเรื่องก็แกล้งเค้าเลยนะ

เปิดเรื่องมาเป็นจูริโอะคุงเลยหรอ 555
เรนะเป็นนิติเวช
แล้วตกลงแกเป็นหมออะไรอ่ะจู

Wow wow wow!!
เปิดมาก็หลอกเรนะซะแล้วว

โซจังเล่นเรนะซะแล้ว

หึ!!!
รอ~~

มาถึงก็แกล้งเค้าเลยนะจูจัง

ติดตามค่า

บทที่หนึ่ง

 

“จูรินะ? นี่เธอหรอ”

 

“ชั้นจะไม่ตอบอะไรเธอมาก การเจอกันครั้งนี้ถือเป็นโชคดีในความโชคร้ายของฉันก็แล้วกัน”

 

“เธอเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ จูรินะ” เรนะพยายามนำมือซีดๆ มาลูบแก้มเด็กสาวนามจูรินะ

 

“ใช่ เปลี่ยนไปเยอะเลยแหละ อยากรู้ใช่ไหม เพราะเธอยังไงละ เธอบอกชอบฉัน จากนั้นเธอก็หายไป หายไปเลยจริงๆ เธอทำฉันเป็นบ้าไปเลยช่วงนั้น”

 

“จูรินะ ฉันขอโทษ”

 

“คำขอโทษของเธอมันใช้กับฉันไม่ได้ตอนนี้!”  

 

จูรินะเริ่มมีน้ำโหมากขึ้น จูรินะกำข้อมือเรนะแน่นจนแดงไปหมด เรนะน้ำตาคลอ เพราะความเจ็บ เรนะไม่มีทางขัดขืนจูรินะได้เลย เพราะจูรินะถูกฝึกมาอย่างโชกโชน ดังนั้นพละกำลังย่อมมากกว่าเรนะอยู่แล้ว

 

“พรุ่งนี้ต้องทำงานแล้ว โชคดีละกัน”

 

มัตสึอิ จูรินะได้กล่าวไว้ ก่อนจะเดินเข้าห้องของตัวเอง ปล่อยให้เรนะ ยืนนิ่ง ลูบข้อมือตัวเองที่เห็นรอยแดงอย่างชัดเจน

 

“จูรินะ เธอเปลี่ยนไปจริงๆ”

 

——————————————————————————————————————————————————————–

 

 

“อรุณสวัสดิ์ จูรินะ” เมื่อเรนะเห็นจูรินะเดินออกมา ก็ทักทายเหมือนอย่างเคย แต่อีกคนไม่ตอบสนองแต่อย่างใด ทำเหมือนเธอเป็นอากาศธาตุ

 

จูรินะไม่สนใจคำพูดของอีกคน เดินไปที่ประตู เตรียมจะออกไปทำงาน แต่เรนะวิ่งตามมาแล้วจับข้อมือเธอไว้

 

“อย่ามายุ่งกับฉัน” สิ้นเสียงคำประกาศกร้าว เรนะดึงจูรินะเข้ามาหาตัวเอง ยืนหน้าเข้าไปใกล้ๆ

 

“ฉันก็เจ็บไม่แพ้เธอ จูรินะ” พูดจบเรนะก็สะบัดข้อมือของจูรินะอย่างแรง

 

จูรินะสงสัยในคำพูดของเรนะ แต่ก็ไม่อยากถามอะไรออกไปตอนนี้ ทำได้แค่เดินออกจากห้องไป

 

ระหว่างทางไปหน่วยจูรินะสังเกตเห็นสิ่งแปลกๆที่บ้านหลังหนึ่ง

 

กระจกแตกกระจายเต็มสนามหญ้า แต่ประตูไม่ถูกเปิด และมีรอยเลือดอยู่ที่ขอบหน้าต่าง จูรินะจอดรถแล้วรีบลงไปดูทันที เป็นอย่างที่เธอคิด มีคดีฆาตกรรมเกิดขี้นที่บ้านหลังนี้

 

“บอส เกิดคดีขี้น” จูรินะโทรบอกทาคาฮาชิ มินามิ หรือที่เธอเรียกว่าบอสทันที

 

“ที่ไหน”

 

“ส่งพิกัดไปให้แล้ว รีบมาก็แล้วกัน”

 

“เออ เข้าใจแล้วละ”

 

หลังจากที่ติดต่อมินามิไปเพียง 10 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเพื่อนๆ ที่หน่วย KEHT ก็มาถึงที่เกิดเหตุ

 

เทปสีเหลืองที่เขียนว่า CRIME SCENE DO NOT CROSS  ถูกนำมาใช้เพื่อบ่งบอกว่านี่เป็นสถานที่เกิดเหตุ ถูกพันไว้รอบบ้าน

 

“เอ้า ไอ้จู” ซายากะ โยนกระเป๋าให้กับเพื่อนอย่างรู้ใจ

 

“ใจเว้ย”

 

จูรินะหยิบอุปกรณ์ที่จำเป็นออกมาใช้เก็บหลักฐานทั้งหมดที่มีอยู่ บ้านหลังนี้เป็นบ้านหลังไม่ใหญ่มากแต่ก็บ่งบอกได้ว่าผู้ที่เป็นเจ้าของนั้นค่อนข้างมีฐานะ จูรินะเดินสำรวจรอบๆ บ้านถ่ายรูปมุมทุกมุม รอยเท้าบนทางเดิน ซึ่งคาดว่าจะเป็นของคนร้าย เศษกระจกที่กระจัดกระจายอยู่บนสนามหญ้ามีรอยเลือดติดอยู่ จูรินะเลยใช้ลูมินอล ทดสอบ ปรากฎว่าใช่รอยเลือดจริงๆ จูรินะเลยใช้คัตเติ้ลบัต เก็บคราบเลือดมา เพื่อนำเข้าแลปต่อไป และไม่ลืมที่จะถ่ายรูปลักษณะการกระจายของกระจกเก็บไว้

 

ยามาโมโต้ ซายากะ ใช้ฝุ่นผงสีดำปัดที่ลูกบิดประตู และใช้แผ่นใสทาบลงไปเพื่อเก็บลายนิ้วมือ เมื่อเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ก็ทำหน้าที่ของตัวเองอยู่ เธอเดินไปที่ห้องที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นห้องรับประทานอาหาร พบศพอยู่นั่งอยู่ที่พื้น ที่คอของศพพบรูสีม่วงๆ สี่รู มีระยะห่างใกล้เคียงกัน ที่ศีรษะมีร่องรอยการถูกยิง ตรงบริเวณกลางหน้าผาก

 

ระหว่างนั้นเมรุ ก็เดินเข้ามา

 

“โทษที มาช้าไปหน่อย”

 

“ไม่เป็นไร รีบๆมาทำงานเลย” จูรินะเดินเข้ามาสมทบอีกคน

 

เมรุกดชัตเตอร์สิ่งที่เห็นทั้งหมด รวมถึงไปสอบถามเพื่อนบ้านด้วย ผู้ตายชื่อนายพาร์ค ฮิคารุ เป็นลูกครึ่ง พึ่งย้ายมาอยู่ได้ไม่นาน ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ชอบพูดคุยกับเพื่อนบ้าน บางครั้งก็เชิญเพื่อนบ้านไปที่บ้านตัวเองเพื่อนทานข้าวด้วยกันด้วย ส่วนเรื่องครอบครัวผู้ตายเลิกกับภรรยาไปเมื่อหลายปีก่อน

 

หลังจากที่ทุกคนเก็บหลักฐานจากสถานที่เกิดเหตุมาทั้งหมดแล้ว ก็กลับมาที่หน่วย KEHT ซึ่งเป็นห้องแลปที่ใช้พิสูจน์หลักฐาน

 

“ไง มายุ” จูรินะเดินยิ้มเข้ามาหาคนสนิท ที่หาตัวไม่ยาก นั่งประจันหน้ากับคอมพิวเตอร์แทบจะ 24 ชั่วโมง

 

“อะไร”

 

“ไม่มีอะไร”

 

“เดี่ยว มาดูนี่หน่อย นี่เป็นบริษัทคู่แข่งกับบริษัทของผู้ตายทั้งหมด ดูสิมันมีอะไรแปลกๆ” มายุกวักมือเรียกจูรินะให้เข้ามาในห้อง

 

“อืม นั่นสิ ทำไมรายชื่อหุ้นส่วนของหลายบริษัทมีชื่อของผู้ตายอยู่ด้วย”

 

“หรือว่าผู้ตายต้องการจะ take over บริษัทเหล่านี้”

 

“ไม่แน่ หาข้อมูลต่อไปละกัน ” หลังจากพูดจบจูรินะก็เดินออกไป ปล่อยให้มายุนั่งอยู่หน้าจอคอมคนเดียวอีกครา

 

“บอสดูนี่หน่อยสิ ชั้นตรวจเลือดที่อยู่บนกระจกที่แตกแล้ว มีเลือดของสุนัขปนอยู่กับเลือดของผู้ตายด้วย แต่ที่บ้านของผู้ตายไม่มีสัตว์เลี้ยงอยู่เลย ชั้นก็เลยไปที่เกิดเหตุอีกครั้งปรากฎว่าบ้านข้างๆ ผู้ตายเลี้ยงสุนัขเอาไว้ และที่ปลอกคอของสุนัขมีกล้องติดอยู่ ชั้นก็เลยขอดูวิดิโอนั่น ซึ่งคนที่เข้าไปในบ้านผู้ตายคนสุดท้าย เป็นผู้หญิง ไม่เห็นหน้า แต่ว่าให้มายุวัดส่วนสัดและประมาณขนาดของรองเท้าออกมาแล้ว ตรงกันกับภรรยาเก่าของผู้ตาย” จูรินะแจ้งข้อมูลให้กับมินามิทราบ จากนั้นซายากะก็มาร่วมอีกคน

 

“ในที่เกิตเหตุ ไม่พบอะไรที่มีลักษณะใกล้เคียงกับรูที่อยู่บนคอเหยื่อ แต่ชั้นไปวัดขนาดและลองทดสอบกับหุ่นดูแล้ว ขนาดและความลึกตรงที่ตรงกันก็คือ ส้อมตอก 4 ฟัน ระยะห่าง 2mm  ชั้นลงไปถามเรนะซังแล้ว เธอบอกว่าผู้ตายไม่ได้ถูกยิงจนเสียชีวิต เพราะหลอดเลือดบริเวณที่ถูกยิง ไม่มีเลือดกระจายออกมาภายในมาก แสดงว่าถูกยิงหลังจากเสียชีวิตแล้ว ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิตเกิดจากหลอดลมถูกทำลาย ทำให้ไม่สามารถหายใจได้” ซายากะ ชี้แจงในส่วนที่ตนเองรู้

 

“แล้วทำไมชุดของผู้ตายไม่มีรอยเลือดหรือที่คอน่าจะมีรอยเลือดบ้างสิ” ทาคามินะถามกลับ

 

“ชุดนั้น คนร้ายได้เปลี่ยนชุดให้ผู้ตายหลังจากที่ผู้ตายเสียชีวิตแล้ว เพราะว่าเสื้อที่ผู้ตายใส่ไม่มีรอยเลือด แต่พบรอยนิ้วมือ ของผู้ตายซึ่งตำแหน่งของรอยนิ้วมือนั้นไม่เหมือนเวลาที่คนเขาใส่เสื้อเอง นั่นก็เป็นเหตุผลว่ามีคนอื่นเปลี่ยนเสื้อให้ ส่วนกางเกงของผู้ตายพบรอยเลือด ซึ่ง DNA ตรงกับผู้ตาย” ซายากะตอบ

 

“มายุหาที่อยู่ของภรรยาได้รึยัง” ทาคามินะ เดินมาหามายุหลังจากทราบข้อมูลทั้งหมด

 

“ได้แล้ว ให้เมรุกับมิโอะออกไปแล้ว แล้วก็ทำแผนจำลองวิถีการยิงเสร็จแล้วด้วย”

 

“บอสออกหมายจับได้เลย เราเจออดีตภรรยาของฮิคารุซังแล้ว พร้อมหลักฐานมัดตัว” มิโอะโทรมาหาทาคามินะ ซึ่งกำลังดูเหตุการณ์จำลองจากโปรแกรมที่มายุสร้างขึ้น

 

“เข้าใจละ” ทาคามินะ ตอบรับทันที

 

“จากรูปถ่ายทั้งหมดที่จูรินะ ซายากะ และเมรุถ่ายไว้ สามารถจำลองเป็น 3D ได้ ฮิคารุซังถูกฆ่าโดยภรรยาของเขาใช้ ส้อมตอก 4 ฟัน ซึ่งอุปกรณ์ฮิคารุซังใช้ทำงานอดิเรกของเขาเป็นอาวุธ เมื่อฮิคารุซังหมดลมหายใจไปแล้ว ภรรยาของเขาก็ยิงเข้าที่ศีรษะของฮิคารุซังอีกหนึ่งนัดโดยใช้ปืนเก็บเสียง ซึ่งตอนนั้นฮิคารุซังถูกจัดท่าให้ถูกยิงในท่าที่ยืนพึงกระจกอยู่ ก็ทรุดนั่งไปกับพื้น กระจกก็แตกกระจายอย่างที่เห็น และเจ้าสุนัขของเพื่อนบ้านที่ถูกปล่อยเอาไว้หลังจากได้กลิ่นเลือดก็เดินมาตามกลิ่นนั้น จนถูกเศษกระจกบาด ส่วน” มายุอธิบายตามเหตุการณ์จำลอง ซึ่งถูกประมวลผลจากหลักฐาน และ ข้อมูลที่ได้รับจากการพิสูจน์แล้ว

 

“ส่วนเหตุจูงใจ ภรรยาเก่าของฮิคารุซังต้องการที่จะเรียกร้องเงินค่าใช้จ่ายที่ฮิคารุซังเคยตกลงเอาไว้ แต่การเจรจาครั้งนี้ไม่เป็นผลสำเร็จ จึงเป็นจุดจบของฮิคารุซังเอง” ซายากะกล่าว

 

“มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดน่ะ หุ้นที่ฮิคารุซังซึ้อไว้จากบริษัทคู่แข่งของเขา เขาซื้อเอาไว้เพื่อให้ภรรยาเก่าของเขา เพราะบริษัทของเขาเองกำลังจะปิดตัวลงในไม่ช้า เขาจึงนำเงินที่เหลืออยู่ส่วนนึงไปต่อยอด แต่ภรรยาเก่าของเขาไม่เข้าใจ อันนี้ชั้นไปสอบถามจากหุ้นส่วนซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งน่ะ จะว่าไปเรียกบริษัทคู่แข่งก็ไม่ได้ เรียกว่า บริษัทเพื่อนพ้องดีกว่านะ” จูรินะพูดตามสิ่งที่ตัวเองได้ไปหาข้อมูลมา

 

“Close the case” ทาคามินะ ประกาศต่อหน้าทุกคน

 

หลังจากที่คดีคลี่คลายแล้ว ทาคามินะก็เรียกจูรินะเข้าพบเป็นการส่วนตัว

 

“จูรินะ เรนะเป็นไงบ้าง มีปัญหาอะไรรึป่าว”

 

“ไม่มีหรอกบอส ทำไมหรอ”

 

“ก็ทำไมเมื่อเช้าไม่มาทำงานพร้อมกัน อาศัยอยู่ห้องเดียวกัน ทำงานที่เดียวกันอีก ปล่อยให้เรนะมาที่ทำงานเองคนเดียวได้ไง วันแรกด้วยนะ เธอนี่มัน!” ทาคามินะ เอื้อมมือมาหวังจะแขกหัวเจ้าตัวดี ที่ยืนยิ้มเหยียดมุมปากอย่างอวดดี

“need not to know” จูรินะพูดประโยคนี้ก่อนจะบอกลาทาคามินะ แล้วเปิดประตูออกไป

 

 

ข้อมูล
luminol

ตรวจลายนิ้วมือ

ส้อมตอก

Attached Images

สนุกดี คนละอารมณ์กับภาคก่อนเลย ทำไมจูรินะต้องโกรธเรนะด้วย

แบบนี้จะมีอารมณ์มุ้งมิ้งกันมั้ยเนี่ยยยย

 

ตอนแรกแกล้งเค้าอยู่ดีๆ กลายเป็นโกรธซะงั้น

ศพตายได้น่ากลัวมาก

แล้วจูรินะไปโกรธเรนะทำไม

ตอนนี้จูมาซ่ะร้ายเลย
แต่ก็น่ะ ผลออกยังไงเราไม่รู้~

ไรท์คะ เราคิดว่าเรื่องตอนสืบคดีเดินเร็วไปนิดอ่ะ
มันทำให้ความสนุกลดลงนิดนึง

บางทีภรรยาก็โหดไป

ภาคต่อมาแล้ว แต่ผิดคาดเลยแหะ

จูอย่าใจร้ายกับคนแก่นักเลย…#โดนเฮียตบ

จูใจร้าย ไปโกรธเรนะทำไม หึ!!

อย่างที่คห.ข้างบนบอกค่ะ เดินเรื่องเร็วไปนิดนึง^_^
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ

สนุกดี คนละอารมณ์กับภาคก่อนเลย ทำไมจูรินะต้องโกรธเรนะด้วย