[ – Valentine Project – ] Things To Do On Valentine Day? [Jurina,Mayu,Yuki,Rena] 29/2/59

[ – Valentine Project – ]

 

 

 

 

 

What is Valentine Day?

 

 

 

 

 

 

 

 

                “แฮ่ก…แฮ่ก…แฮ่ก…ไม่ได้ ไม่ได้ เราจะยอมแพ้ตรงนี้ไม่ได้ อีกนิดเดียว นิดเดียวเท่านั้น สู้โว๊ย!!” เสียงตะโกนของเด็กน้อยอายุประมาณ 7 ขวบ ผมสั้นสะพานกระเป๋าเป้สีแดงทำเอาคนรอบข้างต่างหันมามองเธอด้วยความตกใจและเอ็นดูในความน่ารักของเธอ ‘เขินจัง!’ เด็กสาวได้แต่หันมองคนรอบข้างแต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาเขินตัวม้วนเพราะถ้าเธอรีบไปให้ถึงเป้าหมายของเธอหละก็….

 

 

 

 

 

                “มัตสึอิ จูรินะ เธอมาสายนะ” เสียงเย็นเฉียบดังขึ้นเมื่อเด็กสาวก้าวพ้นรั่วประตูโรงเรียนไม่ถึงสามก้าว ไม่ต้องหันไปมองเด็กสาวก็รู้ว่านั้นคือเสียงของใคร “แฮะๆ คุณครูชิมาดะคนจวยนี่เอง สวัสดีค่ะ ไปก่อนนะคะ” จูรินะยืมมือไหว้คุณครูผมสั้นที่แต่งตัวเนียบตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมกับไม้เรียวยาวที่อยู่ในมือข้างขวางามๆหนึ่งครั้งก่อนรีบหันกลับทันที

 

 

                ‘ไม่ว่าใครก็ตามที่ที่ได้สบตากับคุณครูชิมาดะหละก็…งานเข้าแน่นอน…’

 

แล้วแบบนี้มีหรอที่คนอย่างจูรินะจะกล้า

 

 

                “เดี๋ยวสิ! จะรีบไปไหน เรายังมีเรื่องต้องคุยกันนะ” เสียงของอาจาร์ยชิมาดะทำให้จูรินะต้องชะงักอีกครั้ง ไม่รู้ว่าตอนนี้อากาศมันเริ่มร้อนหรืออะไรจูรินะได้แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อที่คุณแม่ของเธอพับเตรียมไว้ให้ขึ้นมาเช็ดใบหน้าที่เริ่มมีเหงื่อฝุดขึ้นตามรูขุมขน ‘วันนี้ไอจูไม่รอดแน่นวล’ จูรินะได้แต่เก็บคำพูดไว้ในใจและหันไปยิ้มแหย่ๆให้กับคุณครูชิมาดะที่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอเริ่มจากวอร์มข้อมือข้างขวารออยู่ แต่ไม่ทันได้พูดอะไรต่อก็มีเด็กสาวหน้าตาหน้าแมววิ่งเข้ามาดึงแขนคุณครูชิมาดะก่อนพยายามดึงเธอไปทางที่มีเด็กมุ่งอยู่อีกสองสามคน

 

 

                “คุณครูคะ!! คุณครูชิมาดะ!! มาทางนี้หน่อยคะ ชิมาซากิซังเป็นอะไรไม่รู้คะ คุณครูช่วยชิมาซากิซังด้วยนะคะ”

 

 

 

                ด้วยความเป็นครูแล้วมีหรือที่คุณครูชิมาดะจะเพิกเฉยกับความเดือดร้อนของเด็กนักเรียนในปกครอง “ฝากไว้ก่อนนะมัตสึอิซัง เรื่องของเรายังไม่จบ” ชิมาดะทิ้งท้ายคำพูดให้จูรินะก่อนไปดูแลเด็กสาวที่เจ็บออดแอดมานานปี

 

 

                “ไหน ชิมาซากิซังเป็นยังไงบ้าง… ” ชิมาดะรีบตรงไปทางเด็กกลุ่นนั้น ตามด้วยเด็กสาวหน้าแมวที่หันยิ้มให้จุิรนะหนึ่งทีก่อนรีบเดินตามชิมาดะไป

 

 

                

                ‘ขอบคุณนะยุยจัง พารุจังก็ด้วย’ จูรินะมองไปทางเด็กสาวที่นอนอยู่กับพี้นแล้วก้มหัวขอบคุณคนที่นอนหน้าซีดอยู่แล้วรีบเดินออกจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด

 

 

 

                จูรินะเดินสาวเท้าของเธอมาหยุดที่ห้องเรียนก่อนก้าวเข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ

 

 

 

 

                “ท่านจูรินะมาแล้ว!!” เสียงของเด็กสาวคนหนึ่งดังขึ้นเมื่อเธอเห็นจูรินะก้าวขาเข้าห้องกลุ่มเด็กสาวหลายคนต่างตื่นเต้นที่เธอมาถึง

 

 

                “จูรินะซัง สุขสันต์วันวาเลน์ไทน์นะ” เด็กสาวหลายคนต่างต่างเข้ามารุมล้อมจูรินะพร้อมทั้งแปะสติ๊กเกอร์ทั้งรูปหัวใจบ้างรู้ดอกกุหลาบบ้างจนเต็มเสื้อทั้งด้านและด้านหลังลามไปถึงแก้มใสๆของเธอ

 

 

 

 

 

                “อะไรกันอะไรกัน ไปนั่งที่ได้แล้วเด็กๆ ” เสียงหวานๆใสๆดันขึ้นจากด้านหลังจูรินะถึงจะเป็นเสียงหวานแต่ก็สามารถทำให้ทุกคนที่รุมล้อมจูรินะสามารถสลายตัวได้ “ อ้าว!..จูรินะจังทำไมสภาพเธอถึงเป็นแบบนี้หละ ฮ่าๆ โดนสาวๆรุมให้ของขวัญหรอ” สาวเสียงใสได้แต่กลั้นขำเมื่อเห็นสภาพหน้าของลูกศิษย์เธอ ส่วนคนที่โดนรุมอย่างจูรินะก็ได้แต่ทำแก้มป่องใส่คุณครูของเธอ

 

                

                “คนมันหล่อช่วยไม่ได้นิคะคุณครูเรนะ ” ได้ยินคำพูดของลูกศิษย์ตัวน้อยก็ทำเอาคุณครูเจ้าของชื่ออดขำออกมาไม่ได้ เรนะก้มตัวลงแล้วขยี้หัวของลูกศิษย์สุดหลงตัวของเธอ “เสน่ห์แรงนะเรา” จูรินะจับมือของคุณครูที่ลูบหัวเธอออกก็ทำหน้างอลใส่

 

 

                “บู๊…ล้อไปเถอะ ระวังคุณครูจะหลงเสน่ห์หนูอีกคนนะ” ได้ยินอย่างนั้นยิ่งทำให้เรนะหัวเราะออกมาใหญ่ “จ้าๆ ครูจะรอวันนั้น แต่วันนี้ไปนั่งได้แล้วจ๊ะ ถึงเวลาเรียนแล้ว”

 

 

 

 

 

                “เอาหละ ทุกคนในเมื่อวันนี้ทุกคนคึกคักกันขนาดนี้คงไม่มีอารมณ์เรียนกันเท่าไหร่สินะ ไหนใครบอกครูได้บ้างว่าวันนี้เราคึกคักอะไรกัน” ครูสวยยังสาวอย่างเรนะผู้เข้าถึงจิตใจของเด็กๆเปิดโอกาสให้บรรดาลูกศิษย์ตัวเล็กๆของเธอได้พูด

 

 

                “วันวาเลนไทน์ค่าคุณครูเรนะ” เสียงใสของเด็กต่างตอบเป็นเสียงเดียวกัน จะมีคนไม่ตอบก็มีแต่จูรินะเพียงคนเดียวเท่านั้น

 

 

 

                

                ‘วาเลนไทน์อะไรกัน นี้มันพึ่งวันที่ 12 เอง อีกตั้งสองวันต่างหากหละ’ จูรินะได้แต่บ่นในใจมือของเธอก็ค่อยๆแกะสติ๊กเกอร์ที่บรรดาสาวๆรุมแปะให้เมื่อครู่จัดเรียงให้เป็นระเบียบ

 

 

 

 

                “จ้าๆ ชู่ๆ เงียบก่อนน่าเงียบก่อน ไม่ต้องแย่งกันพูด เอาหละ ที่นี่เรารู้แล้วว่าเป็นวันอะไร แล้วมันสำคัญอย่างไรใครรู้บ้างคะ ถ้ารู้ก็ยกมือตอบครูหน่อยสิ”

 

 

                “เป็นวันแห่งความรักค่ะ!” เด็กสาวตัวตั้งตัวตียกมือขึ้นตอบอย่างรวดเร็ว

 

 

 

                “อืม… นั้นก็ถูกนะ แต่ก็แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นแหละ เอาหละ เดียววันนี้ครูจะมาเล่าประวัติวันวาเลนไทน์ให้ทุกคนฟังนะคะ”

 

 

 

 

 

 

 

                เทศกาลวาเลนไทน์เริ่มมีขึ้นตั้งแต่ยุคที่จักรวรรดิโรมันในยุคนั้นทุกวันที่ 14 กุมภาพันธ์ถูกจัดให้เป็นวันหยุดเพื่อเป็นเกียรติแต่เทพเจ้าจูโนผู้เป็น จักรพรรดินีแห่งเทพเจ้าโรมัน

 

 

 

                ต่อมาในรัชสมัยของ จักรพรรดิคลอดิอัส ที่ 2 แห่ง กรุงโรม มีทำสงครามกันเยอะ ทำให้บุคลากรของกองทัพขาดแคลง และพระองค์ได้ทรงตระหนักว่าที่ชายหนุ่มส่วนมากไม่ต้องการเข้าร่วมในกองทัพเนื่องจากไม่อยากจากคู่รักและครอบครัวไป จึงมีพระราชโองการสั่งห้ามไม่ให้มีการจัดพิธีหมั้นและ แต่งงานกันในโรมโดยเด็ดขาด

แต่ตอนนี้ก็ยังมีนักบุญรูปหนึ่งชื่อว่า เซนต์วาเลนไทน์ หรือวาเลนตินัส ซึ่งอาศัยอยู่ในโรมได้ ร่วมมือกับเซนต์มาริอัสจัดพิธีแต่งงานให้กับชาวคริสต์หลายคู่ทำให้วาเลนไทน์ถูกจับ แต่ถึงจะถูกจับก็มีความเชื่อว่าวาเลนไทน์ได้ตกหลุมรักหญิงสาวที่เป็นลูกสาวของผู้คุมที่ชื่อจูเลีย ซึ่งได้มาเยี่ยมเขาระหว่างที่ถูกคุมขัง ในคืนก่อนที่วาเลนไทน์จะสิ้นชีวิตโดยการถูกตัดศีรษะเขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลียโดยลงท้ายว่า “From Your Valentine”

 

 

 

 

                วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หลังจากนั้นศพของเขาได้ถูก เก็บไว้ที่โบสถ์ พราซีเดส ณ กรุงโรม จูเลียได้ปลูกต้นอามันต์หรืออัลมอลต์สีชมพูไว้ใกล้หลุมศพของวาเลนตินัสแด่ผู้เป็นที่รักของเธอ โดยในทุกวันนี้ ต้นอามันต์สีชมพูได้เป็นตัวแทนแห่งรักนิรันดรและมิตรภาพอันสวยงามและคำนี้ก็เป็นคำที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน แต่ถึงแม้ว่าเบื้องหลังความเป็นจริงของวาเลนไทน์จะน่าเศร้าแต่เรื่องราวของวันวาเลนไทน์ก็ยังแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกสงสาร ความกล้าหาญ

 

 

 

 

                ต่อมาพระในนิกายโรมันคาทอลิกเลยเลือกให้ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันเฉลิมฉลองเทศกาลวันแห่งความรัก”

 

 

 

 

 

 

                “เอาหละ เป็นไงกันบ้าง ได้ฟังเรื่องราวนี้แล้วเด็กๆอย่างพวกเธอคิดอย่างไรกันบ้าง แต่เดี๋ยวก่อน! ยังไม่ต้องแย่งกันตอบนะ เขียนมาส่งให้ครูในวันจันทร์ที่จะถึง วันนี้ครูมีเรื่องจะสอนแค่นี้แหละ ขอให้เด็กๆทุกคนมีความสุขในวันวาเลนไทน์นะคะแล้วก็อย่าเที่ยวจนลืมการบ้านของครูหละ” พูดจบเรนะก็ส่งวิงค์ให้เด็กๆหนึ่งครั้งแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างสบายใจ เพราะวันนี้เธอไม่ต้องใช้พลังในการจับเด็กๆที่แสนน่ารักให้อยู่กับที่มากมาย

 

 

 

                ทุกครั้งที่มีเรื่องเล่าในเด็กๆฟังทุกคนจะต่างตั้งใจฟังในสิ่งที่พูดจนไม่มีใครเล่นซนหรือพูดคุยกันนั้นเป็นสาเหตุหนึ่งที่เรนะเลือกเอาเรื่องวันวาเลนไทน์ที่ทุกคนชื่นชอบมาเป็นหัวข้อในการสอนวันนี้

 

 

 

 

 

                เวลาล่วงเลยมาถึงบ่ายสี่โมงเย็นเป็นเวลาที่ทุกคนรอคอยสำหรับจูรินะก็เช่นกัน เธออยากจะพุงตรงกลับบ้านทันที่ทีเลิกเรียนเพราะวันนี้เธอเหนื่อยล้าอ่อนแรงกับบรรดารุ่นพี่ที่พากันมาสุขสันต์วันวาเลนไทน์กับเธอ อยากจะปฏิเสธใจแทยขาดแต่พอเห็นหน้าของพวกเขาแล้วก็ทำเอาปฏิเสธไม่ลง พอบอกว่าวันนี้พึ่งวันที่ 12 ก็ได้คำตอบกลับมาว่า “วันที่ 14 มันวันหยุด จะเจอเธอได้ยังไงให้ล่วงหน้าแบบนี้แหละใครๆเขาก็ทำกัน” เธอเลยต้องใครๆก็ทำกันตามเลย

 

 

 

 

 

                จูรินะเดินหลบบรรดารุ่นพี่และเพื่อนๆที่ดักรอเธอไปที่ม้านั่งด้านหลังตึกใต้ต้นซากุระ ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่อากาศเย็นอย่างนี้ก็ยังไม่ถึงฤดูที่ซากุระจะผลิดอกให้ได้เห็น เธอได้แต่นั่งรอเวลาจนพวกเธอเหล่านั้นทยอยกันกลับบ้านเธอจะได้กลับอย่างทางสะดวก

 

 

 

                “อ่ะ มัตสึอิซังอยู่ที่นี้ด้วยหรอ” เด็กสาวผมหน้าม้าทวินเทลหน้าตาน่ารักเหมือนหลุดมาจากโลกการ์ตูนทักจูรินะทีนั่งอยู่ก่อน

 

 

                “อ้าว วาตานาเบะซังนี่เอง นึกว่าใคร” จูรินะหันหน้ามองเด็กสาวเพื่อนร่วมของเธออย่างไม่ประหลาดใจ เพราะมายุมักจะมานั่งรอแม่ของเธอที่ตรงนี้เสมอ ที่แปลกคงเป็นตัวของจูรินะเองที่วันนี้มานั่งอยู่ที่เงียบแบบนี้

 

 

                “อืม ทำไมวันนี้เธอถึงมาอยู่ที่ตรงนี้หละ” มายุถามจูรินะที่ขยับตัวให้เธอนั่งข้างๆเขา

 

 

 

                “ก็นะ วันนี้ฉันโดนรุมทั้งวันเลยนิ เธอเองเหมือนกันนิ” จูรินะมองไปที่เสื้อของมายุที่ไม่ค่อยต่างอะไรกับเธอซํกเท่าไหร่ ในเมื่อเธอเป็นที่ฮอตฮิตในหมู่เด็กสาวแล้ว มายุก็เหมือนกับคนที่ฮอตฮิตในหมู่เด็กหนุ่มด้วยเช่นกัน

 

                

 

                “นิดหน่อยหนะ ไม่เยอะเท่ามัตสึอิซังหรอก” มายุหันมองจูรินะที่วันนี้มีสาวๆมาหาไม่ขาดสาย คิดแล้วก็รู้สึกแปลกๆเมื่อเห็นสาวๆพวกนั้นมาเกาะแกะจูรินะ

 

 

                “ไม่ขนาดนั้นหรอก นี่…มายุคิดยังไงกับวันวาเลนไทน์หรอ..คือแบบว่ามีความเห็นยังไงกับเรื่องที่คุณครูเรนะเล่าให้ฟังแบบนั้นอะ”

 

 

                “เรื่องที่คุณครูเรนะเล่าให้ฟังหรอ อืม… นี่เธอจะหลอกถามฉันแล้วเอาไปตอบคุณครูเรนะหรือเปล่าเนี่ย” มายุเริ่มทำหน้าไม่ไว้ใจจูรินะที่มาเรื่องการบ้านกับเธอ

 

 

 

                “ไม่ไม่ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันแค่อยากฟังความคิดของคนอื่นว่าคิดยังไงกับวันนี้ ทำไมถึงเรียกมันว่าวันแห่งความรักทั้งๆที่ฉันว่ามันน่าเศร้าจะตายไป”

 

 

 

 

                “มัตสึอิซังคิดอย่างนั้นหรอ ฉันไม่คิดอย่างนั้นหรอกนะ ถึงมันจะน่าเศร้า แต่เซนต์วาเลนไทน์ก็เป็นคนที่ทำให้หลายๆคนหลายๆคู่ได้แต่งงานกันให้พวกเขาได้แสดงความรักต่อกัน ฉันไม่แปลกใจเลยที่คนจะยกย่องเขาและให้มีวันวาเลนไทน์ทำให้คนรักได้แสดงความรักต่อกัน”

 

 

 

                “นั้นก็จริงนะ ฉันว่า ฉันคงต้องมองวันนี้ใหม่แล้วหละ ขอบคุณนะวาตานาเบะซัง”

 

 

 

                “ฉันยังไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย เออนี่มัตสึอิซัง! ฉันว่าฉันยังเหลือมันอยู่หน่า อยู่ตรงไหนกัน” มายุรื้อของในกระเป๋าหาของบางอย่างที่เธอคิดว่ามันยังมีอยู่จนจูรินะประหลาดใจ “อ่ะ! เจอแล้ว” มายุหยิบแผ่นสติ๊กเกอร์ที่ถูกใช้งานแล้วขึ้นมาก่อนชูให้จูรินะดู

 

 

 

 

 

                “เหลืออันหนึ่งพอดีเลย ฉันให้เธอนะ”

 

 

                “หะ ให้ฉันหรอ ขอบคุณนะ” จูรินะยิ้มร่าให้กับมายุที่กำลังแกะสติ๊กเกอร์รูปหัวใจให้กับเธอ ถึงแม้วันนี้เธอจะได้สติ๊กเกอร์มามากมายแต่ก็ไม่มีของใครที่สามารถทำให้ใจเธอเต้นได้ขนาดนี้

 

 

 

 

                “ฉันจะติดตรงไหนได้หละเนี่ย” มายุมองหาพื้นที่ว่างบนเสื้อของจูรินะที่มีน้อยนิดเหลือเกิน

 

 

                “ไม่มีที่ว่างเลยสินะ อ่ะตรงนี้แล้วกัน” จูรินะปลดกระดุมเมHดแรกของเธอก่อนที่จะโดนมายุตีเข้าเต็มแรง

                 

 

                “ทำอะไรของเธอเนี่ย”

 

 

                “ก็หาที่ให้เธอแปะไง นี่ตรงนี้เลย ไม่มีใครแปะแน่นอนแถมยัตรงหัวใจฉันด้วย” จูรินะแหวกเสื้อนักเรียนของเธอออกแล้วชี้ที่เสื้อทับด้านในของเธอทำเอามายุถึงกับหน้าแดง ไม่คิดว่าจูรินะจะทำแบบนี้

 

 

                “บ้าใครจะไปกล้าหละ”

 

 

                “นี่ไง” จูรินะจับมือของมายุให้สติ๊กเกอร์แปะลงที่ตำแหน่งที่เธอต้องการแล้วมองมันอย่างภูมิใจ “เห็นไหมหละเธอแปะมันแล้วนะ แต่ว่าฉันไม่มีอะไรให้เธอเลย เอายังไงดีนะ อืม… แบบนี้แล้วกัน” จูรินะประทับริมฝีปากของเธอลงที่แก้มใสๆของมายุที่ไม่ได้ทันได้ระวังตัว

 

 

 

 

                พออีกคนตั้งสติได้แก้มของจูรินะก็มีรอยนิ้วครบทั้งห้านิ้ว ทำเอามายุต้องขอโทษจูรินะยกใหญ่แต่ก็ต้องบอกลากันเพราะว่าแม่ของมายุมารับเธอแล้ว ส่วนจูรินะก็รีบตรงกลับบ้านเพราะเลยเวลากลับบ้านมามากพอแล้ว

 

 

 

 

 

 

                ‘คนบ้า คนเค้ารวบรวมความกล้าตั้งนานนึกว่าจะไม่ได้ให้ซะแล้วหอมมาซะได้แบบนี้จะมองหน้าได้ยังไงหละ’ มายุลูบแก้มตัวเองปอยๆ พอนึกคนที่ทำให้เธอไม่มีกระจิตกระใจทำอะไรทั้งวันเพราะหาโอกาสจะแปะสติ๊กเกอร์ให้ทั้งวันแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้จนแม่ของเธอต้องถามว่าวันนี้มีอะไรดีดีหรือยังไงถึงได้ยิ้มอย่างนี้ ‘ก็คนงันแหละมั้ง..นะ’

 

 

 

 

 

 

                “อ่า เสร็จซักทีเยอะอะไรอย่างนี้นะ” จูรินะชูแขนขึ้นบิดตัวไปมาหลังจากที่เธอนั่งแกะสติ๊กเกอร์ที่บรรดาสาวๆแปะให้เธอมาร่วมสองชั่วโมง

 

                “อันนี้สำคัญสุดสินะ” จูรินะดึงเสื้อทับที่เธอใส่อยู่ขึ้นมาก็ประทับจูบลงบนสติ๊กเกอร์ชิ้นพิเศษก่อนแกะมันออกมาแปะไว้ที่หัวเตียงของเธอ

 

 

 

 

“ขอบคุณนะมายูยุ”

 

น่ารักมากๆค่ะ ฟิน>///< # เพิ่งเป็นสมาชิกฝากตัวด้วยค่ะ ^^

เลื่อนอ่านอายุอิจูด้านบนสิบรอบ นี่แน่ใจว่าเด็กน้อยอายุ 7 ขวบ…เอิ่ม

แต่น่ารักอ่ะ มุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งดี มายุน่ารัก งืออออ

Kiss you babe.
(จูรินะวัย18ขวบ)

เพิ่งจะ 7 ขวบมีมาประทับจูบตรงสติ๊กเกอร์
น่ารักน่าหมันไส้จริง

เด็กอายุ 7 ขวบนี่ทำแบบนี้ก็ได้หรอคะ55555555

 

อย่างงี้ก็ได้ด้วยหราาาา

 

ปอลอ ต้องการอ่านต่อมากคะ 

ฮ่าๆๆ  ทั้งที่เห็นชื่อว่าเป็นจูมายุแล้วก็จริงแต่พออ่านเจอชื่อเรนะเรากลับนึกว่าจะมีเบิ้ลอิแถมนิดๆหน่อยๆ

สงสัยเพราะช่วงนี้ต้องการฟิคเบิ้ลอิมากแน่ๆเลย  เห็นมีเรนะปุ๊บเป็นต้องจิ้นจูริเรนะ

 

เข้าเรื่องบ้าง…

จูรินะชอบมายุอยู่ก่อนแล้วและมายุก็ชอบจูเหมือนกันสินะ  แต่เด็กสมัยนี้มันโตเร็วกันจริงๆ

เจ็ดขวบเรายังวิ่งเล่นกับเพื่อนอยู่เลย  ความรักแบบชายหญิงคืออะไร แอบชอบเป็นยังไงไม่รู้จัก  ฮ่าๆๆๆๆ

อ้ายจู เอ็ง 7 ขวบจริงรึ

แต่ก็แก่แดดสมกับเป็นจูรินะแหละนะ

อันนี้ฟิคจูมายุชิมิ แต่ทำไมเราแอบเห็นเบิ้ลอิ หุหุ

อิเด็กหลงตัวเอง โตมาจะยังไงล่ะเนี่ย

คนมันหล่อช่วยไม่ได้ เออ อันนี้ไม่เถียงเฟร้ยยย

ไรท์ให้รีดทั้งหลายกลับไปจิ้นกันเอาเองสินะว่าต่อไปจะเป็นยังไง

คู่เกย์(ตอนเด็ก)น่ารักมากกก มุ้งมิ้งๆ มีติดติ๊กเกอร์ตรงหัวใจด้วย หุหุ ร้ายไม่เบา

น่ารักมากๆค่ะ ฟิน>///< # เพิ่งเป็นสมาชิกฝากตัวด้วยค่ะ ^^

[ – Valentine Project – ]

 

Things To Do On Valentine Day?

 

                ‘14 กุมภาพันธ์ เขาต้องทำอะไรกันนะ?’

 

                คำถามของใครหลายๆคนรวมถึงเธอคนนี้ คาชิวากิ ยูกิ หญิงสาวที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ไม่คบค้าสมาคมกับใคร วันๆหนึ่งของเธอหมดเวลาไปกับงานประจำที่เป็นลูกจ้างคนอื่นเขาและการนอนเพื่อเตรียมพร้อมรับกับงานที่หนักหน่วงที่จะเจอในวันต่อไป และในวันวาเลนไทน์เธอก็คงใช้เวลากับการนอนเหมือนวันหยุดทุกๆวันที่ผ่านมาถ้าไม่มีเขาคนนี้เข้ามาในชีวิตของเธอ คนที่ทำให้วันธรรมดาของเธอกลายวันที่เธอจะไม่ลืมมันไปตลอดกาล

 

                18.00 น.

 

                เรนะซังต้องกลับกี่โมงหรอค่ะยูกิเอ่ยถามคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับเธอขณะที่ทั้งคู่กำลังรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน

 

                อืมที่จริงแล้วฉันก็ไม่ได้ฟิคเวลาเอาไว้ซักเท่าไหร่ ยูกิซังอยากไปไหนต่อหรือป่าวคะหญิงสาวเจ้าของชื่อตอบคำถามของคนตรงข้ามโดนที่มือยังคงหันชิ้นเนื้อในจานอย่างไม่หยุดมือ

 

                ไม่แล้วแหละ วันนี้ฉันเที่ยวมากพอแล้ว เธอจะกลับเลยก็ได้นะฉันไม่ว่าอะไรอยู่แล้วยูกิมองเรนะที่ยังใช้ความพยายามในการหันชิ้นในจานของตัวเองดูท่าว่าถ้าปล่อยให้อีกคนหันต่อไปวันนี้คงไม่ได้กิน

 

                มานี่มา ฉันทำให้ไม่รอให้อีกคนปฏิเสธยูกิใช้มีดและส้อมของตัวเองตักชิ้นเนื้อของเรนะมาไว้ที่จานของตัวเองทันที

 

                อะเออ ขอบคุณคะเรนะได้แต่กล่าวขอบคุณคนตรงข้ามที่กำลังตั้งใจหันชิ้นเนื้อของเธอและปล่อยให้เธอมัหน้าที่ใช้ส้อมจิ้มเข้าปาก

 

                ยูกิซังลองทานดูสิคะเรนะยื่นส้อมของตัวเองไปตรงหน้าของอีกคน พออีกคนทำท่าจะปฏิเสธเรนะก็ทำแก้มป่องทันทีจนอีกคนปฏิเสธไม่ลงได้แต่ทำตามที่เรนะต้องการ

 

                ทำหน้าน่ารักแบบนี้ใครจะไปปฏิเสธได้ลงคอยูกิได้แต่เก็บคำพูดไว้ในใจและกลืนมันลงไปพร้อมชิ้นเนื้อที่เรนะเป็นคนป้อนเธอ

 

                และทั้งคู่ก็ใช้เวลาในทานมื้อค่ำด้วยกันอย่างมีความสุข คนหนึ่งค่อยหันให้ส่วนอีกคนก็ทำหน้าที่ป้อนให้อีกคนจนทำให้โต๊ะรอบข้างต่างพากันอิจฉาความหวานของทั้งคู่

 

                20.00 น.

 

                เรนะซังจะกลับเลยไหมคะ ฉันจะได้เดินไปส่งยูกิพูดขึ้นขึ้นขณะที่ทั้งคู่เดินไปตามทางพร้อมกับคู่รักอีกมากมายหลายคู่

 

                ไม่เป็นไรคะ ฉันยังไม่รีบกลับอะไร อีกอย่างฉันต้องเธอไปส่งยูกิซังมากกว่านะคะเรนะมองหน้ายูกิแล้วคว้ามืออีกคนมากุมเอาไว้จับไว้แบบนี้อุ่นกว่านะคะเธอยิ้มให้กับยูกิก่อนเดินนำอีกคนไป

 

                การกระทำของเรนะทำเอาอีกคนถึงกับอมยิ้มไว้ไม่อยู่ ไม่คิดเลยว่าคนตรงหน้าเธอจะทำตัวน่ารักได้ขนาดนี้ คิดๆดูแล้ววันนี้เรนะทำให้เธอมีความสุขมากถึงมากที่สุดเลยก็ว่าได้

 

                15.00 น.

 

                ยูกิซังอยากดูเรื่องอะไรหรอกคะเรนะถามยูกิโดนที่สายตายังคงมองรอบฉายหนังจากจออยู ช่วงนี้มีหนังที่เธออยากดูอยู่สองสามเรื่องแต่วาเลนไทน์แบบนี้ก็ต้องหนังรักถึงจะเหมาะที่สุดแหละนะ

 

                ฉันหรอ เรื่องอะไรก้ได้ ฉันไม่ค่อยได้ตามซักเท่าไหร่ ไม่รู้หรอกว่าเรื่องไหนสนุกยูกิตอเรนะแบบขอไปที อันที่จริงเธอเองก็ไม่ได้อยากออกมาซักเท่าไหร่แต่เรนะนี่สิรบเร้าเธออยู่ได้สุดท้ายเลยต้องยอมตามใจเขา

 

                งันก็เรื่องนี้แล้วกันเนอะเรนะชี้ไปที่โปรเตอร์หนังรักโรแมนติกที่เข้ากับเทศกาลเป็นอย่างยิ่งยูกิซังรอตรงนี้ก่อนนะคะ เดียวฉันไปซื้อตั๋วแป๊บหนึ่งไม่รอให้อีกคนได้ปฏิเสธเรนะก็เดินตรงไปต่อแถวเพื่อซื้อตั๋วทันที

 

                หายไปไหนของเขานะเรนะมองหายูกิที่บอกให้ยืนรอที่เดิมแต่พอเธอไปซื้อตั๋วหนังกลับมากลับพบแต่ความว่างเปล่า แล้วยูกิหายไปไหนกัน

 

เรนะไม่รู้ว่าเธอควรจะไปตามหายูกิทางไหน ที่คิดได้ตอนนี้ก็คงจะเป็นห้องน้ำ แต่ไม่ทันได้ก้าวก็มีแรงสะกิดที่ไหล่ของเธอ

 

                ยูกิซังเรนะหันไปเรียกชื่อคนที่เธอกำลังตามหาอยู่ ยูกิที่ยิ้นอมยิ้มน้อยให้กับเรนะที่ท่าทางโล่งใจพร้อมกับแก้วน้ำและป๊อปคอร์นในมือหายไปไหนมาคะ ฉันนึกว่าคุณจะ…

 

                ฉันจะอะไร หืม ฉันเห็นเธอไปซื้อตั๋วหนังเลยเดินไปซื้อน้ำกับป๊อปคอร์นมาให้เนี่ย ไปกันเถอะ ใกล้เวลาหนังฉายแล้วพูดจบยูกิก็เดินนำเรนะไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกชื่อเธอจากอีกคนเลย แต่จะไม่ให้เรนะเรียกเธอได้อย่างไรก็มันผิดทางนิ

 

                20.30

 

                ถนนที่เต็มไปด้วยแสงไฟกับคู่รักอีกมากมายหลายคู่ ถึงแม้จะเริ่มค่ำแล้วก็ยังมีผู้คนอยู้หนาตา ยูกิและเรนะยังคงเดินกุมมือกันไปเรื่อยๆ ถึงแม้จะไร้เสียงคุยของทั้งคู่ก็ตาม

 

                ช็อกโกแลตไหมคะเหลือไม่มากแล้วนะคะ คุณผู้หญิงคะ มีช็อกโกแลตให้คนรักหรือยังคะ ถ้ายังทางนี้ได้นะคะ วันนี้ลดพิเศษสำหรับคู่รักเลยนะคะ

 

เสียงของพนักงานขายที่บูทหน้าร้านของหวานทำให้เรนะหยุดเดินเพียงก้าวเดินแต่นั้นก็ทำให้ยูกิรู้สึกได้

 

                ช็อคโกแลตหรอ

 

                ยูกิปล่อยมือเรนะและเดินตรงไปที่บูทขายช็อคโกแลต อย่าไม่สนใจไม่ว่าอีกคนจะทำหน้างงมากแค่ไหน

 

                อะฉันให้เธอยูกิยืนถุงที่พึ่งซื้อมาให้เรนะ ถึงแม้จะไม่โรแมนติกเหมือนภาพที่เรนะฝันไว้แต่อย่างน้อยวาเลนไทน์นี้เธอก็ได้ช็อคโกแตจากใครซักคน

 

                11.00 น.

 

                คนคนนี้ชอบนั่งอยู่เฉยๆหรือไง

 

                สำหรับคนที่อยู่กับยูกิแล้วคงไม่แปลกนักที่จะคิดแบบนี้ เรนะก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน

 

                ยูกิซังจะไม่ออกไปไหนหรอคะเรนะถามยูกิที่ผ่านมาเกือบครึ่งวันเจ้าตัวยังคงนั่งอยู่นิ่งที่หน้าจอโทรทัศน์และดูเหมือนว่าเจ้าตัวก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะดูมันซักเท่าไหร่มาร่วมสองชั่วโมง

 

                อืม ฉันไม่ชอบออกไปไหน วันหยุดทักทีฉันอยากพักผ่อนอยู่ห้องมากกว่าคำตอบของยูกิเป็นคำตอบที่เรนะรู้อยู่แก่ใจแต่ยังถามออกไปเผื่อเจ้าตัวจะอารมณ์ดีมีสำนึกอยากออกไปข้างนอกบ้างคนพูดขนาดนี้แล้วยังจะนั่งนิ่งไม่รู้ร้อนหนาวอีก มันน่าตีไหมเนี่ย

 

                เฮ้อ

 

                เรนะเผลอถอนหายออกมาจนยูกิต้องหันมามองหน้าเธอและถามออกมา พอเจ้าตัวรู้ตัวว่าดันส่งเสียงไม่ควรออกมาก็ได้แต่โทษตัวเองในใจและหันไปปฏิเสธอีกคนรัวๆจนยูกิอมยิ้มออกมาให้เห็น

 

                ยิ่งอีกคนยิ้มออกมาแบบนี้เรนะยิ่งไม่รู้จะเอาหน้าไปเก็บไว้ไหน เกิดมาไม่เคยอายขนาดนี้เลย

 

                ฉันว่าเราออกไปข้างนอกกันดีกว่า เธอคงไม่อยากอู่แต่ในห้องสินะยูกิหยิบรีโมทขึ้มาปิดโทรทัศน์ก่อนเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะชุดที่เธอใส่ตอนนี้คงไม่เหมาะเท่าไหร่กับการใส่ออกไปด้านนอก

 

                เราจะไปไหนกันหรอคะเรนะถามยูกิที่เดินนำเธอโดนไม่บอกจุดหมายปลายทางคนอะไร คิดจะอยู่ในบ้านก็นั่งนิ่งเป็นหมาีแพนด้า พอออกมาข้างนอกก็เดินไม่สนใจกัน ช่วยสนใจกันหน่อยได้ไหม นี่วันนี้ฉันเป็นคู่เดทเธอนะ!

 

                ไม่รู้สิคำตอบของยูกิทำเอาเรนะถึงกลับหยุดนิ่ง อะไรของเค้ากัน คิดจะออกมาก็ออกแต่ก็ไม่คิดว่าจะไปไหนเนี่ยนะฉันแค่ไม่อยากเห็นเธอนั่งถอนหายใจอยู่กลับห้อง เธออยากออกมาข้างนอกใช่ไหมหละ

 

                แต่ถ้ายูกิซังไม่อยากออกมาข้างนอกฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนิคะ

 

                เอาหน่าไหนๆก็ออกมาแล้ว เธออยากไปไหนหละยูกิยกหน้าทีใหเรนะเป็นคนคิดโปรแกรมของทั้งคู่ในวันนี้เพราะดูแล้วให้เรนะคิดคงออกมาดีกว่าเธอคิดแน่ๆ ก็ความคิดของเธอมีแต่นั่งอยู่เฉยๆนี่หน่า

 

                21.30 น.

 

                แก๊ก!

 

                ยูกิไขประตูห้องพักตัวเองพร้อมกับปล่อยให้คนที่อยู่เธอมาทั้งวันเป็นคนปิดประตูห้องให้และบอกให้เขาเดินไปนั่งรอที่โซฟา ส่วนเธอก็เดินตรงไปที่พื้นที่ครัวเล็กๆ จะหยิบเบียร์เย็นๆที่แช่ไว้ออกมาแต่ก็เปลี่ยนใจหยิบโคล่าออกที่แช่ไว้ออกมาสองกระป๋องแทน

 

                อะยูกิยืนกระป๋องโคล่าให้เรนะ ถึงเรนะจะแปลกใจแต่ก็รับมันไว้แต่โดยดี

 

                แปลกจังนะคะ ฉันนึกว่ายูกิซังจะดื่มเบียร์ซะอีกยูกิหันมองเรนะแล้วทิ้งตัวนั่งข้างๆเธอ

 

                ก็เธอต้องกลับบ้านอีกนิ ให้ดื่มกลับไปคงไม่ดีเท่าไหร่ ฉันก็ไม่ชอบดื่มคนเดียวซะด้วยหรือเอาจริงๆแล้วเธอไม่ชอบดื่มเลยมากกว่า นอกจากจะมีงานสังสรรค์หรือดื่มกับเพื่อนนานๆครั้งเท่านั้น

 

                ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วงฉันเรนะหันไปยิ้มให้ยูกิแต่กลับเห้นเจ้าตัวอ้าปากห้าวเข้าให้คงง่วงแล้วสินะเรนะขยับตัวไปชิดด้านขาวของโซฟาและบอกให้ยูกินอนลงที่ตักเธอ ถึงทีแรกยูกิจะปฏิเสธแต่สุดท้ายก็ยอมนอนลงแต่โดยดีอยู่ดี

 

                อย่างน้อยก็ได้นอนตักเรนะอีกซักครั้งแล้วกัน

 

                ยูกิหลับตาลงเพื่อเก็บความรู้สึกตอนนี้ไว้ให้ได้มากที่สุดเพราะหลังจากนี้เธอคงไม่ได้เจอกับเรนะอีก

 

                9.00 น.

 

                ก๊อก…ก๊อก…ก๊อก ก๊อก…ก๊อก…ก๊อก

 

                ค่า ค่า มาแล้วค่าคาชิวากิ ยูกิ หญิงสาวที่ควยใช้เวลาเช้าวันหยุดนี้ในการนอนอย่างสงบค่อยๆพาร่างสูงของตัวเองเดินมาเปิดประตูห้องที่มีคนมาเคาะแต่เช้า

 

                ใครกันมาแต่เช้า วันหยุดแท้ๆแทนที่จะได้นอนยาวๆ

 

                ถึงจะบ่นยังไงสุดท้ายแล้วยูกิก็ต้องเปิดประตูอยู่ดี

 

                มาหาใครคะคำถามที่ไม่ควรจะถามออกไปหลุดออกจากปากของยูกิเพราะความง่วงของเธอก็ทั้งๆที่อยู่ห้องคนเดียวเขามาเคาะแบบนี้ก็ต้องมาหาเธอสิ

 

                อะเออ ใช่ คาชิวากิซังหรือป่าวคะหญิงสาวผิวขาวราวกับหิมะตัวสูงราวร้อยหกสิบกว่าๆยืนฉีกยิ้มอยู่หน้าประตูห้องของยูกิ

 

                ชะ ใช่ค่ะ คุณคือ…

 

                ฉันมัตสึอิ เรนะ ที่วันนี้จะเป็นแฟนคุณหนึ่งวัน ตามที่ได้รับการว่าจ้างมาค่ะ

 

                สิ้นการแนะนำตัวยูกิก็ปล่อยให้เรนะเข้ามานั่งที่โซฟาแบบงงส่วนเธอก็รีบเดินเข้าไปกดโทรศัพท์หาเพื่อนตัวแสบของเธอทันที

 

 

 

 

แต่ดูเหมือนว่าพรุ่งนี้เธอคงต้องขอบคุณเพื่อนเธอแทนซะแล้วแหละ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

___________________________________

 

 

 

 

 

 

มาแบบสั้นๆและงงๆ และคิดว่าคนอ่านก็คงงงเหมือนกัน ฮ่าๆ

 

ยังยืนยันว่ามันเป็นโปรเจคนะครับ แต่จะมีตอนต่อไปเมื่อไรไม่รู้จริงๆ ถึงแม้ว่าจะเลยวันวาเลนไทน์ไปเนิ่นนานก็ตาม ฮ่าๆ

เรนะรับจ้างเป็นแฟนนี่เอง… แต่ดูเหมือนว่าเสร็จจ็อบนี้แล้วจะได้แฟนจริงๆนะ  ฮ่าๆๆๆ

เพื่อนยูกินี่ก็แสนดีเหลือเกินหาสาวสวยมาเป็นแฟนเพื่อนหนึ่งวัน  ทำดีมากค่ะ 

ไม่แน่เพื่อนคนนั้นอาจจะตั้งใจให้เรนะเจอยูกิอยู่แล้วแต่โกหกว่าเป็นคนที่ตัวเองจ้างมาก็ได้

น่ารักดีค่ะๆ  แล้วเราก็ชอบการเรียงลำดับเหตุการณ์ในเรื่องนี้ด้วย 

โอ้ยยยยนี้เด้ก 7 ขวบจีบกันหรอ 55555555