fic(PG13) line is vampire หอพักสุดป่วนกวนแวมไพร์ อัพ! ตอนที่15 (14/06/14)

ดีค่าาา   ไรท์เตอร์ชื่อเบญเจ้าเดิม
 (มาเปิดเรื่องใหม่รู้สึกเรื่องเก่าแกยังไม่เสร็จ)   เรื่องนี้มีคู่แปลกออกมาแล้วว นาโอะอายะ แรงบันดาลใจมาจากรายการske48 no ebi-Friday Night   พวกเด็กเกาะก็ยังมีครบทุกคู่(มั้ง)เหมือนเดิม ส่วนคู่พารุกับยูเรียก็ตามนั้นมาจากมาจิ3

ฝากด้วยน่ะค่ะ เรื่องที่2อย่างเป็นทางการ (เพิ่ม)ภาพประกอปฟิค ไรท์จะมาลงทุกวันเสาร์น่ะค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

น่าสนุกๆ เชียร์ ยูเรียกับพารุ

 

ติดตามนะครัช

เอาจริงดิ…?

สั้นไม่เป้นไร ชอบแนวนี้ให้อ่านทั้งวันก้ยังได้ >< 

ตอนที่1 การเริ่มต้นอีกครั้ง

 

 

ณ มหาลัยแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น กำลังมีงานรับปริญญาในระดับปริญญาเอก  ผู้คนมากหน้าหลายตาล้วนแต่เป็นพ่อแม่ของบัณฑิตเหล่านั้น

 

ต่างมีความสุข แต่ท่ามกลางความสุขของหลายๆคนกลับมีเด็กผู้หญิงสูงราวๆ160ซม.หน้าตาน่ารักดูเด็กเกินกว่าจะรับปริญญาในระดับเอกนั้งอยู่

 

เฉยๆจนหลายๆคนมองนัยน์ตากลมโตของเธอช่างดูไม่มีความสุขและว่างป่าวต่างกลับหลายๆคนที่เอาแต่ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกและเฮฮาตามประสา

 

คนมีความสุขแต่ในความคิดของเด็กสาวกลับคิดว่ามันน่าเบื่อ เพราะตัวเองรับปริญญานี้ไม่รู้จะกี่ครั้งแล้วถ้าให้นับคงไม่ต่ำกว่าสิบ

 

 

‘นี้! นายน้อย อ่ะ! ไม่สิ! ซากุจัง อย่ามั่วแต่นั้งเหมอสิ’ ในขณะที่ฉันกำลังนั้งเหม่อก็มีเด็กสาวหน้าตาน่ารักวิ่งมาสะกิดฉัน อ่ะ! จริงๆแล้ว

 

หน้ารักแค่หน้าตาเท่านั้นแหล่ะ ยัยนี้กวนประสาทจะตายแต่ก็แค่กลับคนในตะกูลเท่านั้นแหล่ะ อ่ะ! ลืมแน่ะนำตัวเลยฉันมิยาวากิ ซากุระเป็น

 

แวมไพร์ตะกูลสูงที่เหลือเพียงตะกูลเดียวในโลก ส่วนยัยคนที่มาเรียกฉันชื่อชิมาซากิ ฮารุกะหรือที่ฉันเรียกว่าพารูรุ

 

 

 

 

“อย่าเครียดไปเลยน่า หน้าจะชินได้แล้วน่ะ อ่ะ! คุณจีนะมารับแล้วไปกันเถอะ”หลายคนอาจจะงงว่าคุณจีนะคือใครคุณจีนะหรือโคจินะ ยุยเป็น

 

ลูกสาวของพ่อบ้านตะกูลฉัน เธอเป็นแวมไพร์เหมือนกับฉันนั้นแหล่ะ อ่ะ! พารุน่ะหรอ พารุน่ะเป็นหมาป่าตะกูลสูงเหลือตะกูลเดียวในโลก

 

เหมือนตะกูลฉัน และนั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้แวมไพร์และหมาป่าที่ไม่เคยถูกกันมาร่วมตัวกันเพื่อรักษาเผ่าพันธ์เอาไว้ ฉันขอบคุณจีนะที่เปิดประตู

 

ให้ฉันและพารุ ก่อนจะเข้าไปนั้งในรถและคุยกับพารุเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งถึงที่หมาย

 

 

 

 

ณ คฤหาสน์มิยาวากิ

 

 

 

‘กลับมาแล้วหรอซากุจังพารูรุ พี่คิดถึงจังเลย’ซัซซี่ที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ วิ่งมากอดฉันกับพารุแต่ “หยุดเลย!”ฉันพูดเสียงนิ่งๆใส่ซัซซี่ ได้

 

ผลซัซซี่หยุดวิ่งและทำหน้ายู่นิดๆเชิงถามว่าทำไม ฉันจึงชี้ไปที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังยืนกอดอกมองซัซซี่อยู่

 

 

 

 

“อ่ะ! เลิฟตันเค้าขอโต้ดดดT_T”ซัซซี่รีบวิ่งไปง้อเลิฟตันทันที

 

 

 

 

ฉันเดินขึ้นมาบนห้องของตัวเองก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงทันที พล่างนอนคิดเรื่องการเรียนมัธยมใหม่ จีนะบอกว่าจะเข้าเรียนใหม่ที่โรงเรียน

 

มัธยมหญิงล้วนฮากาตะซึ่งเป็นโรงเรียนประจำตอนนี้ฉันอยู่โตเกียวพูดง่ายๆฉันก็ต้องย้ายบ้านแต่เพราะซัซซี่มีพลังเคลื่อนย้ายวัตถุเลยไม่ต้องสร้าง

 

บ้านใหม่แค่ย้ายคฤหาสน์ไปอยู่ที่นั้นแล้วให้พารุลบความทรงจำคนอื่นๆว่าเคยมีคฤหาสน์หลังนี้อยู่ถ้าให้ฉันเดาพรุ้งนี้ฉันตื่นมาก็อาจจะไปโผล่อยู่ที่

 

นู้นเลยก็ได้ นอนดีกว่า

 

 

 

 

วันต่อมา

 

 

ฉันตื่นเช้าสุดๆจีนะเตรียมของและเสื้อผ้าใส่กระเป๋าให้ฉันและพารูรุเรียบร้อยแล้ว ฉันจึงเดินไปขึ้นรถประจำคฤหาสน์โดยมีคุณลุงที่เป็นพ่อของจีนะ

 

ขับให้ ใช้เวลาไม่นานก็ถึงโรงเรียนประจำหญิงล้วนฮากาตะ โรงเรียนนี้ค่อนข้างเหมือนโรงเรียนพวกคุณหนูชุดนักเรียนแปลกกว่าโรงเรียนอื่นคือ

 

เสื้อตัวในเป็นสีขาวเนคไทน์เป็นสีแดงมีลายเส้นสีฟ้าเป็นร่างแห เสื้อสูทเป็นสีขาวปกสีดำมีกระเป๋าอยู่ที่ด้านล่างทั้ง2ข้างของสูท กระโปรงลาย

 

สก็อตสีแดงเหลือง มีกระโปรงด้านในสีดำรองเท้าดำ  ที่อธิบายมาเป็นของม.ปลาย ของม.ต้นจะเป็นชุดปกกะลาสีลายสก็อตสีดำ-ขาว

 

กระโปรงลายสก็อตสีเดียวกับปก รองเท้าสีขาวแปลกไหมล่ะ

 

ฉันเดินมากับพารุและจีนะ พารุเงียบสุดๆเพราะเธอไม่ค่อยชอบพวกโรงเรียนประจำสักเท่าไร จริงๆแล้วไม่อยากเรียนแล้วด้วยซ้ำเป็นใครก็เบื่อ

 

จริงไหม?ที่ต้องเรียนๆๆอย่างเดียว(ใช้-ไรท์)

 

แต่ซัซซี่บอกว่าหน้าพวกฉันเด็กเกินไปเลยต้องเรียน ทั้งๆที่พวกฉันมีใบปริญญาไม่ต่ำกว่าสิบใบแล้วน่ะ จีนะน่ะหรอ จีน่ะย้ายมาเป็นคุณครูฝึกหัด

 

ที่โรงเรียนนี้เพื่อคอยอารักษ์ขาฉันและพารุแถมยังเป็นพวกเงียบๆไม่ค่อยพูดและเราก็เดาใจเธอไม่ค่อยออกสักเท่าไรถึงจะรู้จักกันตั้งแต่เด็กๆก็

 

เหอะ

 

 

 

 

ฉันกับพารุเดินมาที่แผนกม.ปลายท่ามกลางสายตาของเด็กสาวม.ปลายหลายๆคนที่มองเรา2คนตาเป็นมัน น่ารำคาญชะมัด นี้คือความคิดของ

 

ฉัน ส่วนพารุน่ะหรอ หน้าเครียดพอๆกัน

 

ในที่สุดฉันและพารุก็มาถึงหน้าห้องพักครู ฉันและพารุมองหน้ากันก่อนจะผลักประตูเดินเข้าไปพร้อมกัน

 

 

 

‘อ่ะ! พวกเธอ2คนใช่นัดเรียนที่สอบเข้ามาได้เต็มรึป่าว’ฉันกับพารุพยักหน้าตอบอาจารย์สาวตรงหน้าจริงๆถ้าไม่บอกว่าเป็นอาจารย์ฉันคงคิดว่า

 

เธอเรียนอยู่ม.ปลายด้วยซ้ำ

 

 

“อาจารย์ชื่อ มัตสึอิ เรนะ เป็นอาจารย์ฝึกหัดและเป็นที่ปรึกษาห้องAห้องของพวกเธอน่ะ ฝากตัวด้วยน่ะ”อาจารย์เรนะยิ้มให้พวกเราอย่างเป็น

 

มิตรก่อนจะผงกหัวเข้าใจเบาๆพร้อมกับยิ้มบางๆให้

 

 

“ฉันว่าพวกเธอไปที่ห้องเรียนดีกว่าน่ะ กระเป๋าเดินทางพวกนี้เอาไว้ที่นี้ก่อนก็ได้”อาจารย์เรนะยิ้มให้พวกเราอีกครั้ง แน่นอนพวกฉันรีบปล่อย

 

กระเป๋าเดินทางราคาแพงอย่างไม่ใยดีเพราะ(โครต)หนัก อาจารย์เรนะมองตามอย่างอึ่งๆเพราะกระเป๋าพวกนี้มันแพงโหดสำหรับคนธรรมดา

 

อย่างเธอเลยน่ะสิ สุดท้ายฉันพารุและอาจารย์เรนะก็เดินมาถึงห้องเรียนม.4-A ซึ่งเป็นห้องเรียนของพวกฉัน

 

 

 

‘ครืดดด’ อาจารย์เรนะเปิดประตูพร้อมกับยิ้มให้นักเรียนในห้อง เมื่อนักเรียนในห้องเห็นอาจารย์เรนะก็รีบนั้งประจำที่ทันทีก่อนจะมองพวกเรายัง

 

กับไม่เคยเห็นคนมาก่อน มันทำให้ฉันและพารุหงุดหงิดเป็นอย่างมาก

 

 

“เอาล่ะ! ทุกคนนี้คือเพื่อนรวมฉันของพวกเธอพวกเค้าเพิ่งย้ายมาจากโตเกียวน่ะ อ่ะ! แนะนำตัวสิ”อาจารย์เรนะพูดแล้วผายมือมาทางฉันและ

 

พารุเป็นเชิงว่าเอาเลย

 

 

“สวัสดี ชิมาซากิ ฮารุกะ พารุ ยินดีที่ได้รู้จัก”พารุพูดด้วยสีหน้านิ่งๆก่อนจะถอยหลังมาก้าวหนึ่งเป็นเชิงว่าให้ฉันพูดต่อ

 

 

“ฉัน มิยาวากิ ซากุระ”ฉันพูดเสร็จ ใช่! ฉันพูดแค่นั้นกันจริงๆ ตอนนี้บรรยากาศในห้องค่อนข้างอึมครึมสุดๆ อาจารย์เรนะเห็นถ้าไม่ดีเลยพูด

 

ต่อว่า

 

 

“งั้นที่นั้งของพวกเธอก็ อืมม.. ซากุจังนั้งข้างๆอาเนียแล้วกันอาเนียยกมือหน่อย”เด็กสาวลูกครึ่งรัฐเซียน่าตาน่ารักยกมือขึ้นอย่างร่าเริงก่อนจะ

 

กวักมือเรียกฉันทำเอาฉันอึ้งนิดๆ(อึ้งไรหร๊า//โดนถืบ)ฉันเดินไปนั้งลงข้างๆเธอแต่เหมือนเธอจะพูดอะไรบ้างอย่างฉันจึงตัดบทหันไปทาง

 

หน้าต่างทันที แต่กลิ่น อืมมม กลิ่นเลือด มะ ไม่น่ะ กลิ่นเลือดของเธอแรงมากขนาดอยู่ไกลๆยังได้กลิ่น  กลิ่นของเธอมันทำให้ฉันกระหาย

 

เลือด ทดอีกหน่อย แค่ไม่หันไปมองเธอก็พอแล้ว พยายามไม่ดมกลิ่นละกัน

 

 

“อืมมม ที่นั้งพารุตรงยูเรียละกันน่ะ”เรนะชี้ไปทางเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง เพารุจึงเดินไปนั้งแต่เด็กผู้หญิงคนที่ชื่อยูเรียอยู่ๆก็เอาหน้ามา

 

ใกล้ๆฉันก่อนจะดมฟุดฟิดและพูดกลับฉันเบาๆว่า

 

“พารุใช้น้ำหอมกลิ่นเดียวกันเลยน่ะ”ก่อนจะยิ้มให้ฉัน เฮ้ย! ทำไมรู้สึกหน้าร้อนๆ

 

 

 

 

ตอนนี้ใครจะคิดยังไงกับพวกเราฉันไม่รู้ ตอนนี้พวกฉันรู้แต่ว่า ได้เวลาแล้วล่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

“สำหรับการเริ่มต้นครั้งใหม่”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ซาคุคุงอยากดูดเลือดอาเนีย อันนี้ถ้าเว้นบันทัดแปลกๆขออภัยน่ะค่ะ
 

ปล.เห็นฟิคเรื่องอื่นชอบเรียกเรนะว่าป้าเราเลยเขียนให้ป้า เอ้ย! เรนะเด็หน่อย

น่าสนุกๆ เชียร์ ยูเรียกับพารุ

 

ติดตามนะครัช

เคยอ่านหนังสือแนวๆนี้เหมือนกัน..

แวมไพร์จะแพ้พวกกลิ่นเลือดแรง.. 

( ประมาณว่าเลือดหอมอ่ะ )

สุดท้ายก็ไม่รอดพ้นมือพวกเลือดหอมไปได้

//เสร็จหมดทุกราย..

 

ซากุระะะะ อย่ากินลิงเลย

สงสารมันเหอะ ลิงเป็นสัตว์หายาก ( ฮ๊ะ?? )

อะคิกๆ ซากุระจังทนอีกนิด เดี๋ยวกัดอาเนียขึ้นมาจะเป็นเรื่อง 55 เลือดลิงรัสเซียนี่ 555555

เย้ๆ ซากุอาเนีย เจ๋งเป้งง ~

เดี่ยวๆ ซากุระเมะ?? O.o

แหมๆซากุจังเป้นแวมไพร์สายเลือดแท้สินะ อืมๆรอดูซากุอาเนีย ><

กรี๊ด พารุยูเรียชอบมากอะ ฟินตั้งแต่มาจิสึกะล่ะ OwO

อ้าวลิงซวยแล้วดิ ซากุระอย่านะ…..อย่ายอม 5555//โดนถีบ

ตอนที่2 วันแรกที่แสนวุ่นวาย

 

 

‘กริ๊งงงงง’   ‘ตึ้ง!’  เสียงกริ๊งบอกเวลาพักกลางวันดังขึ้นฉันลุกขึ้นแถบจะทันทีและเดินไปคว้าแขนพารุออกจากห้องทันที   

 

 

“เฮ้ออ”ทันทีที่ออกจากห้องฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกทันที กลิ่นเลือดของผู้หญิงที่ชื่ออาเนียทั้งแรงและหอมสำหรับแวมไพร์ นี้ถ้าฉันไม่ใช้แวมไพร์ตะกูลสูงคงอดใจไม่ไหวกัดยัยนั้นไปแล้ว

 

 

“แกเป็นอะไรของแกล่ะเนี้ย”พารุพูดเสียงนิ่งๆตามแบบฉบับของตัวเอง

 

 

“ก็เลือดของผู้หญิงที่ชื่ออาเนียแรงมากจนฉันกระหายเลยน่ะสิ”ฉันพูดเสียงนิ่งๆพล่างเอามือล้วงกระเป๋าเสื้อสูทตามแบบฉบับตัวเองเหมือนกับพารุที่แกะกระดุมเสื้อออก2-3เม็ดเพราะร้อน          จริงๆอากาศแบบนี้ไม่ถึงกับร้อนหรอกออกหนาวนิดๆด้วยซ้ำแต่เพราะพารุเป็นหมาป่าเลยมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าปกติเท่านั้น  จะว่าไปฉันก็ร้อนเหมือนกันน่ะเนี้ยไว้เท่าความคิดฉันก็แกะกระดุมเสื้อสูทก่อนจะดึงเนคไทค์ลงนิดหน่อยพร้อมกับแกะกระดุมเชิ้ตออกอีก2เม็ดและเอามือขยี้หัวอย่างเคยชิน ฉันเงยหน้าขึ้นมาหลังจากจัดการกับตัวเองเสร็จ แต่ก็ต้องตกใจเมื่ออยู่ๆก็มีกองทัพเด็กผู้หญิงในโรงเรียนมารุม(?)ฉันและพารุ

 

 

‘ชิ!’ พารุที่รู้ทันสถานการณ์ ก็ใช้สกิลหมาป่าวิ่งหนีไปปล่อยให้ฉันยืนงงๆกับสถานะการณ์เมื่อตั้งสติได้ฉันก็ใช้สกิลแวมไพร์วิ่งหนีตามพารุไป

 

 

 

Anna past

 

 

‘อาเนียเด็กผู้หญิงที่ตัวขาวๆซีดๆที่นั้งข้างเธอไปไหนแล้วล่ะ’เสียงเพื่อนของฉันโทโมนากะ มิโอะถามฉันเรื่องยัยซีดขี้แก็กนั่น มันทำให้คนอย่างมุราชิเกะ อันนะหรือที่เพื่อนๆเรียกกันว่าอาเนียหงุดหงิด

 

 

“ช่างยัยซีดนั่นเถอะ มากินข้าวกันดีกว่าหิวมากเลยตอนนี้”ฉันบอกปัดๆก่อนจะหยิบข้าวกล่องในกระเป๋ามากิน

 

 

“อ้าวว ทำไมพูดงั้นล่ะ ซากุระจังเค้าออกจะน่ารักถึงจะเงียบๆไปหน่อยก็เหอะ”เสียงของนาโอะเพื่อนสนิทของฉันอีกคนดังขึ้น พร้อมกับบิดตัวไปมาอย่างน่าหมั่นไส้

 

 

“อืมม แล้วคุณพารุล่ะยูเรีย”มิโอะเลิกสนใจฉันและหันไปถามเพื่อนสนิทอีกคน(รู้สึกจะสนิทเยอะ-ไรท์) นั่นก็คือยูเรีย ยูเรียทำแก้มป่องนิดหน่อยก่อนจะพูดว่า

 

 

“ก็ซากุระจังเค้าลากพารุจังไปอ่ะ”ยูเรียพูดเสร็จก็ทำแก้มป่องต่อ

 

 

‘ตึง!!’ เสียงใครบางคนวางข้าวกล่องลงบนโต๊ะของพวกเธออย่างแรงจนพวกเธอหันไปมอง

 

 

“อาจารย์เรนะ!!!”พวกเรา4คนประสานเสียงกันอย่างมิได้นัดหมายเล่นเอาคนที่ถูกเรียกชื่อสะดุ้งเฮือก

 

 

“แหม่ๆอย่าตะโกนกันสิ อาจารย์ตกใจเป็นน่ะ”เรนะพูดก่อนจะลากเก้าอี้มาร่วมวงทานอาหารกลางวันกับพวกเรา

 

 

“อ้าวว อาจารย์ไม่ไปทานที่ห้องพักครูล่ะค่ะ”เป็นยูเรียที่ใจกล้าถามออกไป

 

 

“ก็อาจารย์ไม่มีเพื่อนอ่ะ คนที่อาจารย์สนิทที่สุดคงเป็นพวกเธอนี้แหล่ะ”เรนะพูดก่อนจะคีบอาหารเข้าปากอย่างสบายใจ พวกเราพยักหน้าก่อนจะทานอาหารตามและคุยกันอย่างปกติ

 

 

 

 

หลังเลิกเรียน

 

 

Sakura past

 

 

หลังจากที่ฉันและพารุวิ่งหนีกองทัพเด็กผู้หญิงเสร็จ เรา2คนก็มาเอากระเป๋าเดินทางที่ห้องพักครูและเตรียมจะไปที่หอพักตามที่เรนะบอก

 

 

“คือว่าน่ะ หอพักที่พวกเราอยู่ชื่อหอUNDERน่ะ เป็นหอที่จะมีแต่เด็กท็อปของโรงเรียนซะส่วนใหญ่แต่ตอนนี้มีนักเรียนที่พักแค่8คนเองน่ะ ไว้ฉันจะแน่ะนำให้รู้จัก อ่ะ! ถึงพอดี”เรนะอธิบายเสร็จก็ถึงหน้าหอพักพอดี หอพักนี้ออกแนวคฤหาสน์ทรงยุโรบดูโบราณๆและดูลึกลับจนน่ากลัวเรนะยิ้มก่อนจะเปิดประตูเข้าไป

 

 

“นี้! ทุกคนลงมาหน่อยสิมีเด็กใหม่จะให้รู้จัก”เรนะตะโกนขึ้นเบาๆ(?) และทุกคนในหอที่มีอยู่8คนก็ลงมา กลิ่นนี้มัน ไวเท่าความคิดฉันหันไปตามกลิ่มก็เจอกับชัดเลย ยัยคนที่ชื่ออาเนียนี้ ซวยแล้วถ้าสีตาฉันเปลี่ยนตอนนี้ได้อึ้งกันเป็นแถวแน่

 

 

“เอออ นี้เพื่อนใหม่ของพวกเธอน่ะ พารุกับซากุระจัง”เรนะพูดก่อนจะยิ้มเป็นเชิงให้คนอื่นแนะนำตัวบ้าง

 

 

“เออ ฉันมาโดกะ นั้นมิโอะ นาโอะ ยูเรีย อาเนีย ฟูโกะ มายุ อาโออิ นาโกะจัง”เด็กผู้หญิงที่ชื่อมาโดกะแนะนำเสร็จสัพ ก่อนจะเดินกลับขึ้นไป คนอื่นๆก็เหมือนกัน เรนะเห็นดังนั้นเลยพาฉันขึ้นมาที่ชั้น2ชั้น2นี้มีห้องอยู่ประมาณ10กว่าห้อง ทางเดินค่อนข้างมืดเรนะเปิดไฟทางเดินก่อนจะมาหยุดอย่ที่ห้องๆหนึ่งก่อนจะส่งกุญแจให้ฉัน2คน

 

 

“ห้องนี้ของซากุระจัง ส่วนห้องตรงข้ามของพารุน่ะ”เรนะพูดก่อนจะเดินไปชั้นล่าง พารุส่งกระเป๋าใบเล็กๆให้ฉัน ก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเองไป ฉันยิ้มนิดๆเพราะไม่คิดว่าพารุจะรู้ใจฉันขนาดนี้ ฉันเดินเข้ามาในห้องตัวเองเปิดไฟและเดินตรงมาที่เตียงก่อนจะเปิดกระเป๋าใบเล็กที่พารุยื่นให้ แน่นอนในนั้นคือเลือด เลือดจากโรงพยาบาลของซัซซี่ ฉันเปิดถุงเลือรินใส่แก้วขึ้นดื่มและเดินมาที่กระจกแน่นอนว่าเป็นอย่างที่คิด

 

 

“ตาเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลทองจริงๆด้วยแห่ะ” ฉันดื่มเลือดเสร็จก็เก็บลงกระเป๋าใบเล็กที่พารุให้มาก่อนจะซ่อนมันไว้ใต้เตียงและเดินมาจัดของในห้อง

 

 

 

ณ คฤหาสน์มิยาวากิ(ย้ายมาที่ฟุกุโอกะ)

 

 

‘ท่านซาชิฮาล่ะครับ’ เสียงแวมไพร์ระดับล่างเรียกซัซซี่

 

“มีอะไร”ซัซซี่ตอบด้วยเสียงนิ่งๆล้วนแต่เต็มไปด้วยอำนาจ

 

 

“คือทายาทของท่านองครักษ์ทาชิมะจะขอมาอยู่ที่นี้น่ะครับ”

 

 

“ลูกของท่านทาชิมะงั้นหรอ เอาสิ เดียวฉันทำเรื่องให้”ซัซซี่พูดก่อนจะเดินกลับขึ้นไปชั้นบนของบ้าน

 

 

 

 

 

 

 

“ลูกของท่านทาชิมะ คงทาชิมะ เมรุล่ะมั้ง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ทำไมนักเรียนหอนี้เย็นชากันจัง เมรุจะออกแล้ว

ลุ้นกันน่ะว่าเมรุจะเป็นหมาป่าหรือแวมไพร์ สั้นไปขออภัย

วันนี้วันเกิดซากุจัง

ปล.ชุดนักเรียนแบบนี้เลย ม.ต้นจะเป็นแบบที่รุ่น2ใส่ ม.ปลายจะเป็นแบบรุ่น1ใส่
 

เคยอ่านหนังสือแนวๆนี้เหมือนกัน..

แวมไพร์จะแพ้พวกกลิ่นเลือดแรง.. 

( ประมาณว่าเลือดหอมอ่ะ )

สุดท้ายก็ไม่รอดพ้นมือพวกเลือดหอมไปได้

//เสร็จหมดทุกราย..

 

ซากุระะะะ อย่ากินลิงเลย

สงสารมันเหอะ ลิงเป็นสัตว์หายาก ( ฮ๊ะ?? )

อะคิกๆ ซากุระจังทนอีกนิด เดี๋ยวกัดอาเนียขึ้นมาจะเป็นเรื่อง 55 เลือดลิงรัสเซียนี่ 555555

เย้ๆ ซากุอาเนีย เจ๋งเป้งง ~

อ๊ากกกกกกก

//จิ้นไปไกล

ซากุระชักจะทนไม่ไหวแล้วชิมิ?

// กรี๊ดดด จับกดโลดดด

#ใครปาเกิบใส่หัวเก๊าา?

เย้เมรุออกมาแล้ว รอมาตั้งนาน

เมรุต้องเป้นแวมไพร์ๆๆๆๆๆ >[+++++++]<

อาจารย์เรนะที่จริงแล้วอยากนั่งกินข้าวกับเด็กๆก็บอกมาเถอะ แอบเนียนนะแหม่ 55555 //วิ่งหนีเรนะ

หนูเมลออกแล้วววว  อืม…จะเป็นอะไร….แล้วแต่ไรท์เลยคร้าบบบบ 5555  //โดนตบโทษฐานกวน

น้องเมรุ -0- เป็นทั้งแวมไพร์และหมาป่า จะได้กินทั้งเลือดและเนื้อของมิโอะ // เมรุไล่เฉือนนนน !! // ก็น้องกินเก่งอ่ะ -3- // หลบหนีจากการโดนยำ เปลี่ยน เคิ๊กๆ

เมรุจังออกมาเเล้ว 55 มาหาคนหัวเถิกล่ะสิ -3- ป้าเเก่ซัชซี่ โอ้ มีเฮียเรนะที่เเก่อีกคน 5555

ซากุอาเนีย ใครจะเมะ ใครจะเคะ ก็ฟินหมดเเหละค่ะ ~~~~ 

ตอนที่3 นักเรียนใหม่

 

 

 

“เอาล่ะ! ทุกคนวันนี้มีนักเรียนใหม่มาน่ะ เข้ามาสิ!”ตอนนี้พวกเราอยู่ในคาบโฮมรูมชีวิตฉันเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแม้แต่เรื่องที่ต้องทนนั้งข้างๆยัยเลือดหอมนี้ ฉันก็ไม่รู้ว่าจะทนได้นานเท่าไร ฉันเจอพวกเลือดหอมมาเยอะก็จริงแต่ยัยนี้หอมมากจนบางครั้งฉันยังเคลิ้มเลย    ว่าแต่นักเรียนใหม่ที่เพิ่งเดินเข้ามาหน้าคุ้นๆแห่ะ

 

 

“แนะนำตัวสิ”เรนะพูดกับเด็กใหม่  เด็กใหม่คนนั่นหันมายิ้มเจ้าเลห์ใส่ฉันก่อนจะพูดแนะนำตัว

 

 

“สวัสดีฉันทาชิมะ เมรุ ไม่ได้เจอกันนานเลยน่ะค่ะ นายน้อย!”เด็กใหม่ที่ชื่อเมรุเน้นคำว่านายน้อยอย่างชัดเจนทำให้คนทั้งห้องหันมามองฉัน เมรุค่อยๆเดินมาหาฉันท่ามกลางสายตาของคนทั้งห้องพารุเห็นท่าไม่ดีเลยลุกขึ้นแต่เจอฉันส่งสายตาเชิงว่าไม่เป็นไรจึงนั้งลงและจ้องเมรุอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ

 

 

“ถือว่านี้เป็นของขวัญล่ะกันน่ะค่ะ นายน้อย!” ‘ตุ้บ!’ เมรุชกใส่ฉันอย่างแรงแต่มีหรือว่าพารุจะปล่อยให้ลูกของผู้มีพระคุณของตัวเองเป็นอะไร จึงลุกไปใช้แขนกันหมัดเมรุไว้ ‘ตุ้บ!’ พารุง้างหมัดต่อยเมรุอย่างแรงจนลงไปกองกับพื้น

 

 

“อย่าคิดว่าแกเป็นลูกของท่านองครักษ์ทาชิมะ แล้วจะทำแบบนี้กับนายน้อยได้น่ะ!”พารุทนมาไหวกับการกระทำอันล้ำเส้นของเมรุจนเผลอหลุดไปว่าเมรุเป็นใครทำเอาคนทั้งห้องมองอย่างสงสัย

 

 

“โห้วว ท่านพี่ข้าล้อเล่นนิดเดียวเองถึงขนาดต่อยน้องตัวเองได้ลงคอ อุต๊ะ! ตายล่ะ!”เมรุที่เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองหลุดศัพท์โบราณออกไป อุทานขึ้นมาอย่างตกใจ ก่อนจะไปกระซิบกับพารุผู้มีศักดิ์เป็นพี่สาวแท้ๆของตัวเองพูดง่ายๆเธอก็เป็นหมาป่านั้นแหล่ะ=_=

 

 

‘ซวยแล้วทำไงดีอ่ะพี่’เมรุพูดอย่างลุกลี้ลุกลน

 

 

‘แกเพิ่งรู้ตัวหรอ’ พารุพูดอย่างเอือมๆ ก่อนจะค่อยๆเดินกลับบไปนั้งที่ตัวเองและดีดนิ้วดังป๊อก! ทุกอย่างกลับเป็นปกติทุกคนดูงงๆนิดๆการเรียนคาบแรกผ่านไปด้วยดี แต่มีสิ่งที่พวกเธอ3คนนั่นไม่รู้คือยังมีคนๆหนิ่งไม่โดนลบความทรงจำ

 

 

 

 

“เมื่อกี้มันอะไรกัน”อาเนียพึมพำเบาๆ

 

 

 

 

คาบพละ

 

 

 

พวกเราทั้งห้องปิดประตูห้องเรียนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าฉันรู้สึกไปเองรึปล่าวน่ะว่าอาเนียจ้องพวกฉัน3คนอย่างจับผิดสุดๆ แต่สุดท้ายฉัน3คนก็ไม่สนใจฉันค่อยๆแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวบางและถอดมันออกอย่างเบามือเผยให้เห็นผิวขาวซีดและเนินอกที่โผล่พ้นขอบบราสีดำออกมานิดหน่อย ฉันรู้สึกว่าคนทั้งห้องหันมามองฉันอีกครั้งในใจฉันก็คิดว่าพวกนี้มันเป็นโรคจิตรึไงมองฉันอยู่ได้ ฉันหยิบเสื้อพละสีขาวมาสวมก่อนจะค่อยๆถอดกระโปรงจนมันลงไปกองกับพื้นและหยิบกางเกงพละสีแดงค่องข้างสั้นมาใส่ ฉันหยิบยางรัดผมมารัดผมสั้นของฉันให้มันเป็นทรงหางม้าก่อนจะเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋านักเรียน และหันไปมองทางอาเนียที่แต่งตัวเสร็จแล้วแต่หน้าเธอแดงจนฉันอดสงสัยไม่ได้จึงเดินเข้าไปหาและสะกิดสองทีก่อนจะถามเธอว่า

 

 

“เป็นอะไรรึป่าวหน้าแดงๆ”ฉันพูดก่อนจะเอามืออังหน้าผากเธอ

 

 

“เอ..ตัวก็ไม่ร้อนนิ”ฉันถามแบบงงๆแต่อาเนียกับหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆก่อนจะปัดมือฉันออกและพูดว่า

 

 

“มะ ไม่ ปะ เป็นไรหรอกไปก่อนน่ะ”อาเนียพูดตะกุกตะกักก่อนจะลากเพื่อสนิททั้ง3คนของตัวเองออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว ฉันมอง

ตามอย่างงงๆ ก่อนจะสื่อสารทางจิตกับพารุและเมรุว่าเสร็จรึยังก่อนจะเดินลงไปที่สนามข้างล่างพร้อมกัน

 

 

 

 

ณ สนามหญ้าของโรงเรียน

 

 

 

“เอาล่ะทุกคนอาจารย์ชื่อยามาโมโต้ ซายากะ เป็นอาจารย์สอนพละของพวกเธอ”อาจารย์ซายากะพูดอย่างเป็นกันเอง โชคดีที่นี้เป็นหน้าหนาวไม่งั้นฉันได้ร้อนตายแน่ดูเหมือนว่า2พี่น้องหมาป่าจะเหงื่อท่วมตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยด้วยซ้ำ

 

 

“ก่อนอื่น ครูขอถามอะไรอย่างน่ะพวกเธอสนใจกีฬาอะไรกันบ้างล่ะ พอดีโรงเรียนมีหลักสูตรเรียนตามความสนใจของนักเรียนน่ะ ใครจะเรียนกีฑาไปที่ลู่วิ่งส่วนใครสนใจวอลเล่ไปที่โรงยิมเลยคุณครูยูกิรออยู่”

 

 

“จะเรียนอะไรล่ะ”ฉันหันไปถามพารุและเมรุด้วยเสียงนิ่งๆ

 

 

“หนูวิ่งน่ะ!!”เมรุพูดออกมาเสียงดังจนหลายๆคนมองตาม

 

 

 

“อืมม วิ่งก็วิ่ง”ฉันตอบก่อนจะเดินไปที่ลู่วิ่ง

พวกอาเนียเหมือนจะเลือกวอลเล่บอลและเดินไปทางโรงยิมเรียบร้อยแล้ว จริงๆคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบวิ่งเท่าไรเพราะเป็นกีฬากลางแจ้งเลยมีคนเลือกแค่5คนเท่านั้นเอง อีก2คนเป็นคุณมายุและคุณมาโดกะที่อยู่หอเดียวกัน

 

 

“อืมม น้อยกว่าที่คิดแห่ะ”คุณครูซายากะพูดออกมาอย่างเหนื่อยๆ

 

 

“พวกเธอรองประจำลู่วิ่งสิ”คุณครูซายากะออกคำสั่ง พวกเรา5คนเลยไปประจำลู่วิ่งตามที่ครูซายากะบอก

 

 

“ฉันจะให้พวกเธอวิ่ง100เมตรก่อนน่ะ อยากจะรู้ว่าวิ่งกันได้กี่วิ เอาล่ะ เตรียมตัว!”ครูซายากะพูเร่งรัดจนพวกเราทำแทบไม่ทัน

 

 

 

“ระวัง!…”

 

 

 

“ไป!!!”ออกคำสั่งไปของครูซายากะทำให้พวกเราออกตัวอย่างรวดเร็วจนครูมองพวกเรา3คนอย่างงงๆ

 

 

 

‘ติ๊ด!’ เสียงกดเครื่องจบเวลาดังขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งๆที่เพิ่งออกตัว

 

 

“อืมม พวกเธอวิ่งเร็วกันมากเลยน่ะ แห่ะๆ”ครูซายากะหัวเราะแห้งๆ ก่อนจะเริ่มบอกผลเวลาการวิ่ง

 

 

“ที่1 ชิมาซากิ 3.01วิ”

 

“ที่2 มิยาวากิ 3.16วิ”

 

“ที่3 ทาชิมะ 3.69วิ”

 

“ที่4 โมริยะสุ 7.50วิ”

 

 

“ที่โหล่ วานาตาเบะ 7.87วิ”

 

 

 

สรุปคุณครูซายากะก็ปล่อยพวกเรากลับหอก่อนเวลาเพราะวิ่งเร็วมากส่วนคุณมาโดกะและคุณมายุก็อยู่ซ้อมตามระเบียบ

 

 

 

 

 

ตอนนี้ฉันกำลังแช่อ่างอาบน้ำอย่างสบายใจพร้อมกับเปิดเพลงเปียโนเพลงWolfgang Amadeus Mozart ของ Turkish marchฟังอย่างผ่อนคลาย

 

 

‘chime wa love so’ ‘ติ๊ด’ “ว่าไงซาชิโกะ”

ในขณะที่ฉันฟังเพลงอย่างผ่อนคลายเสียงริงโทนเพลงchime wa love songมือถือฉันก็ดังขึ้นขัดอารมณ์ ฉันกดรับและกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์

 

 

 

‘นิ น้องเธอจะไปหาน่ะ แค่นี้แหล่ะ”ซัซซี่วางสายไปฉันวางมือถือไว้ข้างๆอ่างก่อนจะหลับตานึกถึงผู้มีศักดิ์เป็นน้องของฉันแต่เนื่องจากเธอเป็นครึ่งปีศาจเลยเป็นพวกอารมณ์ขึ้นๆลงๆซัซซี่เลยไม่ให้เรียนในรร.ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจซัซซี่สักเท่าไรว่าทำไม ถึงปล่อยมา แต่ถ้าน้องฉันมายัยองครักษ์นั่นก็คงมาด้วย

 

 

 

 

 

 

 

 

“เฮ้ออ น้องสาวของฉันทานากะ มิคุ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ความคิดของทุกคนคือ สั้นจัง ใช่ไม

 

ตันจริงๆขอโทษน้าา อย่างน้อยก็แทรกมิคุเข้าไปจนได้ล่ะ  

 

ปล.ฉากเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบ