[SF] Teenager | CH.1 *up*07/05/59
CH.0
“คุณแม่คะเราจะไปไหนกันเหรอคะ? แล้วคุณพ่อละคะ?”
…
..
“..ฝันแบบนี้อีกแล้วเหรอ” ฉันตื่นขึ้นเพราะฝันถึงเรื่องในอดีตถ้าเป็นเมื่อก่อนความทรงจำแบบนี้มันคือฝันร้ายเลยแหละแต่เพราะโตขึ้นละมั้งทำให้ฉันเข้าใจอะไรๆได้เยอะขึ้นถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่อยากจะรับรู้หรอกนะเหตุผลที่พ่อแม่อย่ากันน่ะ
“มิยุเป็นเด็กดีนะลูก” นั้นคือคำพูดสุดท้ายที่พ่อให้กับฉันหลังจากนั้นฉันก็ไม่เคยได้เจอหรือติดต่อกับพ่ออีกเลย
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด เสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ดังขึ้นทำให้ฉันเลิกคิดถึงเรื่องในอดีต
รีบอาบน้ำดีกว่าจะได้ไม่สาย คิดได้ดังนั้นฉันก็ลุกไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมตัวไปโรงเรียน
“อาหารเช้าอยู่บนโต๊ะ วันนี้มีประชุมไม่ต้องรอกินข้าวนะ”
โพสอิทสีเหลืองแปะไว้ที่ประตูตู้เย็น
“เฮ้อ~ วันนี้ก็มีประชุมอีกแล้วเหรอเนี่ย“ บางครั้งฉันก็รู้สึกเหงานะการที่ตื่นขึ้นมาเจอแต่ห้องว่างนั่งกินข้าวตัวคนเดียวกลับบ้านมาก็ไม่มีใครอยู่บ้านแม้แต่จะนอนก็ไม่มีใครให้กล่าวราตรีสวัสดิ์ด้วย
“อากาศวันนี้มีโอกาสที่ฝนจะตก30%“
“พกร่มไว้ก็ไม่เสียหายละนะ“ หลังจากเช็คพยากรณ์อากาศของวันนี้แล้วฉันก็เข้าห้องไปจัดกระเป๋าเตรียมสำหรับไปโรงเรียน
“อิตเตะคิมัส“
—————————————
“…กะ ซายากะ ซายากะ!!! จะตื่นได้รึยังเดี๋ยวก็สายหรอก เสียงตะโกนปลุกของแม่ทำให้ฉันสะดุ้งตื่นทันทีนี่เผลอปิดนาฬิกาปลุกอีกแล้วเหรอเนี่ย เหลือบไปมองนาฬิกาปลุกที่เคยอยู่หัวเตียงแต่ตอนนี้ตกอยู่ที่พื้นก่อนจะหยิบขึ้นมาตั้งไว้ที่เดิม
“รีบๆลงมากินข้าวสิเดี๋ยวก็สายหรอก แม่ตะโกนเร่งฉัน
“ค่าๆ จัดกระเป๋าเสร็จแล้วกำลังลงไปค่า
“แม่ก็อย่าไปเร่งซายากะมากเลย พ่อที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่พูดขึ้น
“ใช่คะต่อให้สายยังไงซายากะก็วิ่งเร็วอยู่แล้วยังไงก็วิ่งทันประตูปิดชัวร์ๆ ใช่ป่ะ? พี่สาวฉันพูดเสริมขึ้นมา
“โกะจิโซซะมะเดะชิตะ“ ฉันเอ่ยขึ้นหลังจากกินข้าวเสร็จ
“ซายากะวันนี้มีซ้อมชมรมไหม?“ แม่ถามฉันขึ้นมาหลังจากที่ฉันเก็บจานในส่วนของตัวเองลงอ่าง
“ก็มีปกตินะคะ ทำไมเหรอคะ?“ ฉันถามแม่ไปเพราะปกติแม่ก็รู้อยู่แล้วว่าฉันต้องทำกิจกรรมชมรมทุกเย็น
“เปล่าหรอก แค่วันนี้จะทำหม้อไฟกินกันน่ะรีบๆกลับมาละ“
“โอเคค่ะ งั้นหนูไปก่อนนะคะ“ พูดจบก็เดินไปหยิบกระเป๋านักเรียนพร้อมกระเป่ากีต้าร์ขึ้นมาสะพาย
“อิตเตะคิมัส“
“อิตเตะรัสชัย“
====================
TBC.
Talk.
เนื้อเรื่องก็จะอยู่ในช่วงมัธยมปลาย
ในส่วนของชื่อเรื่องคือไม่รู้จะตั้งอะไรเลยตั้งไว้ง่ายๆ
ถ้ามีคำผิดอะไรยังไงก็ขอโทษด้วยนะคะ
ลองแต่งเป็นเรื่องแรกยังไงก็ฝากด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
รออออ
ซายะมิ้ลกี้รึป่าวเนี่ย //// ปลูกบ้านรอ
รอออออออออออ ><!
CH.01
ม.ปลายปี 2 ห้อง A
“นั่งที่กันได้แล้วจะได้เริ่มเรียนกันสักที อาทิตย์สุดท้ายของเทอมนี้แล้วช่วยทำตัวกันดีๆหน่อยไม่ได้รึไง”
เสียงของอาโอกิเซนเซย์ที่พึ่งเดินเข้ามาในห้องเรียนดังขึ้น
“โธ่เซนเซย์เรื่องแค่นี้เองอย่าบ่นนักเลยนะคะเดี๋ยวแก่เร็วนะ ฮ่าๆๆ”
เสียงของนักเรียนสักคนในห้องดังขึ้นตามด้วยเสียงหัวเราะ การพูดแบบนี้กับอาจารย์มันคงจะไม่ดีเท่าไหร่ในสายตาคนอื่นแต่กับอาโอกิเซนเซย์ที่อายุยังไม่มากเลยทำให้นักเรียนรู้สึกสนิทด้วยมากกว่าอาจารย์คนอื่นๆที่เริ่มมีอายุกันแล้ว
การที่มีอาจารย์ที่ยังหนุ่มมาสอนในโรงเรียนหญิงล้วนแบบนี้มันเลยยิ่งทำให้อาโอกิเซนเซย์ฮ็อตในหมู่นักเรียนเป็นพิเศษเลยละ
“เอาละๆเนื่องจากอาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์สุดท้ายของเทอมนี้ก่อนจะปิดเทอมภาคฤดูร้อนแล้วแถมนี้ยังเป็นคาบสุดท้ายงั้นผมขอไม่สอนละกันนะ”
“เย้!!!” หลังคำพูดของอาโอกิเซนเซย์จบก็มีเสียงเฮดังขึ้นทันที
“แต่ผมจะให้การบ้านไปแทนนนะครับ” เสียงของเซนเซย์ดังขึ้นมาท่ามกลางเสียงเฮของนักเรียน
“เอ๋!!!”
“เป็นแค่งานง่ายๆเองครับแถมเป็นงานที่ทำเป็นคู่อีกรับรองว่าไม่ยากเกินความสามารถของทุกคนหรอกครับ”
เซนเซย์พูดพร้อมกับแจกยิ้มให้นักเรียนที่ตอนนี้ทำท่าไม่พอใจ ไอ้รอยยิ้มแบบนั้นมันไม่น่าไว้ใจกว่าอีกนะฉันว่า
“ถ้าทำงานเป็นคู่ละก็…. ยุยงั้นเราคู่กันเหมือนเดิ—-”
“ส่วนคู่ในการทำงานผมจะเป็นคนจับคู่ให้เองนะครับ”
คำพูดของเซนเซย์ที่ดังขึ้นแทรกในตอนที่ฉันกำลังคุยกับเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ข้างๆ ยุย หรือ โยโกยาม่า ยุย เพื่อนที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ชั้นประถมเรียกได้ว่าสนิทกันสุดๆ
“งั้นผมจะประกาศแล้วนะครับว่าใครคู่กับใคร”
…..
..
“ยามาโมโตะซังคู่กับวาตานาเบะซังนะครับ
“วาตานาเบะคนไหนเหรอคะเซนเซย์?” ฉันหันไปหาต้นเสียงก็พบเข้ากับเจ้าของคำถามเมื่อสักครู่ รู้สึกจะเป็น วาตานาเบะ มายุ หัวหน้าห้อง ถ้าคู่กับมายุซังก็ดีสิน่าจะทำงานได้ง่ายขึ้นเยอะฉันคิด
“อ่อ โทษทีๆ อืม….”
“มิยูกิครับ วาตานาเบะ มิยูกิ”
“ โอเคนะครับคู่ต่อไปก็….”
..
“โอเคนะครับ ตอนนี้ทุกคนก็ทราบแล้วว่าต้องทำงานคู่กับใครงานที่ต้องทำคือทำรายงานเกี่ยวกับหัวข้อที่เซนเซย์เขียนไว้บนกระดานนะครับ” ขอให้ทุกคนมีความสุขกับปิดเทอมหน้าร้อนนะครับ พูดจบอาโอกิเซนเซย์ก็เดินออกไป
ใครมันจะไปมีความสุขกันได้วะดูงานที่สั่งดิเยอะชิบ ฉันบ่นอยู่ในใจ
…
..
“หวัดดี ฉันยามาโมโตะ ซายากะเรียกซายากะเฉยๆก็ได้” ฉันตัดสินใจเดินเข้าไปทักเธอหลังจากเซนเซย์ออกไป
“หวัดดีงั้นซายากะซังเรียกฉันมิ้ลกี้ก็ได้นะ” เธอตอบพร้อมกับส่งยิ้มบางๆมาให้
“คือ.. เรื่องรายงานน่ะเราจะเอายังไงเหรอ?” ฉันถามเข้าประเด็นทันที
“อืม ฉันยังไงก็ได้นะช่วงปิดเทอมฉันคงไม่มีธุระอะไรอยู่แล้ว”
“ถ้ามิ้ลกี้ว่างั้น เอาเป็นช่วง——”
“ซายาเน่!!!!!” อะไรอีกเนี่ยวันนี้ฉันโดนพูดแทรกอีกแล้วนะ ฉันบ่นในใจพร้อมกับหันไปหาต้นเสียงที่ตะโกนเรียกฉันแล้วก็พบกับ
“มีอะไรจูรินะ แล้วทำไมต้องตะโกน” ฉันถามจูรินะออกไป จูรินะเป็นเด็กปีหนึ่งที่อยู่ในชมรมดนตรีเหมือนกันกับฉัน
“เคจจิซังบอกว่าให้มาเรียกจะซ้อมวงแล้ว” จูรินะตอบฉัน
“ทำไมวันนี้รีบซ้อมจัง โอเคๆเดี๋ยวรีบไป” ฉันบอกจูรินะให้ไปก่อนเดี๋ยวฉันจะตามไป
“เอ่อ ขอโทษจริงๆนะ งั้นเดี๋ยวค่อยคุยกันพรุ่งนี้ได้ไหมพอดีฉันต้องรีบไปเข้าชมรมน่ะ” ฉันอยากจะคุยเรื่องงานให้เสร็จจริงๆนะแต่ถ้าถึงขนาดให้จูรินะมาตามคงจะมีเรื่องมากกว่าซ้อมแน่ๆ
“ไม่เป็นไรๆ ซายากะซังไปซ้อมเถอะพรุ่งนี้ค่อยคุยกันก็ได้” มิ้ลกี้บอกอย่างนั้นพร้อมกับยิ้มให้อีกแบบนี้มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกผิดนะ
“ยังไงก็ขอโทษจริงๆนะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ กลับบ้านดีๆละ” ฉันบอกกับมิ้ลกี้แล้วรีบหยิบกระเป๋านักเรียนกับกระเป๋ากีต้าร์ก่อนจะวิ่งไปห้องชมรม
————————————————————————
“…คู่ในการทำงานผมจะเป็นคนจับคู่ให้เองนะครับ” เสียงของเซนเซย์ที่หน้าห้องกำลังอธิบายเกี๋ยวกับงานที่จะต้องทำในช่วงปิดเทอม ฉันไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกับคนอื่นหรอกนะขอแค่คนที่ทำงานด้วยไม่ใช่พวกอู้งานก็พอ
“ยามาโมโตะซังคู่กับวาตานาเบะซังนะครับ” หืมวาตานาเบะงั้นเหรอวาตานาเบะคนไหนละเซนเซย์ลืมไปรึไงว่าห้องนี้มีพวกนามสกุลซ้ำกันหน่ะ
“วาตานาเบะคนไหนเหรอคะเซนเซย์?” ประโยคนั้นไม่ใช่ฉันหรอกที่ถามแต่เป็นมายุซังวาตานาเบะอีกคนต่างหาก
“มิยูกิครับ วาตานาเบะ มิยูกิ”
…..
…
หลังจากที่เซนเซย์อธิบายรายละเอียดทั้งหมดแล้วออกจากห้องไปแล้ว นักเรียนในห้องก็เริ่มลุกจากที่นั่งเข้าไปหาคู่ที่ต้องทำงานด้วยกัน ฉันควรจะทำแบบนั้นด้วยสินะในขณะที่กำลังตัดสินใจอย่างนั้นรู้ตัวอีกทียามาโมโตะซังก็เดินเข้ามาพร้อมกับแนะนำตัวกับฉันซะแล้ว เธอแนะนำตัวกับฉันแล้วบอกให้ฉันเรียกเธอว่าซายากะ
“งั้นซายากะซังเรียกฉันมิ้ลกี้ก็ได้นะ” ฉันบอกเธอพร้อมกับส่งยิ้มให้ มิ้ลกี้เป็นชื่อเล่นที่เพื่อนๆเรียกฉันฉันรู้สึกโอเคในการที่คนอื่นๆเรียกชื่อฉันอย่างนี้
แล้วในขณะที่เรากำลังคุยกันว่าจะเอายังไงกับงานที่เซนเซย์สั่งก็ดันมีคนมาขัดบทสนทนาซะอย่างงั้น รู้สึกคนๆนั้นจะเป็นมัตสึอิ จูรินะ เด็กปีหนึ่งที่ฉันมักจะเห็นไปป้วนเปี้ยนอยู่แถวห้องกรรมการนักเรียนรู้สึกเด็กนั้นจะสนิทกับพวกกรรมการนักเรียนเป็นพิเศษ
“ขอโทษจริงๆนะ งั้นเดี๋ยวค่อยคุยกันพรุ่งนี้ได้ไหมพอดีฉันต้องรีบไปเข้าชมรมน่ะ” ซายากะซังบอกกับฉันอย่างนั้นฉันก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะแต่เหมือนเธอจะรู้สึกผิดมากซะอย่างงั้น เรื่องแค่นี้ไม่เห็นจะต้องจริงจังขนาดนั้นเลยนี่นายังไงก็ยังเหลือเวลาอยู่แล้ว เธอบอกลาฉันก่อนที่จะรีบวิ่งออกไป ชมรมดนตรีงั้นเหรองั้นเด็กนั้นก็ต้องอยู่ชมรมดนตรีสินะแล้วทำไมถึงเห็นไปอยู่แถวห้องกรรมการนักเรียนบ่อยๆกันนะ
“พารุรุ แกจะกลับบ้านเลยไหม?” พารุรุ หรือ ชิมาซากิ ฮารุกะ เธอเป็นเพื่อนกับฉันตั้งแต่ฉันเข้ามาเรียนที่นี้เราอยู่ห้องเดียวกันตั้งแต่แรกไม่รู้เพราะอะไรถึงทำให้ฉันสนิทกับเธอ
“ไม่อะ พอดีฉันต้องไปช่วยงานพวกกรรมการนักเรียนหน่อย”
“ฉันไปก่อนนะแกเจอกันพรุ่งนี้”
เธอตอบฉันมาอย่างนั้น พารุรุเป็นหนึ่งในกรรมการนักเรียนโดยเหตุผลที่ทำให้เธอไปเข้ากับกรรมการนักเรียนนั้นมีเหตุผลหลักๆแค่รุ่นพี่บอกว่ามีตำแหน่งว่างเลยให้ไปช่วยกับห้องกรรมการนักเรียนเป็นห้องชมรมเดียวที่มีแอร์ดังนั้นถ้าเธอเข้าร่วมเธอก็จะได้มีที่นอนเย็นๆเวลาอากาศร้อน ถึงเหตุผลจะฟังดูไม่จริงจังเท่าไหร่แต่เวลามีงานอะไรเธอก็ดูตั้งใจทำงานดีนะ
เอาไงดีละ ยังไม่อยากกลับบ้านตอนนี้ซะด้วย ไปนั่งเล่นอยู่ห้องสมุดอีกดีกว่า ว่าแล้วฉันก็เก็บกระเป๋าแล้วมุ่งหน้าไปห้องสมุดทันที
โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่แบ่งออกเป็นฝ่ายมัธยมต้นกับมัธยมปลายถึงจะเป็นเด็กม.ต้นเก่าแต่ยังไงก็ต้องสอบเข้าอยู่ดี โรงเรียนนี้มีมหาวิทยาลัยในเครือรองรับนั้นคือเหตุผลที่ทำให้ฉันเลือกที่จะเข้าโรงเรียนนี้แถมการแข่งขันก็สูงอีกทำให้ฉันรู้สึกดีนิดๆนะที่สอบเข้าได้ โรงเรียนนี้ไม่ได้บังคับให้เข้าชมรมทำให้ฉันเลือกที่จะไม่เข้าชมรมอะไรเลยฉันมันเป็นพวกที่ไม่อยากให้มีอะไรมามัดติดไว้แต่ก็มีบางครั้งที่มีชมรมบางชมรมมาขอให้ฉันไปช่วยเวลาคนขาด
ระหว่างที่นั่งคิดอะไรไปเพลินๆรู้ตัวอีกทีห้องสมุดก็จะปิดแล้วเสียงของบรรณารักษ์ที่เริ่มบอกคนในห้องสมุดว่าถึงเวลาปิดแล้ว
“งั้นวันนี้แวะซื้อข้าวกล่องเข้าไปกินละกัน” ในขณะกำลังเดินออกจากห้องสมุดฉันก็คิดว่าจะฝากท้องไว้กับข้าวกล่องซุปเปอร์แทนที่จะทำอะไรกินเอง
“หืม… ฝนตกเหรอ” หลังจากที่เดินออกมาเตรียมตัวจะกลับบ้านก็ออกมาเจอกับกลุ่มนักเรียนที่พากันหลบฝนอยู่พยากรณ์อากาศนี้ตรงใช่ได้อยู่แหะ
ในขณะที่กำลังกลับไปเอาร่มที่ห้องฉันก็ดันไปเจอกับซายากะซังที่ยืนหลบฝนอยู่ เข้าไปทักดีไหมนะ…
“เอ่อ ซายากะซังยังไม่กลับเหรอ?” ฉันตัดสินเข้าไปถามเธอ
“พอดีฉันไม่มีร่มน่ะ” เธอตอบฉันมาอย่างนั้น
“งั้นซายากะซังจะติดร่มฉันกลับไหมละ?
“มิ้ลกี้นี่ใจดีจังนะแต่ว่าฉันกลัวกีต้าร์ฉันจะเปียกน่ะเลยว่าจะรอให้ฝนหยุดหรือซาลงก่อนน่ะ เห็นกีต้าร์สำคัญขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย
“ห้องชมรมดนตรีไม่มีล็อกเกอร์เก็บของเหรอ ทำไมไม่เข้าไปเก็บไว้ห้องชมรมก่อนละถ้ารอฝนซามันอาจจะนานก็ได้นะ”
ฉันบอกเธอไปอย่างนั้นเพราะถ้าจำไม่ผิดห้องชมรมแต่ละห้องจะมีล็อกเกอร์เก็บของอยู่แล้ว
“จริงสิ ทำไมฉันลืมนึกถึงไปเลยนะเดี๋ยวฉันเอาไปเก็บก่อนนะ” หลังจากที่ฉันบอกเธอเรื่องล็อกเกอร์เธอก็รีบวิ่งเอากีต้าร์แล้วก็กลับมาหาฉันที่ยืนรออยู่
“โอเค ไปกันเลยไหม?” ซายากะซังถามฉันหลังจากที่เธอกลับมา
“ร่มอยู่บนห้องน่ะต้องเดินไปเอาก่อน” ฉันบอกเธอไป ทีแรกฉันกะว่าจะขึ้นไปเอาร่มแค่คนเดียวให้ซายากะซังรออยู่ข้างล่างแต่ซายากะซังยืนยันว่าจะไปเป็นเพื่อนสุดท้ายฉันกับเธอก็เดินไปห้องเรียนด้วยกัน
…..
..
“ซายากะซัง งานเข้าแล้วคะ…”
====================
TBC.
Talk
ถ้ามีคำผิดก็ขอโทษด้วยนะคะ
จัดรูปแบบการวางยังแปลกๆอยู่จะพยายามแก้คะ