[Fic] เรื่องราววุ่นๆของเหล่า KAMI48!!! Part 1 (หลายคู่) [16 / 10 /57]

สารบัญ

 

Part 1

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

Intro

 

เมื่อนานแสนนานในครั้งอดีตกาลเหล่ามนุษย์ ภูต ผี ปีศาจ และเหล่าทวยเทพได้อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และค่อยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน…แต่แล้ว! วันหนึ่งก็เกิดการแตกแยกขึ้น เมื่อพวกปีศาจบางตนคิดว่าตนนั้นมีอำนาจจึงได้สั่งปีศาจตนอื่นไปรังแกและกลั่นแกล้งพวกมนุษย์ จนเรื่องมันเดือดร้อนไปถึงหูเหล่าทวยเทพให้ตามมาแก้ไขปัญหาและแยกโลกของมนุษย์และปีศาจออกจากกันในที่สุด…

 

“ว่าไปนั้น จริงๆแล้วพวกเราไม่ได้แยกมันออกมาหรอกนะจู ว่าแต่ที่นี้ร้อนจังนะ…แล้วเจ้าไม่ร้อนมั้งรึ” ยูโกะเอ่ยขณะเอากล่องยาสูบแบบญี่ปุ่นที่มีปลายและหัวเป็นสีทอง ส่วนกลางด้ามเป็นสีแดงสด ขนาดยาว 25 ซม.มาเคาะไหล่ขวาแก้ปวด…(แก่แล้วก็เงี้ยแหละ) ก่อนที่จะวางกล่องยาสูบลงแล้วยกมือขึ้นมาดึงแขนเสื้อกิโมโนสองชั้นข้างซ้ายตน มีชั้นแรกเป็นสีแดงสด ส่วนชั้นที่สองเป็นสีดำที่มีลวดลายดอกซากุระสีชมพูและงูสีขาวตัวใหญ่ประดับลง

 

เผยให้เห็นผิวขาวเนียนและหน้าอกอันใหญ่โตที่ถึงแม้จะมีผ้าพันเอาไว้มันก็ยังดูเปล่งประกาย ผมสีน้ำตาลอ่อนที่ยาวสยายเต็มแผ่นหลังและใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มอย่างอ่อนๆ ซึ่งช่วยขัดให้ริมฝีปากสีแดงสดยิ่งเด่นชัดมากขึ้นไปอีก

 

“ท่านพี่ยูโกะหมายความว่าไงคะเนี๊ย ไอ้ที่ว่าไม่ได้แยกมันออกอะ!” จูรินะที่อยู่ในชุดมิโกะเอ่ยพรางแอบเหงื่อตกกับสิ่งที่ยูโกะพูด

“ก็มันยุ่งยากอะก็เลยแค่สร้างเส้นแบ่งเขตและบาเรียเอาไว้ประมาณสามชั้นเอาอะ ยังไงพวกปีศาจที่มีพลังวิญญาณมากมันก็ไม่สามารถผ่านไปได้อยู่แล้ว เพราะงั้นหายห่วง วะฮ่าๆๆๆ” ยูโกะเอ่ยก่อนจะหันไปกระดกสาเกอย่างมีความสุข…จะบ้าเรอะ แกชั่งเป็นเทพที่ซกมกจริงๆ!

“อ่อ พวกนั้นก็หายห่วงแล้วไอ้พวกที่มีพลังน้อยล่ะท่านพี่!” จูรินะเอ่ยพรางยกผ้าขึ้นมาซับเหงื่อ ก่อนจะแอบคิดว่าคนแบบนี้มันเป็นเทพได้ไง ใครเลือกมันมาเป็นฟะ

“ก็..ผ่านเข้าไปได้ง่ายๆเลยไงล่ะ วะฮ่าๆๆ” ยูโกะเอ่ยก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมา มันเมาป่าวฟะ

“แล้วพวกมนุษย์จะไม่เป็นไรเรอะ…ท่านพี่ ละ..หลับเฉยเลยเว้ย!!” จูรินะเอ่ยอย่างกังวลก่อนจะพบว่า…ไอ้คนตรงหน้ามันดันหลับเพราะดื่มเยอะไปซะแล้ว

“ไม่ต้องห่วงพวกมนุษย์หรอกจูรินะ ถึงจะเจอพวกนั้นไปก็ไม่เป็นไรหรอก อย่างมากก็แค่เข้าห้อง ICU เองฮารุนะที่บังเอิญผ่านมาเอ่ยยิ้มๆก่อนจะเดินไปตบหน้ายูโกะซัูกเพี๊ยะเพื่อปลุกให้ตื่น

 

อ่า..ร่างบางที่อยู่ในชุดกิโมโนสามชั้น ชั้นแรกเป็นสีขาวบริสุทธิ์ ชั้นที่สองเป็นสีฟ้าอ่อนมีปกเสื้อเป็นสีน้ำเงินเข้ม และชั้นสุดท้ายเป็นเสื้อคลุมสีฟ้าครามที่มีลวดลายรูปพระจัทร์เสี้ยวอยู่กลางหลัง

 

ใบหน้าได้รูปถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอย่างสวยงาม ผมที่ยาวสยายสีน้ำตาลแดงก็ชั่งตัดกับตุ้มหูรูปพระจันทร์เสี้ยวให้ดูเปล่งประกายเหลือเกิน

 

“อะแฮมๆ จะจ้องจนเนี๊ยงๆชั้นท้องเลยไหมจู” ยูโกะพูดพรางเก๊กกระแอมไอก่อนจะลูบใบหน้าที่มีรอยฝ่ามือแดงๆด้วยความเบามือ..เนี๊ยงก็มือหนักไปนะ

“ไม่จ้องแล้วๆ…แล้วไอ้ห้อง ICU เนี๊ยมันไม่เป็นไรที่ไหนล่ะนั้น แล้วนี้อยู่มาตั้งหลายร้อยปีไม่คิดจะสนใจพวกมนุษย์เลยสินะจูเอ่ยก่อนจะโวยทั้งสองอย่างเหลืออด

“แหมๆ ก็มันขี้เกียจนี้น่าปล่อยให้พวกมนุษย์เค้าจัดการกันเองเถอะ เกิดเรื่องเมื่อไรค่อยไปช่วยทีหลังก็ได้” จู่ๆเหล่าเทพทั้งหมดไม่ว่าจะ มาริจัง โทโมะ อัตสึ มายุ ศรี เรนะ เอ้ ก็เดินเข้ามาพูดยิ้มๆก่อนจะเดินไปนั่งสังสรรค์กันหน้าตาเฉย..

.

 

.

 

“เฮ้อ~เพราะมีเทพแบบนี้แหละพวกมนุษย์ถึงได้อยู่ไม่เป็นสุขนะ…ถ้าไม่นับรวมพวกที่เหลือด้วยก็ยังถือว่าดีนะ กิริน เลิฟ จู พูดพรางยกมือขึ้นกุมขมับ

“นั้นสิถ้ารวมพวกที่เหลือมีหวังพวกมนุษย์ได้สินหวังแน่ อะไม่ใช่แค่พวกมนุษย์สิที่อยู่ไม่เป็นสุขนะ…พวกเราเหล่ามือขวา(คนรัก)ด้วยล่ะที่ต้องปวดหัวกับวีรกรรมของเทพพวกนี้นะ” นิน มินะ เอ่ยพรางกินยาพาราเข้าไป1(0)เม็ด…

“นั้นสินะ เฮ้อ!” กิริน เลิฟ จู นิน มินะ พูดก่อนจะมองคนรักของตนอย่างปลงๆ

……………………………………………………………………………………………………………………………..

หึหึหึ เรื่องเก่ายังไม่จบ ริอาจมาเปิดเรื่องใหม่ วะฮ่าๆๆๆ

ขอออกตัวแบบเบาๆ….เรื่องนี้เป็นแค่การที่คนเขียนมันจับการ์ตูนหลายๆเรื่อง

มาระยำกันแค่นั้นไม่มีไรมากหรอก 5555 หวังว่าคงมีคนมาอ่านนะ กรุ๊งกริ๊งๆ ฟรุ้งฟริ้งๆ =w=

จะตั้งตารอเลยไรเดอร์

มารอเอ้นิน แต่ท่านแอดช่วยเสริมเด็กๆให้สักเล็กน้อยได้มั้ย? หุหุ #โดนตบ

ยูโกะนี่น่าปลดออกจากเทพจริงนะ//วิ่งหนี
เนี้ยงมือหนักไปมั้ย -_-;

Part 1 วันๆในนรกของท่านเอ็นมะศรีและเลขาเลิฟตัน

 

“ท่านเอ็นมะศรี!! เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับจู่ๆเหล่ายักษ์ก็กรูเข้ามาพรางโวยวายเรื่องปัญหาในนรกเขตต่างๆให้ท่านเอ็นมะศรี ราชาผู้ที่ปกครองเมืองนรก…จริงๆแค่ในนามแค่นั้นแหละ เพราะส่วนใหญ่คนที่ทำงานนะมันเลิฟตันต่างหาก

“อ่า..ปัญหาเรอะ อืมๆ ไปหาเลิฟตันก็แล้วกันนะ ข้าไปนอนล่ะ!” ศรีที่อยู่ในชุดกิโมโนสีแดงสด ประดับด้วยลวดลายดอกไม้ที่ถูกเย็บปักด้วยมือ พูดด้วยสีหน้าเซ็งๆก่อนจะโบ้ยงานไปให้เลขาเลิฟตัน ก่อนที่ตนจะรีบชิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว

“เอ๊ย เดี่ยวสิท่านเอ็นมะศรี! ..เฮ้อ แล้วท่านเลิฟอยู่ไหนล่ะ” ยักษ์ตนหนึ่งเอ่ยพรางมองหาร่างบาง

“ท่านเลิฟตันน่าจะโดนดึงไปดูงานที่นรกเดรัจฉานนะ ข้ากำลังจะไปพอดี…ไปด้วยกันไหมล่ะ” เมรุหรือยักษ์ฝึกหัดสองเขาที่ติดตามเลิฟตันที่อยู่ในชุดกิโมโนสีขาว มีลวดลายเป็นรูปเมฆสีน้ำเงิน เอ่ยออกมายิ้มๆ

“ยินดีเป็นอย่างยิ่งเลยขอรับ” เหล่ายักษ์พูดก่อนจะเดินตามเมรุไปต้อยๆ

.

 

.

“อืม..ท่าจะแย่แฮะ พนักงานดันขาดซะได้”  เลิฟหรือเลขาที่เป็นดั่งมันสมอง เป็นมือเป็นเท้าของเอ็นมะ ผู้ที่เป็นยักษ์ปีศาจเขาเดียวชั้นสูงที่เพียบพร้อมในทุกๆด้าน

เลิฟตันอยู่ในชุดกิโมโนสีดำที่มีปกคอและชายแขนเสื้อเป็นสีแดงสด ส่วนด้านหลังมีสัญญาลักษณ์เป็นลูกไฟปีศาจสีแดง เอ่ยพรางลูบคางอย่างหนักใจ

 

“ท่านเลิฟตัน! โอะ! มิโอะก็อยู่ด้วยรึเมรุตะโกนก่อนจะวิ่งเข้าไปกอดมิโอะที่เป็นยักษ์สองเขาฝึกหัดผู้ติดตามเลิฟเหมือนตนที่ตอนนี้อยู่ในชุดกิโมโนสีขาวที่มีลวดลายเป็นผีเสื้อสีเขียวมรกต ด้วยความคิดถึง

 

“มีอะไรรึถึงได้มากันเยอะขนาดนี้” เลิฟจ้องมองเมรุกับมิโอะอย่างเอ็นดูก่อนจะหันไปถามเหล่ายักษ์ที่เดินเข้ามาหา

“คือ เกิดปัญหาน้ำท่วมที่นรกอเวจี และก็มี– / แย่แล้วท่านเลิฟ ตอนนี้มีวิญญาณสองดวงกำลังคร่ำครวญจนเราจัดการไม่ได้นะขอรับ รีบมากลับข้าด่วนเลย! ในขณะที่ยักษ์ตนหนึ่งกำลังพูด จู่ๆก็มียักษ์อีกตนวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่นก่อนจะพยายามลากท่านเลิฟไป

 

“ช้าก่อนยักษ์น้อย ใจเย็นๆสิ..ยัยบ้าศรีโยนงานมาให้ข้าอีกแล้ว วุ่นวายจริงๆทำไมไม่ทำเองมั้ง!” เลิฟเอ่ยพรางส่งเอกสารคืน

“อ่อ เมื่อกี้ท่านเลิฟเรื่องท่านเอ็นมะศรีว่ายัยบ้ารึขอรับ” ยักษ์ตนหนึ่งเอ่ยก่อนจะรับเอกสารคืน

“อ่า…ช่วยไม่ได้ เมรุไปจัดการเรื่องน้ำท่วมทีนะ ส่วนมิโอะก็ไปจัดการปัญหาอื่น…ว่าแต่นรกน้ำมันท่วมได้ด้วยเรอะ!” เลิฟไม่ตอบแต่หันมาสั่งเมรุกับมิโอะก่อนจะถูกลากไป

“รับทราบค่ะท่านเลิฟตัน! เอ้าไปกันได้แล้ว ข้าไปก่อนนะมิโอะ แล้วเจอกัน เมรุกับมิโอะขานรับเสียงเข้มก่อนที่ทั้งสองจะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน

“รีบๆเถอะขอรับก่อนที่พวกยักษ์ตนอื่นๆจะแก้วหูแตกซะก่อน” ยักษ์ตนนี้เอ่ยก่อนจะรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น

“อืมๆ เห..มีกิโยตินตั้งแต่เมื่อไรกันนะ แล้วงบที่ซื้อไปเอามาจากไหน” เลิฟเอ่ยก่อนจะหยุดแล้วเดินเข้าไปดูใกล้ๆ

“ท่านเอ็นมะศรีบอกว่าได้ แล้วก็ยื่นบัตรเครดิตของท่านเลิฟให้ร้านทันทีเลยนะขอรับ” ยักษ์ที่อีกตนที่รอรับท่านเลิฟเอ่ยนิ่งๆ

“…” เลิฟหาได้เอ่ยไม่ หากแต่ฟาดกระบองหนามสีดำอันใหญ่ของตนใส่หินจนแหลกละเอียดก่อนจะเดินไป…น่ากลัว!

 

“ม่ายยยยยย ข้ายังไม่อยากตาย โนวววววว” ทานิแหกปากก่อนจะดิ้นไปดิ้นมา

“ทำไมๆคนสวยๆอย่างข้าถึงต้องมาตายด้วย มันไม่จริงๆๆๆๆๆ โฮ่ๆๆ” จิโยริตะโกนพรางส่องกระจกไปร้องไห้ไป…ไอ้หลงตัวเองเอ๊ย!

“เงียบได้แล้ว! พวกเจ้าจะคร่ำครวญไปให้เปลืองน้ำตาทำไมกันเลิฟเอ่ยก่อนจะเดินเข้าไปหาทั้งสอง

“หึ ท่านจะไปเข้าใจได้ไงกัน ท่านเป็นปีศาจนิ ยังไงก็ไม่มีวันตายอยู่แล้ว!” ทานิกับจิโยริเอ่ยก่อนจะร้องไห้ต่อ

“จริงอยู่ที่ข้าไม่มีวันตาย…แต่ข้านั้นเข้าใจคำว่าความตายเป็นอย่างดี…พวกเจ้าควรยอมรับมันซะ อย่าฝืนธรรมชาติเลย ชีวิตทุกชีวิตนั้นมีค่า ถึงแม้จะตายกลายเป็นดวงวิญญาญเร่ร่อน…ก็ยังมีค่าอยู่นะ” เลิฟตันเอ่ยก่อนจะส่งมือให้ทั้งสองยิ้มๆ

“…ก็ได้ ว่าแต่เมื่อกี้ท่านว่าวิญญาณเร่ร่อนเรอะ!” ทั้งสองเงียบไปซักพักก่อนจะยื่นมือไปจับมือของเลิฟตันเอาไว้

 

“ดูจากชุดพวกเจ้าแล้ว…ถ้าจะมาจากยุคสมัยก่อนใช่ไหม หายากนะที่จะเจอแบบนี้..พวกเจ้าคงไม่ได้หลงทางหรอกนะ” เลิฟเอ่ยก่อนจะสำรวจทั้งสองแต่ดูเหมือนมันจะทำให้ทั้งสองถึงกับสะดุ้งแถมเหงื่อแตกพลั่กทันที

“เห นี้หลงจริงๆรึ ฮ่าๆๆๆ” เลิฟเอ่ยก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมา

“กะ..ก็คนมันไม่คุ้นทางนี้” ทานิเอ่ยก่อนจะเหล่มองอย่างอื่นอย่างอายๆ

“ชั่งมันเถอะ ว่าแต่พวกเจ้าสนใจมาทำงานให้ข้าไหมล่ะ กำลังขาดคนพอดีแถมข้าก็ได้ผู้ช่วยเพิ่มและพวกเจ้ายังไม่ต้องโดนการลงทัณฑ์ด้วย” เลิฟเอ่ยยิ้มๆก่อนจะยื่น

สัญญาให้ทั้งสองพรางชี้ไปที่ดวงวิญญาณอื่นที่กำลังโดนลงทัณ์อยู่

“คะ?…สนใจค่ะ! รีบๆเอามาเซ็นเลย!ทั้งสองหันไปมองซักพักก่อนจะรีบหยิบใบสัญญาไปเซ็นทันที! จะไม่รีบได้ไงก็ในเมื่อภาพที่เห็นมันน่าสยดสยองซะจนบรรยายไม่ได้เลยนะสิ(จริงๆแค่ขี้เกียจนะ ถถถ)

“งั้นเริ่มงานพรุ่งนี้นะ ข้ากลับล่ะ พาสองคนนี้ไปเดินดูรอบด้วยหรือไม่ก็พาไปหาพวกเมรุก็ได้” เลิฟหันมาสั่งพวกยักษ์ก่อนจะเดินทางกลับบ้าน

 

“ฮึบ! ฮึบ! เฮ้อ~จู่ๆในระหว่างที่เลิฟกำลังจะเปิดประตูเข้าไปในห้องก็ได้ยินเสียงที่น่าจะเป็นเสียงศรีดังเข้ามา…และแล้วภาพที่ปรากฏให้เห็นก็คือ…

“กำลังทำอะไรอยู่นะท่านเอ็นมะศรี” เลิฟมองศรีที่กำลังทำท่าซิทอัพอยู่อย่างงงๆ

“พอดีช่วงนี้น้ำหนักขึ้นนะเลยจะออกกำลังกายซะหน่อย” ศรีพูดก่อนจะเริ่มซิทอัพต่อ

“เห…งั้นไปที่ยิมตอนนี้กันเลยเถอะ!” เลิฟพูดก่อนจะลากคอศรีไปที่ยิม

“เฮ้ย ใจเย็นๆก่อนสิ เอ๊ยเดี่ยวสิเลิฟตันนนน” ศรีแหกปากอย่างโหยหวนไปตามทาง

 

อีกด้าน

 

“เฮ้อ~ แย่จังเลยน้ำหนักขึ้นอีกแล้ว มิอวบ เอ๊ย! มิโอะบ่นแล้วเดินมาหาเมรุอย่างปลงๆ

“งั้นไปที่ยิมไหมล่ะ ทานิกับจิโยริจะไปด้วยกันไหมถือซะว่าไปเที่ยวด้วยเลย” เมรุพูดก่อนจะลากทานิและจิโยริที่กำลังนั่งกินดังโงะอย่างเอร็ดอร่อยไปด้วย 

“เอ๊ย! ดะ..เดี่ยว เดี๊ยว!!ทานิตะโกนโวยวายก่อนจะพยายามคว้าดังโงะไปด้วยอย่างเอาเป็นเอาตาย

“เพื่อดังโงะ อะจ๊ากกกกก” จิโยริพูดก่อนจะคว้าถุงดังโงะมาอย่างยากลำบาก…ความพยายามหน่อความพยายาม

.

 

.

“ช้ามาก! อีก 100 ครั้ง!.. เลิฟพูดพรางตอกดาบเคนโด้ใส่พื้นไม้จนเกิดรอยร้าว

“หะ…โหด! เจ้าโหดเกินไปแล้วนะเลิฟตัน!!ศรีตะโกนก่อนจะเร่งสปีดวิดพื้นให้เร็วขึ้นอีกด้วยใบหน้าซีดๆ

“เพิ่มอีก 200 ครั้ง! เลิฟตันพูดพรางแผ่รังสีอาฆาตใส่ศรี

“ยังจะเพิ่มอีกเรอะ!” ศรีพูดแล้วพยายามวิดพื้นทั้งน้ำตา…น่าสงสารแท้

“แฮ่กๆๆ อ่า~ ไม่ไหวแล้ว…มิโอะที่วิ่งอยู่บนลู่วิ่งพูดออกมาก่อนจะล้มลงไปด้วยความเหนื่อยหอบ…

“นี่! อย่าพึ่งยอมแพ้สิมิอว-…มิโอะ กำลังวิ่งได้แค่ 30 วิเองนะ ดูเมรุเป็นตัวอย่างสิ… เลิฟพูดก่อนจะชี้ไปทางเมรุที่กำลังวิ่งไปซดราเม็ง ใช่ๆ ซดราเม็งไปด้วยมันจะได้เพิ่มอรรถรสในการกิน..จะบ้าเรอะไง!!!

“นี้ไปสั่งราเมงมาตอนไหนกันเมรุ!” เลิฟตะโกนพรางชี้ไปที่กองชามรางเม็ง…กินเยอะไปไหนเนี๊ยคนนี้

“แหม ท่านเลิฟล่ะก็ ไหนๆข้าก็สั่งมาแล้วจะปล่อยไว้มันก็เสียดายอะ ราเม็งมันต้องกินตอนร้อนๆสิถึงจะอร่อย” เมรุพูดพรางซดไปวิ่งไปต่อ ความสามารถสูงซะจริง

“แต่นี้มันนรกนะ อาหารมันจะไปเย็นได้ไงกัน! เฮ้อ ข้าขี้เกียจเถียงกับเจ้าล่ะ…ท่านเอ็นมะศรีคิดจะไปไหนมิทราบคะเลิฟพูดพรางกุมขมับก่อนจะหันไปส่งสายตาจิกให้ศรีกลับมาวิดพื้นต่อ

“แหม ข้าแค่จะไปห้องน้ำเองนะ” ศรีพูดก่อนจะเดินคอตกกลับมาวิดพื้นทั้งน้ำตาต่อ

“หึ ทางที่ไปมันทางออกชัดๆ เพิ่มอีก 500 ครั้ง!เลิฟพูดก่อนจะเดินไปนั่งกินราเม็ง? และแผ่รังสีใส่ศรีไปด้วย…อ่อ เมื่อกี้ก็พึงว่าเค้าแล้วไปกินมั้งเนี๊ยนะ ถถถ

“ไม่ไหวแล้ว ไปกินดังโงะกับทานิและจิโยริข้างนอกดีกว่า” มิโอะมองทุกคนซักพักก่อนจะเดินออกไปหาทานิและจิโยริที่รออยู่ข้างนอก…แล้วจะผอมกับเค้าไหมล่ะเนี๊ยมิอวบ

 

ณ วันรุ่งขึ้น

 

“ยัตต้า!!! ลดได้ตั้ง 2 กม. เบาขึ้นเยอะ วะฮ่าๆๆๆ กร๊ากกก ศรีแหกปากลั่นหลังจากตื่นเช้ามาชั่งน้ำหนัก

“หนวกหูเฟ้ย! เดี่ยวข้าจะฟาดท่านด้วยกระบองจนพูดไม่ได้เลยดีไหม เลิฟตะโกนก่อนจะพูดเสียงเรียบแล้วหยิบกระบองหนามสีดำของตนออกมา

“อย่าแก้ปัญหาด้วยความรุนแรงสิเลิฟตัน…” ศรีพูดพรางยกมือขึ้นเหนือหัวด้วยใบหน้าซีดเผือก

“ที่นี่คือนรก เพราะงั้นเราตัดสินกันด้วยความรุนแรง หึหึ” เลิฟตันพูดก่อนจะตีกระบองป๊าบๆๆใส่มือแล้วเริ่มเดินเข้ามาใกล้ศรีเรื่อยๆ

“แว๊ก! ใจเย็นข้าแค่ดีใจที่ข้าลดน้ำหนักได้ ข้าต้องขอบคุณเจ้าจริงๆ…อย่าฟาดข้าเลยศรีพูดพรางหาทางเปลี่ยนเรื่องไปเรื่อยๆ

“ข้าไม่ยกโทษให้ท่านหรอกนะที่ทำให้แก้วหูข้าเกือบแตก น่าฟาดซักสองสามรอบไม่เป็นไรหรอก ไหนๆท่านก็ตายไป ทำยังไงก็คงไม่ตายซ้ำสองหรอก มันไม่น่าเป็นไร…มั้ง” เลิฟพูดยิ้มๆก่อนจะง้าวแขนฟาดศรีด้วยคอมโบระดับเทพ…

“ดะ..เดี๊ยว…อิย๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!!!!”

 

หลังจากนั้น 3 นาที

 

“กะ..ก็เพราะว่ามันไม่ตะ..ตาย ถะ..ถึงได้เจ็บไงเล่า!!! อูยๆๆศรีตะโกนพรางร้องโอดโอยด้วยท่าทางที่น่าสงสารมาก

“น่าๆแค่นี้เองเดียวท่านก็หายแล้ว เอาล่ะกลับมาเรื่องน้ำหนักต่อ ยินดีด้วยที่ลดได้ค่ะ” เลิฟพูดพรางทำหน้าแบบไม่ค่อยจะเต็มใจชม…จริงไปทางเบื่อแบบสุดๆด้วยซ้ำ        

“ทำหน้าให้มันดูจริงใจหน่อยเซ่เจ้านะ! แต่ชั่งเถอะ…หึหึ ตอนนี้เห็นพลังของท่านเอ็นมะศรีผู้นี้รึยังล่ะ ก๊ากๆๆๆศรียืดอกพรางระเบิดหัวเราะอย่างภาคภูมิอีกครั้ง ทั้งๆที่เมื่อกี้พึ่งจะร้องอย่างเจ็ดปวดอยู่แท้ๆ

“แล้วชุดมันหลวมไหมล่ะ…ข้างล่าง รึว่าข้างบน หึหึหึ” เลิฟพูดพรางแสยะยิ้มออกมา

“มันก็ต้องข้างล่างอยู่แล้วสิที่หลวม..นะ…เอ๊ะ!? ม่ายจริ้ง!!!!ศรีพูดอย่างมั่นใจก่อนจะจับหน้าท้องดู…และแล้วสิ่งนั้นมันก็เกิดขึ้นเมื่อเธอลองเลื่อนมือขึ้นมาข้างบน…

“ดูท่าทางไอ้ที่ลดไป 2 กม.มันจะเป็นไอ้นั้นนะ หึหึเลิฟพูดพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างด้วยความสะใจ หนักข้างล่ะกิโลสินะ อืมๆๆ…

“ม่ายยยยย ไอ้ก่อนหน้ามันก็น้อยอยู่แล้วยังจะลดอีก โถ่ๆลูกแม่กลับมาเถอะ ฮือๆ” ศรีพูดก่อนจะเดินไปนั่งหดหู่อยู่ตรงมุมมืดของห้อง…น่าสงสารจริงๆ // กลั้นขำ

“ไม่เห็นเป็นไรเลยนี้น่าซาชิโกะจัง ถึงมันจะไม่ค่อยมีแต่ก็นุ่มเหมาะมือนี้ ฮี่ๆ” นาโกะจังหรือหลานสาวสุดรักสุดหวงของท่านเอ็นมะศรี

 

“นาโกะ!!…ฮือๆ คงมีแต่หลานสินะที่เข้าใจข้า…ว่าแต่เมื่อกี้นี้คำปลอบเรอะศรีพูดก่อนจะกระโดดเข้ากอดนาโกะ

“ถึงซัซชี่จะเล็กแต่ก็น่ารัก ให้อภัยๆ”  นาโกะพูดพรางฉีกยิ้มหวาน

“ไม่หรอกๆนาโกะน่ารักกว่า โตขึ้นต้องมีคนมาจีบเยอะแน่ๆ” ศรีพูดพรางลูบหัวนาโกะยิ้มๆ

“เอ้าๆอวยกันเข้าไป…ไม่ต้องทำงานกันแล้ววันนี้ เฮ้อ” เลิฟที่ยืนอยู่ห่างๆพูดก่อนจะเดินกุมขมับออกไปจากห้อง

“อ้าว ท่านพี่เลิฟตัน สวัสดีค่ะ เห็นนาโกะไหมคะ” มิคุจังหลานสุดรักสุดห่วงอีกคนของท่านเอ็นมะศรี

“นั่งอวยกันไปอวยกันมาอยู่ในห้องนะ  จะเอาหูฟังด้วยไหมเผื่อเจ้ารำคาญ” เลิฟพูดก่อนจะหยิบหูฟังขึ้นมา

“ไม่เป็นไรค่ะ หนูว่าหนูไปหาพวกเมรุจังดีกว่า ถ้าอยู่มีหวังรากงอกแน่ๆ ตั้งใจทำงานนะคะ” มิคุพูดก่อนจะส่งยิ้มบางๆให้เลิฟตัน

“ถ้าท่านเอ็นมะศรีได้นิสัยมิคุมาซักเสี้ยวหนึ่งก็คงจะดีนะ…” เลิฟยิ้มก่อนจะเดินจากไป

.

 

.

“นี้จิโยริ เจ้าว่าเราจะมีบทตอนไหน” ทานิพูดพรางนั่งห่อเหี่ยวอยู่ตรงม้านั่ง

“คงอีกนานมั้ง แล้วพวกเจ้าล่ะว่าไง” จิโยริพูดพรางหันไปถามเมรุกับมิโอะ

“ก็รอมันต่อไปล่ะมั้ง น่าๆอีกหน่อยก็มีบทแหละ..มั้งนะ” เมรุพูดพรางตบบ่าพวกทานิ

“อีกนานแค่ไหน ถึงจะใกล้..คำว่ามีบท~~…ฟี้~ฟี้~…มิโอะร้องเพลงก่อนจะพิงบ่าของเมรุแล้วก็หลับไปหน้าตาเฉย

“รู้สึกคันๆไหมจิโยริ” ทานิพูดพรางเหล่มองเมรุกับมิโอะ

“ทานิพาข้าไปโรงบาลที รู้สึกว่าข้าจะเป็นเบาหวาน กิ้วๆๆ” จิโยริพูดก่อนจะที่ทานิจะลากเพื่อนตนไป

“หวานกันตามสบายพวกข้าไปล่ะขี้เกียจเป็นก้าง ฮ่าๆๆๆ” ทานพูดก่อนที่จะเดินหัวเราะไปพร้อมๆกับจิโยริ

 

“ไอ้สองตัวนี้นิ อย่าให้ข้าตามไปได้ล่ะกัน…ตอนหลับก็น่ารักดีเหมือนกันแฮะ จิ้มๆ” เมรุพูดพรางยิ้มออกมาบางๆก่อนจะจิ้มไปที่แก้มนุ่มๆของมิโอะแล้วก็แอบขโมยจูบไป

“หวา เผลอทำไปจนได้ หวังว่าคงไม่รู้ตัวนะ…” เมรุพูดพรางเบือนหน้าหนีไปทางอื่น และหารู้ไม่มิโอะแค่แกล้งหลับ

‘ฮิฮิ เมรุนี้น่ารักจริงๆเลยนะ’ มิโอะคิดพรางลอบยิ้มออกมา…ก่อนที่เจ้าตัวจะเผลอหลับไปจริงๆ

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

จบแล้วหนึ่งตอน และเนื้อเรื่องทั้งหมดมาจากการ์ตูน

Hoozuki no reitetsu ทั้งนั้น อย่างมากแค่เปลี่ยนบางอย่างเท่านั้น

ขอแนะนำเรื่องนี้ทำเอาไรท์ติดงอมเลยล่ะ 5555 #ออกทะเลเรื่อยๆ >w<

จะตั้งตารอเลยไรเดอร์

งืมมมมมมมมม  ><    ฟินเมรุมิโอะ  แต่….

 

อยากได้ซากุกับใครก็ได้มากกว่า //ได้คีบจะเอาศอก

 

ศรีนาสงสาร  #ถึงจะเล็กแต่ก็นุ่มมือนะ หุหุ :3

ท่านศรีที่เคารพรักค่ะ ทำงานเถอะค่ะ จะได้ไม่เป็นภาระของเลิฟตัน
เมรุถ้าจะกินก็นั่งกินเถอะ วิ่งไปกินไปไม่ทำให้น้ำหนักลดหรอกนะ
มิโอะไม่ต้องลดน้ำหนักหรออวบๆแบบนั้ยแหละ จะได้อวบแข่งกับขาแน่น เอ้ย! คาน่อน ^^

ใช้ศรีภรรยาทำงานรึไง ยัยศรี
วิดพื้นแบบนี้ กล้ามขึ้นพอดี
ไปช่วยงานเลิฟตตันเลยจะได้ไม่อ้วน

สามีภรรยาคู่นี้ ตีกันบ่อยจริงๆ 555
ยินดีด้วยที่นํ้าหนักมันลด
และเสียใจด้วยที่หน้าอกมันก็ลดตาม ถถถถว์
เมรุสกิลสูงจริงๆ วิ่งไปกินไป – -;
เมรุฉวยโอกาสมิอวบได้ไงอ่ะ ><

เอ็นมะศรีนี้น่าสงสารแท้  ที่จริงไอจังลงโทษอย่างก็สมควรละนะ

แต่คู่เมรุมิอวบ?นี้ท่าทางหวานกันตลอดเจอกันทีก็กอดกันหมับ