[??](Keyakizaka46)Bad guy…แค่เธอคนเดียวก็พอ (Risa x Manaka) Part 2 (16/10/07)
Bad guy…แค่เธอคนเดียวก็พอ
Part 1
การแก้แค้น
ฉันรู้นะว่าคุณรู้สึกยังไงเมื่อได้ยินคำๆนี้
แต่จะให้หยุด ฉันก็ทำไม่ได้
สิ่งเดียวที่ฉันคิดได้
เธอต้องเจ็บปวดยิ่งกว่าฉัน
ฉันมองรูปเด็กสาวคนหนึ่งที่อยู่ในมือ เป้าหมายของฉัน ชิดะ มานากะ ลูกสาวคนเดียวของแก๊งเจ้าหนี้รายใหญ่ที่มี
อิทธิพลในแถบนี้
แต่น่าเสียดายนะที่การป้องกันหละหลวมไปหน่วย แค่นี้ก็รุกฆาต
“เธอต้องการอะไร จับตัวฉันมาทำไม”
“เพราะอยากเห็นสีหน้าที่เจ็บปวดของใครบางคนละมั้ง”
“ฉันไม่เคยทำ อ๊ะ” ฉันบีบแก้มเธอ
“ไม่เคยงั้นเหรอ! เธอรู้รึเปล่าว่าครอบครัวของเธอทำอะไรไว้กับครอบครัวของฉัน!”
“จะไปรู้ได้ไงหล่ะ”
เพี๊ยะ ฉันตบเธอไป เลือดสีแดงซึมออกมาจากมุมปาก
“สีหน้าแบบนี้แหละที่ฉันอยากจะเห็น คงเจ็บสินะ”
เพี๊ยะ
“ความเจ็บของเธอไม่ได้ครึ่งหนึ่งของครอบครัวฉันหรอกนะ”
“แต่ฉันไม่เกี่ยว”
“หึ ไม่เกี่ยวงั้นเหรอ เพราะเธอเป็นลูกของมันยังไงหล่ะ โทษโชคชะตาของเธอแล้วกันนะ มานากะ”
“หยุดนะ!” หญิงสาวพยายามผลักไสคนที่คร่อมตัวเธออยู่ให้ออกไป
“หึ คิดว่าฉันจะทำตามที่เธอบอกรึไง” ฉันทำได้แต่ยิ้มตรงมุมปากก่อนจะเลื่อนริมฝีปากให้ประกบในตำแหน่งเดียวกัน ส่ง
ปลายลิ้นเข้าไปสำรวจทั่วโพรงปากของคนตรงหน้า
“อือ” หญิงสาวได้แต่ร้องประท้วงอยู่ในลำคอ สองมือที่ระดมทุบตีฉัน แต่นั่นไม่ได้ทำให้ฉันคิดจะหยุดแต่อย่างใด
“ได้โปรดหยุดเถอะ” น้ำตาที่ค่อยไหลจากตาคู่สวย แต่นั่นก็ยิ่งทำให้ฉันมีความสุข รู้สึกทรมานให้
มากกว่านี้อีกสิ เจ็บปวดให้มากกว่านี้อีกสิ
.
.
.
.
.
.
“หึ ใส่เสื้อซะสิ” ฉันโยนผ้าที่ถูกโยนอยู่บนพื้นไปให้ ร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง ด้วยสายตา
ที่ว่างเปล่า เธอยังคงนอนหันหลังให้ฉัน เสียงสะอื้นที่ได้ยินเบาๆ น้ำตาเธอยังคงไหลไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
“ถ้าจะนึกแค้น ไปแค้นพ่อของเธอแล้วกัน มานากะ” แล้วฉันก็เดินออกจากห้องไปปล่อยให้เธออยู่ลำพัง ทันทีที่ปิดประตู
ลงฉันก็ทรุดลงกับพื้น นี่ฉันกำลังทำบ้าอะไรอยู่…
“กินซะสิ” ฉันยกอาหารไปให้เธอที่ยังนอนอยู่บนเตียง แต่เธอกลับปัดมันออก
เคร้ง!! เสียงจานหล่นกระทบพื้นพร้อมกับเศษอาหารที่หล่นกระจาย
“ดี!! ไม่กินก็ไม่ต้องกิน!” หึ จะดูซิว่าเธอจะอวดเก่งไปถึงเมื่อไหร่
ฉันเข้ามาทำความสะอาดในห้องและเธอยังคงร้องไห้…
แต่ไม่รู้ทำไมฉันไม่ได้รู้สึกยินดีซักเท่าไหร่
ทั้งๆที่เธอก็เจ็บปวดแล้วนี่ เธอกำลังเสียใจอยู่ แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ไม่ได้ยิ้มออกมา
ตั้งแต่เด็กฉันไม่เคยทำให้ใครร้องไห้ นี่เป็นครั้งแรก
และฉันคงถอยหลังไม่ได้อีกแล้ว…
ไร้วี่แวว พวกนั้นคงยังไม่รู้สินะว่าเธอถูกลักพาตัวไปที่ไหน
หึ ดิ้นรนกันเข้าไป
หาฉันให้เจอสิ
ฉันอยากจะเห็นสีหน้าของแกตอนที่เห็นลูกสาวแกจริงๆ
“โอ๊ย!!!” เสียงร้องตะโกนดังมาจากในห้อง เมื่อเข้ามาพบกับหญิงสาวที่นอนขดตัวงออยู่ สองมือกุมที่หน้าท้อง
“ปวดท้อง เจ็บ” เธอร้องอย่างดิ้นทุรนทุราย
“เฮ้ เป็นอะไรหน่ะ”
“เจ็บ ไม่ไหวแล้ว” เธอกำมือแน่น หยาดน้ำตาไหลอาบแก้ม
“เฮ้ อย่ามาตายในห้องนอนฉันนะ”
“ขอยาในกระเป๋า” ฉันรีบหยิบกระเป๋าของเธอออกมา ยาลดกรดนี่สินะ
ฉันพยุงตัวเธอขึ้นมาก่อนจะป้อนยาเข้าไป จับตัวเธอให้นอนลง สงบลงแล้วสินะ
อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น ฉันไม่ได้คิดจะใจอ่อนหรอกนะ แค่ไม่อยากเห็นใครมาตายในห้องเท่านั้นเอง
ฉันกลับเข้ามาในห้องอีกทีพร้อมกับข้าวต้มในถาด ฉันไม่ใช่คนใจร้ายที่จะปล่อยให้คนเป็นโรคกระเพาะอดอาหารตาย
หรอกนะ
“กินเข้าไปซะ”
“ฉันไม่อยากกิน”
“เธอจะดื้อให้มันได้อะไรขึ้นมาห๊ะ”
“นั่นมันเรื่องของฉัน”
“อยากปวดท้องอีกรึไง”
“…”
“เลิกต่อต้านฉันโดยไม่จำเป็นได้แล้ว”
“ฉันไม่” ก่อนที่เธอจะพูดอะไรจบ ฉันตักข้าวต้มยัดเข้าปากของเธอ
“ถุ้ย!”
“หน็อย มันจะมากไปแล้วนะ” แต่ฉันก็ยังคงยัดข้าวต้มเข้าปากเธออยู่อย่างนั้น
“แค่กๆๆ” เธอหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม ก่อนจะหันมามองค้อนฉัน
“หึ อย่าทำตัวมีปัญหาให้มากนัก กินซะให้หมด ถ้าฉันกลับมาแล้วยังไม่หมด คงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ฉันพูดพร้อมกับใช้
ปลายนิ้วเกลี่ยริมฝีปากของเธอ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
เวลาก็ล่วงเลยมาอีกวัน แต่ก็ยังไร้วี่แววจากคนพวกนั้นอยู่ดี หึ ไร้น้ำยากันซะจริงๆ ฉันได้แต่แสยะยิ้มมองออกไปนอก
หน้าต่าง จะต้องให้ฉันรอไปถถึงเมื่อไหร่กันนะ
“คุณแม่…อย่าทิ้งหนูไป คุณแม่ ช่วยหนูด้วย” เสียงละเมอของคนที่นอนอยู่ทำให้ฉันเดินไปใกล้ๆ
“ฝันร้ายงั้นเหรอ” ฉันจับตัวเธอหวังว่าจะปลุกให้ตื่น เพราะฉันทนเห็นไม่ได้หน่ะสิ ความฝันมักเกิดจากส่วนลึกของจิตใจ
เหมือนเห็นภาพตัวเองซ้อนทับอยู่กับคนตรงหน้า
“ตัวร้อนนี่ ให้ตายสิ” ฉันต้องกุมขมับให้หญิงสาวตรงหน้า หาเรื่องปวดหัวมาให้ฉันทุกที
แต่ก็ลุกไปเปิดไฟในห้อง ก่อนจะเดินไปหยิบกะละมังพร้อมกับผ้าผืนเล็ก
ใบหน้าแดงก่ำของคนตรงหน้าถูกเช็ดด้วยผ้าที่เปียกหมาดๆ ก่อนจะไล่ไปทั่ว ฉันปลดกระดุมออกจากเสื้อเชิ้ตสีขาวเผยให้
เห็นผิวขาวเนียน ที่มีรอยแดงเป็นจุดๆ พร้อมกับรอยช้ำตามร่างกาย แผ่นหลังที่มีรอยเหมือนแส้ฟาดยาวเป็นเส้น สาบานว่า
รอยนี่ฉันไม่ได้ทำ เมื่อฉันเช็ดตัวให้เธอเสร็จก็เดินไปหยิบยามาบรรจงทาตรงบาดแผลของเธอให้ โหดร้ายจังนะ แต่ฉันก็ทำ
สิ่งที่โหดร้ายกับเธอเหมือนกันสินะ ฉันคงไม่ต่างจากคนพวกนั้นนักหรอก แล้วนี่ฉันมัวมาคิดอะไรอยู่ เธอเป็นศัตรูนะ
“กินซะสิ ขืนเธอตายไปก่อนฉันก็แย่หน่ะสิ” ฉันวางถาดโจ๊ก ยาลดไข้และแก้วน้ำให้คนตรงหน้า แต่เธอทำเพียงเมินหนีมัน
“ฉันไม่อยากกิน”
“ฉันบอกให้กินยังไงหล่ะ หรือต้องให้ฉันจับยัดให้เธอกินห๊ะ!”
“ได้!!” ฉันจับคางเธอให้หันหน้ามาพร้อมกับยัดข้าวต้มเข้าปากเธอไป
“กลืนไปซะเซ่”
“ในเมื่อกินดีๆไม่ชอบ” ฉันจัดการยัดโจ๊กเข้าปากของเธอก่อนจะประกบริมฝีปากตามลงไป
“พอแล้ว”
“หึ ทีนี้จะยอมกินดีๆแล้วยังหล่ะ”
“ฉันกินเองได้หน่า” เธอพูดด้วยเสียงเหนื่อยอ่อน
“กินไปเงียบๆเถอะหน่า” ฉันยังคงตักโจ๊กป้อนให้เธอ แค่แรงจะพูดยังไม่มี แต่ยังดันทุรังได้ขนาดนี้
“กินยาซะสิ”
“ขอบใจ”
“เหอะ มาขอบคุณคนร้ายอย่างฉัน เธอบ้ารึเปล่า”
“งั้นที่เธอมาช่วยศัตรูอย่างฉันก็บ้าเหมือนกันสินะ”
“ปากเก่งนักนี่”
“กินยาสงสัยจะมีแรงขึ้นมารึเปล่า”
ฉันใช้มือลูบไล้ต้นขาของเธอ อีกมือหนึ่งเชยคางเธอขึ้นมาก่อนจะจูบอย่างดูดดื่ม คนภายในอ้อมแขนพยายามดันฉันออก
แต่ก็ไร้เรี่ยวแรงเพราะพิษไข้
“นึกว่าจะแน่ ฉันไม่ทำอะไรคนป่วยหรอกหน่า นอนซะสิ”
เธอหลับตาลงอย่างว่าง่าย ฉันวางผ้าชุบน้ำบนหน้าผากของเธอก่อนจะเอนตัวลงนอนข้างๆ ขืนเธอเป็นอะไรไปฉันคงรู้สึก
ผิด แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะยอมยกโทษให้หรอกนะ
ตุบ!!! เสียงดังเหมือนมีอะไรกระแทกพื้น ทำให้ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมา ก็พบคนข้างๆหายไป ฉันเปิดไฟจากโคมไฟข้างเตียงก็
พบร่างที่สลบอยู่บนพื้นไม่ไกลจากเตียงนัก ฉันรีบวิ่งไปหาเธอก่อนจะอุ้มตัวเธอขึ้นมา สัมผัสไอร้อนจากร่างกาย ไข้ขึ้นสูง
เลยนี่
“น้ำ ขอน้ำหน่อย” เธอพูดด้วยเสียงที่แหบพร่า
ฉันเดินไปหยิบแก้วน้ำมาให้ ค่อยๆพยุงตัวเธอขึ้น
ซักพักได้ยินเสียงหายใจที่สม่ำเสมอ ฉันใช้ผ้ามาเช็ดตัวให้เธออีกครั้ง
ทั้งคืนฉันแทบไม่ได้นอน แต่ก็เอาเถอะ อย่างน้อยคนข้างๆก็ไข้ลดลงหล่ะนะ เอ๊ะ แล้วนี่ฉันจะมาห่วงคนข้างๆทำไมหล่ะเนี่ย
^————————————————-^
เพราะโมเม้นคู่นี้เยอะเหลือเกิน อวยคู่นี้พร้อมกับเนรุเทะจิ555 (แต่หลังๆฟินมันทุกคู่55) แต่ไหนๆช่วงนี้ก็ฟินคู่นี้สุดๆเลยจัดมาซักเรื่องก่อน
อยากแต่งริสะให้ดูโหดร้ายกว่านี้ แต่นี่ก็สงสารโมนะ ไปๆมาๆกลายเป็นริสะที่แสนละมุน!? คงคอนเซ็ปต์ปากร้ายแต่ใจดี!? เหรอ? 555 แล้วเจอกันตอนหน้า♡ ٩(๑òωó๑)۶
อยากอ่านคู่นี้พอดีเลยยย ><
โมนะกินดีๆไม่ชอบหรอ555 ต้องให้ริสะใช้วิธีแบบนั้น//โดนโมนะตบ//ฟินเบาๆ คู่นี้ที่รอคอยก็มาแล้วหาอ่านพอดีเลย
ว๊าวววว //กราบไรท์งามๆๆ 46ที ค่ะซิสสส
อยากอ่านคู่นี้พอดีเลยยย ><
Part 2
Manaka 🙂
ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาบนเตียงสีขาว ห้องนอนที่ไม่คุ้นตา และคนแปลกหน้าที่นอนหลับอยู่ข้างๆ
หัวที่ปวดราวกับจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ฉันทำได้แค่เพียงหลับตาอยู่อย่างนั้น หากฉันหลับไปได้ก็คงจะดี
หากหลับไปตลอดกาลก็คงจะดี… ฉันจะได้ไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไร…
คนข้างกายรู้สึกตัวแล้ว แต่ฉันก็แกล้งหลับต่อไป สัมผัสของฝ่ามืออุ่นๆแต่ที่หน้าผากของฉัน ผ้าผืนเล็กที่แทบไม่เหลือ
ความชื้น ถูกนำไปชุบน้ำใหม่และวางกลับตรงหน้าผากของฉัน และเธอก็ลุกออกจากห้องไป กลับมาพร้อมกับโจ๊กในมือ
“นี่” เธอสะกิดเรียกฉัน ฉันเลยลืมตาทำเป็นเหมือนว่าเพิ่งตื่น
“ลุกมากินข้าวกินยาก่อนสิ” บางครั้งฉันก็ไม่เข้าใจการกระทำของคนตรงหน้า ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร หรือเพราะฉันป่วยเลย
เห็นใจงั้นเหรอ
แค่ลุกขึ้นมาฉันก็ต้องเอามือกุมศีรษะเอาไว้ ขยับร่างกายแค่นิดหน่อยแต่ความรู้สึกปวดก็แล่นเข้ามา
เคร้ง!! เสียงช้อนหล่นกระทบเข้ากับขอบจาน รู้สึกได้ถึงเรื่ยวแรงที่หายไป
“เอามานี่” เธอแย่งช้อนจากมือฉันไป
“อ้าปากสิ” ฉันทำตามที่เธอบอกอย่างง่ายดาย
เธอยื่นยากับแก้วน้ำให้ฉัน และฉันก็ต้องรับมันมาอย่างช่วยไม่ได้
เจ้ายาเม็ดเล็กสีขาวที่ฉันแสนเกลียด
ฉันแกล้งทำเป็นโยนยาเข้าปากแต่จริงๆฉันซ่อนไว้ตรงร่องนิ้ว และดื่มน้ำตามลงไป ฉันค่อยๆเอื้อมมือไปใต้หมอนหวังจะ
ทำลายหลักฐาน
หมับ!! เธอคว้าข้อมือฉันไว้ ฉันเบิงตากว้างด้วยความตกใจ
“เธอคิดจะทำอะไร”
“เปล่านี่”
“แบมือออกมา”
“ฉันสั่งให้แบมือออกมายังไงหล่ะ”
“อยากตายนักรึไงห๊ะ”
“ฉันเจ็บนะ ปล่อย” ฉันพยายามแกะมือของเธอออก แต่เธอยิ่งบีบมือฉันแน่นยิ่งกว่าเดิม
“เจ็บหน่ะสิดี จะได้จำ!”
“กินดีๆไม่ชอบใช่ไหมฮะ” เป็นอีกครั้งที่เธอยัดยาเข้ามาในปาก ตามด้วยประกบริมฝีปากเข้ามา น้ำค่อยๆไหลลงคอฉันอย่าง
ช้าๆ พร้อมกับยาเม็ดเล็กที่แสนขม
“หรือว่าติดใจรึไง”คำพูดดูถูกมากมายที่ออกมาจากปากคนตรงหน้า เจ็บใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
“ในเมื่อไม่อยากหายขนาดนั้น งั้นเรามาสนุกกันหน่อยไหม”
“อย่านะ” ฉันพยายามหลบเลี่ยงคนตรงหน้าแต่ร่างกายที่ไม่มีแรงก็ไม่อาจสู้คนตรงหน้าไหว หยาดน้ำตาที่เคยแห้งเหือดไหล
ออกมาอีกครั้ง เธอจับฉันรวบแขนขึ้นก่อนจะซุกไซ้ตรงซอกคอ ริมฝีปากที่ดูดเม้มจนเป็นรอยแดง ก่อนจะไล่ต่ำลงไปเรื่อยๆ…
.
.
.
.
.
.
.
‘มานากะ แม่ขอโทษนะลูก’
‘แม่คะ อย่าทิ้งหนูไป คุณแม่!! ฮือๆ’ เด็กสาววัยห้าขวบร้องไห้กอดหญิงสาวที่ร่างเย็นเฉียบ
‘เพราะแก!! แม่ฉันถึงต้องตาย เพราะแก!!’ เด็กสาวหันไปตะโกนใส่ชายวัยกลางคน ที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากตนมากนัก
‘แกกล้าชี้หน้าด่าฉันเหรอ นังลูกไม่รักดี!’
เพี๊ยะ!! เด็กตัวน้อยทรุดลงกับพื้น แต่นั่นไม่ได้ทำให้สายตาแข็งกร้าวในดวงตาคู่นั้นดูอ่อนลงแม้แต่น้อย
‘สายตาอวดดีเหมือนแม่แกไม่มีผิด’
‘อย่ามาว่าแม่ของฉันนะ’
‘จับมันไปขังไว้’
ภายในห้องที่มืดสนิท ไม่มีแม้กระทั้งเสียงใดๆ เด็กสาวร้องไห้กอดเข่าอยู่ตรงมุมห้อง
‘คุณแม่ ช่วยมานากะด้วย มานากะกลัว ฮือๆ’
‘แกนี่มันไม่ได้เรื่อง ให้ทำเรื่องง่ายๆแบบนี้ยังพลาด ไปเอาแส้มา’
ผั๊วะ! ผั๊วะ! เสียงแส้ฟาดกลางแผ่นหลังที่นับไม่ถ้วน เลือดสีแดงไหลซึมเสื้อที่ขาวที่บัดนี้ถูกย้อมไปด้วยสีแดงสด
‘โอ๊ย!!’ ฉันได้แต่กัดริมฝีปากจนเลือดไหลซึมออกมา
.
.
.
.
.
.
.
.
ฉันยังคงหลับตาอยู่อย่างนั้น เพราะได้เสียงฝีเท้าเจ้าของห้องที่เดินเข้ามาหา
สัมผัสได้ถึงความเย็นของผ้าที่เปียกชื้นที่สัมผัสกับร่างกาของฉัน
สำลีถูกชุบด้วยยาทาแผลก่อนที่จะชโลมลงบนแผลกลางหลังของฉัน
ฉันได้แต่กำหมัดแน่นและกัดฟันทน เจ็บ แต่ก็ไม่เท่ากับจิตใจฉันในนอนนี้
ทำไมเธอต้องทำแบบนี้กับฉัน… เหมือนโดนตบหัวแล้วลูบหลัง
เพราะเกิดมาเป็นลูกคนแบบนั้นหน่ะเหรอ
ถ้าเลือกได้ ฉันก็ไม่ได้อยากจะเป็นแบบนี้ซักหน่อย
น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลออกมาอีกครั้ง เสียงสะอื้นที่ดังออกมาเรียกความสนใจจากอีกคนในห้อง
“คิดว่าน้ำตาจะช่วยเธอได้รึไง”
“เอาเลยเซ่!! ฆ่าฉันให้ตายไปเลย เอาที่เธอพอใจเลยเซ่!”
“อย่ามาพูดบ้าๆนะ เรื่องจะให้ฆ่าใครหน่ะ!”
“อย่ามาป๊อดตอนนี้เซ่ แค้นมากไม่ใช่เหรอ แค้นจนอยากจะฆ่าให้ตายเลยรึเปล่าหล่ะ ถึงทำอย่างนั้นไปพ่อฉันก็ไม่สนใจใยดี
อะไรอยู่แล้วหล่ะ ไหนๆชีวิตฉันก็เฮงซวยขนาดนี้ ตายๆไปซะยังดีซะกว่า”
“มานากะ…”
“ทำไมถึงทำเสียงแบบนั้นหล่ะ เห็นใจเหรอ สมเพชรึไง ฉันที่เกิดมาไม่มีตัวตนสำหรับเค้า แต่ก็ถูกจับเป็นเครื่องมือต่อรองของลูกหนี้ตลอด เธอรู้รึ
เปล่า วัยเด็กของฉันที่ต้องใช้ชีวิตแบบหลบๆซ่อนๆ รู้รึเปล่าวันๆที่ต้องอยู่อย่างหวาดระแวง กี่สิบครั้งที่ถูกจับไปเรียกค่าไถ่ แต่ไม่เคย ไม่เคยเลยซัก
ครั้งที่คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าพ่อจะมาสนใจ น่าสมเพชใช่ไหมหล่ะ เพราะชีวิตมันบัดซบแบบนี้ไงหล่ะ! สู้ตายๆไปซะยังจะดีซะกว่า”
Risa 🙂
“ฉันไม่คิดจะทำอะไรบ้าๆแบบนั้นหรอก”
ฉันดึงตัวเธอเข้ามากอด
“ทำไม…”
“ฉันก็ไม่รู้ แต่ฉันไม่อยากเห็นเธอเป็นแบบนี้” ฉันไม่รู้ว่าฉันทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร ฉันยังหาเหตุผลสำหรับการกระทำนี้ไม่ได้
หรือเพียงแค่ไม่อยากเห็นใครตายอีกแล้วรึเปล่านะ หรือฉันกำลังรู้สึกสงสารคนตรงหน้าอย่างที่เธอพูดกันแน่
ฉันปล่อยให้เธอร้องไห้ในอ้อมกอดของฉันจนเธอผล็อยหลับไป
ฉันค่อยๆใส่เสื้อผ้าให้เธออีกครั้ง
บางทีคนที่ร้ายกาจที่สุดอาจเป็นฉันก็ได้ ฉันกำลังทำอะไรอยู่กันแน่นะ
การแก้แค้นที่ไม่ได้รู้สึกสะใจไปกับมัน
ฉันคงเป็นคนร้ายที่ล้มเหลวงั้นสินะ
หรือจิตใต้สำนึกของฉันยังหลงเหลือความยุติธรรมอยู่บ้าง
เธอเหมือนผ้าขาวที่ถูกแต้มสี
ตึ่ง!! ตึ่ง!!
เสียงดังมาจากประตูหน้าบ้าน
หึ ตามกลิ่นเจอจนได้สินะ
ฉันช้อนตัวหญิงสาวที่นอนสลบสไลอยู่บนเตียงขึ้นมา พร้อมกับเดินออกไปประจันหน้า
โคร้ม!! เสียงประตูถูกถีบกระเด็น
“คุณหนู!!”
ฉันนั่งมองไปตามเส้นทางที่คดเคี้ยว โดยมีอีกคนนอนพิงไหล่อยู่
ฉันตัดสินใจมาด้วยตัวเอง
อีกอย่างคนพวกนี้คิดว่าฉันเป็นเพื่อนคุณหนูของพวกมันด้วยสิ
ไหนๆก็ไหนๆ ขอดูหน้าคนที่มันทำให้ชีวิตฉันเป็นแบบนี้หน่อยแล้วกัน
^____________________________^
มาเสิร์ฟตอนที่สอง ตอนนี้ไม่มีอะไรมาก แค่คู่รักทะเลาะกันนิดหน่อย ใช่เรอะ!?
ปล.หลังจากมีรูปงานวิวาห์(!?) จาก FLASH มั่นใจมากว่าริสะมาถูกทางแล้ว ฮ่าๆๆ ฟินมากกก
ขอบคุณที่กลับมาอ่านอีกเช่นเคย ( ° ▽° )♡.
/่วิธีป้อนแบบนั้นอีกแล้ว ซ่อนไม่เนียนสินะจึงโดนแบบนั้น/ริสะขาา พี่ดูอบอุ่นจังฉากแรกอ้ะนะ>°<
้่่