[Short Fic] The Tales of Ghost (Mayuki) – Special : Perfume(27/04/57) [END]

The Tales of Ghost

 

เมื่อสองสาวคู่รักตกลงกันเป็นแฟน มันคงเป็นความรักที่หวานมุ้งมิ้งจนน่าอิจฉาถ้าหากว่าคนคนหนึ่งไม่ใช่ผี!

อย่างแรกคือปัญหาใหม่กำลังเข้ามาเพราะเจ้าเด็กน้อยของผีหื่นกำลังจะได้ผู้ช่วยคนใหม่

และอีกปัญหาคือเจ้าผีหื่นก็เหมือนจะมีความลับอะไรกับแฟนสาวด้วย

 

อ่านก่อนเพื่อความฟิน

สวัสดีนักอ่านทุกท่านก่อนล่วงหน้า แนะนำตัวใหม่ดีไหมนะ

ข้าพเจ้ามีนามว่า MelodySmile ,Wypokon หรือจะเรียกอะไรตามสบายเลย//ซะงั้น

ขอประเดิมเปิดฟิคก่อนค่อยๆทยอยลงทีละนิด

ฟิคนี้ขอแนะนำว่าควรอ่าน one short ก่อน

เพื่อให้ต่อเนื้อเรื่องได้ถูกต้อง ขออภัยที่มาทำตามคำขอช้าเกินไป

สุดท้ายจะว่าอะไรไหมถ้าไม่ขอไปตอนคอมเม้นในกระทู้นั้นเพราะมันคงดูไม่ดีที่จะไปขุดฟิคตัวเอง 5555

พูดเรื่องตัวเองมานานเริ่มเรื่องเลยแล้วกันนะคะ

สารบัญ

ตอนที่ 1

ตอนที่ 2

ตอนที่ 3

ตอนที่ 4

ตอนที่ 5

ตอนที่ 6

ตอนที่ 7

ตอนที่ 8

ตอนที่ 9

Special : Perfume/Special : Perfume(FULL)

 

Attached Images

The Tales of Ghost

 

ตอนที่ 1 : คนดูแลคนใหม่

 

แสงแดดสาดส่องเข้ามาในห้องนอน แต่เจ้าของห้องดูท่าทางว่าไม่อยากจะตื่นเลยแม้แต่นิด ถึงยังไงซะวันนี้ก็เป็นวันหยุดทั้งทีก็ขอนอนยาวๆหน่อย……ส่วนสิ่งมีชีวิต(?)อีกตนหนึ่งในห้องก็ดูมีความสุขกับการจ้องมองดูเจ้าของห้อง

 

เธอจ้องมองเด็กสาวที่นอนหลับตรงนี้ช่างน่ารักซะจริงๆหน้าม้าน้อยๆกับผมรอนสีดำที่ตอนนี้เริ่มคลายตรงขลับกับผิวขาวอมชมพูที่มองกี่ที่ก็ไม่เคยเบื่อ ชุดนอนเสื้อแขนยาวและกางเกงนอนขายาวสีชมพูที่แสนธรรมดาเมื่อมาอยู่บนตัวคนตรงมันช่างดูน่ารักขึ้นหลายพันเท่าตัว จนสิ่งที่จ้องมองเคลิ้มสุดๆ

 

“อืม….”เสียงครางออกมาเบาๆของเด็กสาวที่นอนอยู่พร้อมคิ้วขมวดเป็นปมเหมือนขัดใจบางอย่าง ก่อนที่เจ้าของร่างจะดึงตุ๊กตาหมีตัวโปรดมากอดไว้แล้วค่อยๆคลี่ยิ้มบางๆออกมาอย่างช้าๆ….ซึ่งภาพตรงมันช่าง……

 

.

.
.

.

.

.

.

 

‘กริ๊ด น่ารักเกินไปแล้วนะ ทนไม่ไหวแล้วค่ะ ขอ….ขอหอมแก้มหน่อยก็ยังดีเถอะนะ!’

 

เสียงในใจของสิ่งมีชิวิตสุดหื่นดังขึ้นก่อนที่เจ้าของความคิดจะกระโจนพุ่งไปหาคนที่นอนอยู่อย่างรวดเร็วแต่แล้วก็ต้องชะงักขึ้นมาเมื่อเด็กสาวเป้ามายเกิดตื่นขึ้นมาน่ะซิ

 

“วะ-เหวอ”

 

เสียงร้องของสิ่งมีชีวิตดังขึ้นมาด้วยท่าทางตกใจ แล้วที่เรียกว่าสิ่งมีชีวิตโดยไม่ยอมเรียกเธอว่าคนไม่ใช่เพราะว่าอะไรหรอกนะ ผมดำยาวสวย ผิวขาวเนียนอมชมพูดในหน้าคมกับดวงตาน้อยๆ พร้อมหุ่นนางแบบที่ใครๆก็อิจฉาจะเรียกว่าสาวสวยเลยก็ยังได้แต่ว่ามีสิ่งที่ผิดปกติอีกอย่างหนึ่งก็คือ…..

 

.

.
.

.

.

.

.

 

“นี่ยูกิ….คิดจะลวนลามชั้นอีกแล้วหรอ?”เด็กสาวที่ตื่นขึ้นมาจ้องอีกคนด้วยสีหน้าไม่พอใจพร้อมดุเจ้าสิ่งมีชีวิตที่เธอเรียกว่า ยูกิ

 

“ปะ-เปล่านะ มายุจัง ชั้นแค่จะปลุกเธอเฉยๆ เธอก็รู้นิว่าชั้นแตะตัวเธอต้องใช้พลังเยอะสุดๆ ชั้นยังอยากเก็บพังไว้ใช้กับเธอในตอนกลางคืนนะ”ยูกิพูดกับเด็กสาวบนเตียงที่เธอเรียกว่า มายุจัง พร้อมแก้ตัวสารพัดแต่คำแก้ตัวนี่มันช่าง……

 

“ยัยผีโรคจิต!”

 

มายุตะโกนด่าอีกคนแล้วปาตุ๊กตาหมีใส่หน้าอีกคนซึ่งความจริงแล้วมันควรทะลุผ่านร่างเธอไปแท้ๆ แต่ยูกิกลับตกใจซะจนเผลอรับหมีไปเต็มๆอย่างโง่ๆทั้งๆที่เธอเป็นผีแท้ๆ

 

ใช่แล้วล่ะ เธอ คาชิวากิ ยูกิ เป็นผีมาราวๆร้อยกว่าปีได้แล้ว และเด็กคนนี้ที่เป็นเจ้าของบ้านจอมขี้งอนแถมซึนสุดๆอีกคือ วาตานาเบะ มายุ ยูกิตกหลุมรักเด็กน้อยคนนี้ตั้งแต่มีชีวิตอยู่ แต่เป็นชาติภพที่แล้วนะและเธอก็มาตกหลุมรักเด็กคนนี้อีกครั้งในชาตินี้ แม้เธอจะเป็นผีสโตกเกอร์แต่เธอก็เป็นผีที่นิสัยดีสุดๆ รักเดียวใจเดียว

 

และสาเหตุที่เด็กสาวคนนี้กับเธอได้เจอกันก็เพราะเวทย์มนต์ในคืนวันฮาโลวีนทำให้สิ่งมีชีวิตแบบเธอฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้หนึ่งวัน ถ้าในปีก่อนๆเธอจะซ่อนตัวในซอกหลืบ(?)จนถึงเช้า แต่คืนนั้นเกิดอุบัติเหตุเข้าจนพวกเธอได้มาเจอกัน สุดท้ายจับพลัดจับพลูเด็กสาวสุดซึนก็มาได้เป็นแฟนกับคุณผีสุดหื่นซะอย่างนั้น

 

.

.

.

.

 

“มายุคะ อย่างอนนะๆ”ยูกิพูดเชิงออดอ้อนแล้วลอยไปใกล้ๆมายุที่กำลังนั่งเช็ดผมอยู่ตั้งแต่วันนั้นนี่ก็ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้วที่พวกเธอคบกัน แม้มายุจะมีงอนอะไรบ้าง แต่ก็ไม่เคยโกรธกันจนเป็นเรื่องใหญ่โต

 

ยูกิเองก็ตามติดมายุราวกับวิญญาณอาฆาตสุดหลอน แม้เจ้าตัวจะใช้คำน่ารักโดยบอกว่าเป็นภูติประจำตัวก็ตาม แต่การที่ยูกิตามมายุไปทุกที่ ตั้งแต่ที่โรงเรียน ที่เรียนพิเศษ หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ยูกิก็ลอยตามมายุไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ แม้ความจริงยูกิเองจะทำแบบนี้ตั้งแต่มายุยังมองไม่เห็นเธอ แต่พอเห็นแบบนี้แล้วอดหลอนขึ้นมาไม่ได้เหมือนกัน

 

และสิ่งที่มายุแปลกใจอีกอย่างคือทำไมตั้งแต่ที่เธอคบกับยูกิแล้ว เธอถึงมองเห็นยูกิได้ตลอดเวลา แม้ยูกิจะบอกว่าเป็นเพราะเธออยากให้มายุเห็นมายุเลยเห็นเธอ….

 

.แต่มันก็แปลกอยู่ดีนิ

 

“ไม่ได้งอนแล้วนิ”มายุพูดออกมาเบาๆก่อนจะเดินไปหาไดร์เป่าผม แต่คำพูดสั้นๆแค่นั้นก็ทำเอาผีสาวยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีทันที ก่อนจะลอยตีลังกาไปมาแล้วเริ่มหาเรื่อคุยกับคนรักอีกครั้ง

 

.

.
.

.

.

.

.

 

 “แล้วก็นะ มายุเคยได้ยินเรื่องหนูผีไหม ความจริงแล้ว…..”ยูกิกำลังจะเล่าเรื่องใหม่อีกเรื่อง ขณะกำลังนั่งเล่นในห้องรับแขกโดยมายุนอนอ่านหนังสือที่โซฟายาว แต่ยูกิก็โดนมายุขัดขึ้นมา

 

“ชั้นกำลังจะเปลี่ยนคนดูแลล่ะ”มายุพูดออกมาเบาๆแต่ทำเอายูกิตาโตขึ้นมาทันที

 

“เปลี่ยนคนดูแล?”ยูกิพูดพลางนึกขึ้นได้ว่าความจริงคนดูแลมายุก็หายตัวไปจากบ้านตั้งหลายวัน แต่เธอไม่ทันสนใจเพราะคิดว่าดีซะอีกที่เธอจะได้อยู่สองต่อสองกับมายุ

 

“ใช่ ป้ามิซาเอะเขาต้องกลับไปเลี้ยงหลานที่โอซาก้าเลยขอเปลี่ยนคนกะทันหัน”มายุพูดออกมาเบาๆ ทำให้ยูกิได้รู้จักว่าที่แท้ป้าคนนั้นมีชื่อเหมือนแม่ชิxxx การ์ตูนยอดนิยมที่ไม่มีคนเขียนต่อหลังคนเขียนเดิมตาย(ผิดแล้ว ขอโทษแฟนคลับการ์ตูนด้วยขอรับ)

 

ป้านั่นแก่ขนาดมีหลานแล้วหรอเนี่ย’ยูกิเผลอคิดในใจอย่างเสียงมารยาทก่อนจะสะดุ้งเมื่อมายุจ้องเธอด้วยสายตาเชิงจับผิด

 

“นี่แอบนินทาอะไรรึเปล่า”มายุพูดออกมาทำเอายูกิสะดุ้งอีกครั้ง ก่อนจะเบือนหน้าหนีแล้วปฏิเสธอย่างมีพิรุธ

 

“เปล่าๆ”

 

แต่ดูเหมือนมายุจะไม่ใส่ใจอะไรมากนัก มายุค่อยๆปิดหนังสือแล้วเตรียมเดินไปเก็บที่ชั้น

 

“แล้วนี่จะหาใครมาแทนน่ะ”ยูกิถามขึ้นมาเมื่อเห็นอีกคนเหมือนกำลังจะเดินหนี

 

“ก็…แล้วแต่คุณพ่อล่ะมั้ง”มายุพูดตัดบทก่อนเดินจากไปตามคาด ยูกิมองตามก่อนจะยิ้มขึ้นมาแล้วลอยไปดักหน้าคนที่กำลังจะเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นมาดื่ม ทำเอามายุชะงักแล้วจ้องมองอีกคนตอบกลับ

 

“ความจริงไม่เห็นต้องมีคนมาดูแลมายุเลย แล้วเธอก็มีชั้นอยู่เป็นเพื่อนอยู่แล้ว”ยูกิพูดขึ้นก่อนจะยิ้มกว้างขึ้นมา แต่ตัวเองกลับต้องหน้าแดงขึ้นมาแทนเมื่อได้ยินคำพูดกวนๆของมายุ

 

“เพื่อนหรอ….ไม่ใช่ว่าเธอคิดกับชั้นมากกว่านั้นหรอ ยูกิริน”มายุพูดจบก็มองยูกิที่หน้าแดงก่ำแล้วยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ

 

“อย่าแซวน่า”ยูกิพูดด้วยใบหน้าที่ยังคงขึ้นสีเลือดฝาด ถ้าหากว่าร่างกายของยูกิไม่ได้โปร่งแสงคงดูเหมือนเด็กสาวธรรมดาคนหนึ่ง พอคิดแบบนี้มายุก็อดเศร้าขึ้นมาไม่ได้ทุกครั้งแต่เธอก็ยังคงฝืนยิ้มและคิดว่าแบบนี้ก็ดีแล้วล่ะ

 

“ฮะๆ ชั้นไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า”มายุพูดจบแล้วก็เดินเลี่ยงเข้าห้องครัวไป แต่ว่าก็ยังคงหันกลับมาหายูกิอีกครั้งก่อนจะพูดคำที่ทำให้ยูกิยิ้มกว้างขึ้นมาทันที

 

“คุณภูติประจำตัวไม่ตามมาหน่อยหรอคะ”

 

“จะรีบไปทำหน้าที่เดี๋ยวนี้แหละค่ะ”ยูกิพูดจบก็ลอยเข้าไปตามเจ้านาย(หัวใจ)ของเธอที่กำลังง่วนกับการหาของกิน จะว่าไปเธอเองก็อยากกินนะถ้าไม่ติดที่ว่าไม่สามารถกินได้ถ้าไม่ถึงวันฮาโลวีน

 

แต่ถึงแม้จะต้องใช้พลังมากแค่ไหนในการจับตัวอีกคน จะไม่ได้ทำอะไรแบบที่อยากทำแต่ขอแค่คนคนนี้อยู่กับเธอ….แค่นี้ก็พอแล้ว

 

 

.

.
.

.

.

.

.

 

“ยูกิ ชั้นใส่เจ้านี่ไปแบบนี้ถูกไหม?”มายุถามยูกิด้วยสีหน้ากังวลขณะกำลังจะใส่แครอทในซุบ แต่ยูกิกับยกยิ้มพร้อมตอบคำถามที่ดูไม่ได้ช่วยอะไรเลย

 

“มายุถามชั้นแน่ใจแล้วหรอ ชั้นทำอาหารห่วยนะ”ยูกิพูดจบมายุก็หน้างอก่อนจะพูดตอบกลับด้วยเสียงงอนสุดๆ

 

“ก็แค่ถามความเห็นเฉยๆนิ….”มายุพูดจบยูกิก็ยิ้มออกมาทันที

 

‘อยากจะอยู่กันแบบนี้…ตลอดไปจังเลยนะ’ยูกิคิดในใจก่อนจะ ยิ้มเศร้าๆออกมาแต่เพียงเสี้ยววินาทีท่านั้นก็รีบกลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้มกวนๆของเธอ

 

“มายุ”ยูกิเรียกมายุให้หันมาหาทำเอาแม่ครัวสาวหันไปอย่างไม่ทันระวังตัว จนริมฝีปากของเธอไปชนกับริมฝีปากของคนเรียกทันที มายุรีบถอยออกด้วยใบหน้าแดงก่ำ ส่วนยูกิก็ยิ้มอย่างพอใจก่อนที่……

 

.

.
.

.

.

.

.

 

“ยัยผีบ้า!”

 

“โอ้ย!”

 

มายุตะโกนออกไปพร้อมช้อนคนซุบที่ลอยไปกลางหัวผีสาวพอดี และแน่นอนว่าผีสาวก็ตกใจจนหลบไม่ทันอีกแล้ว

 

.

.
.

.

.

.

.

.

.

.

 

เด็กสาวรูปร่างสมส่วน โดดลงจากรถแท็กซี่ด้วยท่าทางมั่นใจแล้ววิ่งไปหน้าบ้านเดี่ยวสีขาวสะอาดตา จากการดูรูปร่างหน้าตาก็พอรู้ว่ากำลังอยู่ในวัยกำลังโต แต่ด้วยท่าทางแก่แดดพร้อมแว่นตาสีดำนั่นมันทำเอาดูน่าหมั่นไส้ไม่น้อย ส่วนสาวข้างกายของเธอที่เพิ่งลงจากรถตามมาก็สวยไม่ต่างกันทั้งผมดำยาว ผิวขาวราวกับหิมะ แว่นตาสีชาและชุดเสื้อเชิ้ตขาวกับกระโปรงยาวแนบเนื้อสีแดงสด แต่สายตาที่มองเด็กน้อยข้างตัวช่างบ่งบอกว่าเธอเหนื่อยใจพอสมควร

 

“ท่านพี่ ข้ารับรู้ถึงพลังบางอย่าง……”เด็กสาวคนนั้นพูดขึ้นอย่างมั่นใจแต่ความมั่นใจกลับถูกทำลายลงเกือบจะหมดด้วยคำพูดสั้นๆ

 

.

.
.

.

.

.

.

 

“เธอไม่เห็นอะไรซักหน่อย”สาวน้อยที่อายุเยอะกว่าพูดขึ้นแต่เด็กน้อยก็ยังไม่ยอมแพ้

 

“ข้าว่าจะต้องมีพลังที่เราไม่อาจจะมองเห็นได้”เด็กสาวพูดต่ออย่างมั่นใจก่อนจะชูนิ้วขึ้นฟ้า ทำเอาคนที่มองอยู่อีกคนมองตามอย่างเหนื่อยใจกว่าเดิม เด็กสาวหลับตาลงแล้วหันไปชี้ที่บ้านที่อยู่ข้างหน้าพวกเธอแล้วพูดอย่างมั่นใจ

 

“บ้านนี้จะต้องมีผีสิงแน่”เด็กสาวพูดจบก็หันไปมองคนที่โตกว่าตนเองแล้วเริ่มเปลี่ยนสีหน้าและสายตาเป็นออดอ้อนแทน!?

 

“เรนะจังอย่ามาอยู่ที่นี่เลยนะๆๆๆ~”เด็กน้อยวิ่งไปเกาะแขนคนที่ตนเองเรียกว่าเรนะจัง จนเรนะเริ่มคิ้วกระตุกเพราะไอ้เด็กบ้านี่ไม่ใช่เกาะแขนยังทั้งเขย่าและกระโดดสลับข้างไปมา จนเธอเริ่มปวดหัวขึ้นมา

 

“จูรินะ…..”เรนะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกจนคนโดนเรียกชื่อสะดุ้งแล้วหยุดงอแง แต่เหมือนจะช้าไปซะแล้วล่ะ….

 

.

.
.

.

.

.

.

 

ตุ๊บ!

 

“โอ้ย!”

 

เสียงร้องของจูรินะดังขึ้นทันทีที่โดนเรนะเขกหัว

 

“พี่เรนะอะ!”จูรินะเริ่มโวยวายออกมาแต่ไม่ทันไรเรนะก็เริ่มดุน้องสาวอีกครั้ง

 

“ที่พี่ยอมให้เราตามมาด้วยก็เพราะเราแอบตามพี่มานะ แต่ถ้ามัวแต่งอแงวุ่นวายพี่จะโทรบอกให้คุณพ่อมารับกลับนาโกยาม่าตั้งแต่ตอนนี้เลย”

 

มัตสึอิ เรนะเป็นพี่สาวมัตสึอิ จูรินะครอบครัวของเธอมีฐานะปานกลางค่อนข้างไปทางยากจนเพราะฉะนั้นเธอจึงอยากจะมาเรียนที่โตเกียวเพื่อที่จะมีอนาคตที่ดี แต่ว่าเรื่อค่าใช้จ่ายและที่พักมันแพงเกินไปสำหรับตัวเธอเองและเธอก็ไม่อยากรบกวนครอบครัวของเธอด้วย จึงตัดสินใจมาหางานทำที่โตเกียวที่มีที่พักให้ฟรีและยอมให้เธอเรียนต่อได้ด้วย แต่ว่าเรื่องราวมันก็คงง่ายกว่านี้ถ้าเจ้าน้องสาวตัวแสบไม่แอบตามมาด้วย โชคดีที่เธอเจอตัวก่อนที่จะโดนพวกลักพาตัวเด็กจับตัวไป แถมเที่ยวรถไฟที่เร็วที่สุดที่จะพาน้องสาวเธอกลับบ้านได้ก็คือวันพรุ่งนี้ตอนบ่าย ทำให้เธอต้องจำใจให้น้องสาวตามมาด้วย

 

“โธ่ ก็น้องเป็นห่วงพี่นิ”จูรินะบ่นเบาๆพร้อมทำหน้าหมาหงอยซึมไปนิดหน่อยก่อนจะหันไปมองบ้านพัก…..เพราะเธอว่าเธอไม่มีทางคิดผิดแน่ที่นี่มันต้องมีอะไรบางอย่าง……

 

“พี่เรนะ…จูจังว่า”จูรินะพูดออกมาเบาๆแต่กลับโดนเรนะขัดขึ้นมาอีกครั้ง

 

“พอเถอะ ถ้างอแงอีกที เธอได้ตรงดิ่งกลับนาโกยาม่าแน่นอน”เรนะพูดขู่เสร็จ จูรินะก็จึงยอมเงียบไปแต่ว่าที่เงียบไม่ใช่เพราะเธอกลัวหรอกนะ

 

“งืม…ก็ได้”จูรินะพูดออกมาเบาๆก่อนจะคิดในใจ

 

ถ้ามีอะไรเราจะปกป้องเรนะจังเองแล้วกัน’จูรินะคิดไม่ทันทีก็สะดุ้งเมื่อพี่สาวลูบหัวเธอเบาๆพร้อมส่งยิ้มให้จนเธอหน้าแดงขึ้นมา

 

“เป็นเด็กดีแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย”เรนะพูดจบจูรินะก็ยิ้มแล้วพูดถามต่อด้วยน้ำเสียงกวนๆ

 

“แล้วพี่รักไหมล่ะ”

 

“ไปกันเถอะ”เรนะชะงักเล็กน้อยก่อนจะเลี่ยงที่จะตอบคำถามน้องสาวด้วยการชวนเข้าไปในบ้านพักที่เธอจะมาทำงาน

 

“โธ่ ไม่เคยคิดจะตอบกันเลยใช่ไหม?”จูรินะบ่นเบาๆก่อนจะเดินตามพี่สาวเข้าบ้านที่มีป้ายเขียนด้านหน้าว่า

 

‘บ้านวาตานาเบะ’

รอติดตามนะครับ

รอติดตามนะครับ

รอติดตามอยู่นะคะะะ><
(จริงๆเราตามไปอ่านที่เด็กดีก่อนแล้ว555)

รอติดตามค่าาา ><

ผู้ดูแลคนใหม่ *0*

เหมือนน้องจูจะมาตีกับผีโดยเฉพาะเลย

รอติดตามนะคะ

ผียูกินี้ หื่นได้เสมอต้นเสมอปลายจริง ฮ่าๆๆ

ว๊ากกกกกก ภาคต่อๆ *0*
มายูกินี่ยังคงคอนเซปน่ารักแบบแอบหื่นอยู่นะแต่ทำไมถึงรู้สึกว่ามันต้องมีเรื่องเส้าเกิดขึ้นทีหลังยังไงก็ไม่รู้แหะ…
ส่วนคู่เบิ้ลอิมาแนวพี่น้องอีกแว้ววววว ดูท่าคนน้องจะรักพี่มากนะ แต่คนพี่นี่ยังไงหว่า ก็รอดูกันต่อไป
แต่ที่แน่ๆบ้านนี้มันต้องวุ่นวายแหงๆดูจากรูปการณ์แล้ว…
น่าสนุกดีค่ะๆ เอาใจช่วยนะคะเราจะรอตอนต่อไปน้าาาา~

เรนะต้องมาเป็นผู้ดูแลมายุเนี่ยนะ??

จะไปรอดไหมเนี่ย

The Tales of Ghost

 

ตอนที่ 2 : เด็กเห็นผี

“นี่!”เสียงดุๆของเด็กสาวที่นั่งบนเตียงนอนในชุดนอนสีชมพูน่ารักดังขึ้นพร้อมใบหน้าที่แสดงถึงความไม่พอใจของเด็กสาว แต่สำหรับคนที่นั่งคุกเข่าราวกับสำนึกผิดกลับยิ้มขึ้นมาทันที

 

“ยังจะยิ้มอีก แล้วนี่แอบขึ้นมานอนบนเตียงชั้นอีกแล้วหรอ”วาตานาเบะ มายุสาวน้อยเจ้าของบ้านจ้องอีกฝ่ายพร้อมดุต่อ แต่ผีสาวกลับยิ้มเหมือนเดิมจนเธออยากจะขว้างของใส่ถ้าไม่ติดที่ว่าขว้างไปก็ทะลุตัวอีกคนแถมเธอยังเหนื่อยฟรีอีก

 

“ใช่ซะที่ไหนเมื่อคืนที่เธอกินเค้กผสมเหล้าขาวแล้วเมาไง ชั้นเลยช่วยพยุงขึ้นมาห้องนอน แต่พอใช้พลังเยอะเลยหมดแรงนอนกับเธอไปด้วย แต่ชั้นไม่ได้ทำอะไรมายุจังซักหน่อย”

 

‘ใครจะไปเชื่อล่ะ!’

 

มายุเถียงกลับอีกคนในใจทันทีที่ยูกิพูดจบ ก็เพราะตอนตื่นนอนมา….สภาพเธอเสื้อผ้าที่สวมอยู่มันหลุดออกเกือบจะทั้งตัวแล้วนิ เธออายแทบตายที่ต้องรีบวิ่งหยิบเสื้อผ้าที่กองอยู่ที่พื้นมาสวมใส่ก่อนจะมานั่งเทศน์อีกคนอย่างที่เห็น

 

แล้วทำไมชั้นถึงอยู่ในสภาพ….นั้นล่ะ!”มายุโวยวายออกมาแต่ยูกิกลับอมยิ้มแล้วพูดต่อ

 

“มายุจังถอดเสื้อผ้าเองน่ะ…..แถมเมื่อคืนเธอต่างหากที่เกือบจะจับชั้น….กด”ยูกิไม่พูดเปล่ายังเอาหน้ายื่นมาใกล้เธอจนมายุเริ่ม…หน้าแดงขึ้นมาด้วยความอาย ก่อนที่จะ…..

 

.

.
.

.

.

.

.

 

ป๊าบ!

 

มายุถีบผีหื่นเข้าที่ท้องจนเต็มแรงจนอีกคนหงายหลัง แต่ว่าน่าแปลกเหมือนกันที่เธอถีบได้โดยไม่ทะลุผ่านอีกฝ่าย

 

“อะ-โอ้ย!”ยูกิร้องออกมาเสียงดังก่อนจะกุมท้องตัวเอง มายุลุกขึ้นไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำที่แขวนอยู่มุมห้องมาสวมโดยไม่สนใจผีสำออยที่ร้องโอดครวญราวกับว่ากำลังจะตายอีกครั้ง

 

“นี่ชั้นไม่ว่างเล่นด้วยหรอกนะเพราะวันนี้เรามีแขกมาหา….”มายุพูดจบก็เดินออกไปจากห้องนอนเตรียมตัวไปแต่งตัวในห้องน้ำที่อยู่ชั้นล่าง

 

“แขก?”ยูกิพูดทวนออกมาเบาๆก่อนจะลอยตามมายุพร้อมถามด้วยสีหน้าสงสัย

 

“วันนี้จะมีคนมาหรอมายุจัง?”ยูกิถามจบมายุก็พูดตอบโดยยังคงเดินต่อและไม่หันมองผีที่ลอยตามเธอมา

 

“ก็วันนี้คนดูแลของชั้นจะมาแล้วน่ะซิ”มายุพูดจบยูกิก็พยักหน้าเบาๆราวกับเพิ่งนึกออกเพราะเธอเองก็เกือบลืมเรื่องนี้ไปเหมือนกัน

 

“นี่”เสียงมายุเรียกสติยูกิให้หันไปมองเจ้าของเสียง ก่อนที่ยูกิจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นอีกคนทำแก้มป่องพร้อมส่งสายตาดุๆมาทางเธอ

 

“เธอคิดจะตามชั้นไปถึงไหนฮะ”มายุพูดก่อนจะกอดอกมองยูกิที่เหมือนกำลังจะลอยตามเธอเข้าไป…

 

.

.
.

.

.

.

.

 

ในห้องน้ำด้วย!

 

ส่วนยูกิที่ไม่ทันคิดอะไรในตอนแรกก็ยิ้มออกมาทันที ก่อนจะพูดกวนๆชวนหาเรื่องให้ตัวเองเจ็บตัวอีกครั้ง

 

“อ้าว นึกว่ามายุอยากให้ชั้นไปช่วยอาบน้ำซะอีก”ยูกิพูดจบมายุก็ส่งค้อนงามๆไปให้เธอหนึ่งครั้งแล้วจึงพูดตอบ

 

“ไม่ต้องคิดเลย ชั้นอาบเองได้”มายุพูดจบก็เดินเข้าห้องน้ำไปแล้วปิดประตูทันที แต่ประตูที่ไหน…..กันผีได้ล่ะ ยูกิคิดแล้วก็ยิ้มออกมาแต่ไม่ทันที่เธอจะลอยทะลุผ่านบานประตูไม้สีขาวเข้าไปก็มีเสียงจากด้านในดังขึ้นมา

 

ถ้าเธอคิดจะแอบเข้ามาล่ะก็…..ชั้นจะโกรธจริงๆด้วยนะ!”

 

แม้คำพูดดูจะไม่ได้ร้ายแรงอะไรแต่ทำเอาผีสาวชะงักและล้มเลิกความตั้งใจทันที ก็เพราะคงไม่คุ้มแน่ถ้ามายุเกิดโกรธเธอขึ้นมาจริงๆ ยูกิก็ได้แต่ถอดใจก่อนจะค่อยๆลอยเอื่อยๆตามอารมณ์เศร้าๆของเธอไปที่ห้องรับแขกเพื่อรอมายุอาบน้ำเสร็จแล้วออกมาเล่นด้วยเหมือนทุกวัน

 

.

.

.

.

 

ติ๊ง ต่อง~

 

เสียงออดหน้าบ้านทำให้เด็กสาวที่กำลังนั่งกินข้างอยู่ลุกขึ้นพลางส่งเสียงตอบรับไปอย่างเคยชิน

 

“มาแล้วค่ะ~ มาแล้วๆ”

 

มายุพูดพลางวิ่งไปเปิดประตู ส่วนยูกิตอนนี้นอกจากจะลอยอย่างเนิบๆตามสไตล์ของตัวเองไปตามมายุแล้วยังยิ้มแย้มอย่างมีความสุขเมื่อเห็นท่าทางของมายุ

 

‘มายุ น่ารักจัง~’

 

.

.
.

.

.

.

.

 

“พี่มายุ!”เสียงน่ารักๆของเด็กสาวที่ดังขึ้นพร้อมกระโดดเข้าหามายุ ทำเอายูกิหุบยิ้มและหน้างอพร้อมแก้มป่องขึ้นมาทันที

 

‘ไอ้เด็กพวกนี้อีกแล้วหรอ’ยูกิคิดในใจอย่างขุ่นเคืองเมื่อเห็นแขกตัวน้อยทั้งสามคน คนแรกสาวผมสั้นที่กระโดดกอดมายุนั่นก็คือโคจิม่า มาโกะ สาวน้อยหน้าตาน่ารักแก้มป่อง ชื่อเล่นรู้สึกจะชื่อว่า โคจิมาโกะ ส่วนสาวสวยฟันเขี้ยวที่เงียบขรึมอย่างเดาอารมณ์ไม่ถูกชื่อว่าโอคาดะ นานะบางครั้งก็ถูกเรียกสั้นๆว่านาจัง และสุดท้ายสาวน้อยขี้อายผูกผมทรงทวินเทลที่ชอบร้องไห้มาให้มายุกอดปลอบจนยูกิได้แต่กัดผ้าเช็ดหน้า(?)ข่มอารมณ์ นั่นก็คือ นิชิโนะ มิกิ ที่ทำให้ยูกิรู้สึกโมโหไม่ใช่แค่เพราะสามคนนี้ได้ใกล้ชิดมายุเพราะเป็นรุ่นน้องม.ต้นที่โรงเรียนของมายุเท่านั้น ยังเพราะสามคนนี้ดันอยู่บ้านใกล้มายุแถมยังปลื้มมายุซะจนยูกิอดไม่ได้ที่จะหวั่นใจ

 

‘แหะๆ ท่าทางจะมีคนแถวนี้หึงนะเนี่ย’มายุคิดในใจพลางยิ้มบางๆพร้อมเหลือบมองผีสาวที่เธอสามารถเห็นได้เพียงคนเดียว

 

“มาโกะจัง มิกิจังแล้วก็นาจังมาทำอะไรกันแต่เช้าเนี่ย”มายุพูดพลางส่งยิ้มหวานให้ทั้งสามคนจนเด็กน้อยหลงไปตามๆกัน แต่ก็รู้สึกถึงรังสีบางอย่างแผ่ออกมาจากสิ่งที่ไม่สามารถเห็นได้ด้านหลังของมายุ

 

“คือว่าวันนี้พวกเราจะมาชวนมายุซังไปเที่ยวสวนสนุกค่ะ”นานะพูดพลางชูแผ่นพับสวนสนุกขึ้นมา มายุก็พยักหน้าเบาๆอย่างเข้าใจ แต่ยูกิน่ะซิ….

 

.

.
.

.

.

.

.

 

“ไปสวนสนุก!?”ยูกิร้องออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูจิกกัดเล็กน้อยส่วนมายุแอบมองแบบเหนื่อยใจ

 

“นี่พวกเธอ รู้ไว้ซะด้วยมายุของชั้นไม่ยอมไปสวนสนุกหรอกนะ” ยูกิพูดด้วยท่าทางมั่นใจแต่ประโยคถัดมาน่ะซิ

 

ก็มายุเพราะกลัวเครื่องเล่นไปซะทุกชนิดนิ! ฮะๆๆ  อุ๊ก!”พอพูดจบยูกิก็หัวเราะออกมาแต่ไม่ทันไรมายุก็แกล้งทำเป็นกระทุ้งข้อศอกใส่ยูกิจนต้องร้องเสียงหลง ยูกิกำลังจะบ่นมายุที่มาทำร้ายร่างกายเธอแต่ไม่ทันได้พูดอะไรก็โดนสายตามายุส่งมาพร้อมคำพูดที่บอกเธอแบบไม่เปล่งเสียงว่า

 

[อย่าทำตัววุ่นวายน่ะ]

 

แค่นั้นทำเอาผีสาวถึงกับหงอยลอยกลับเข้าบ้านไปอย่างช้าๆ ส่วนมายุแม้จะเห็นยูกิแล้วรู้สึกสงสารขึ้นมาเล็กน้อย แต่เธอก็ต้องรีบจัดการกับเด็กน้อยขายคุกกี้ เอ้ย เด็กน้อยสามคนที่มาชวนเธอไปเที่ยว

 

“ขอโทษด้วยนะวันนี้พี่มีธุระ คราวหลังไว้ไปกันนะ”มายุพูดพลางยกมือข้างหนึ่งทำท่าเชิงขอโทษ ส่วนเด็กสาวทั้งสามคนเมื่อได้ยินคำตอบก็รู้สึกผิดหวังไปตามๆกัน

 

“เออ….ถ้ายังไงอยากจะเข้ามากินคุกกี้ข้างในก่อนไหม?”มายุที่เห็นท่าทางเศร้าของเด็กน้อยก็อดสงสารไม่ได้ และเหมือนว่าคำพูดของเธอที่ใช้หลอกล่อจะได้ผลซะด้วย

 

“เอาค่ะ!”มาโกะพูดขึ้นมาอย่างร่าเริง

 

“ถ้าหากว่าไม่เป็นการรบกวนนะคะ”นานะพูดอย่างสุภาพ ส่วนมิกิก็…..

 

“แล้วมิกิจังล่ะ?”มายุพูดพลางส่งยิ้มให้มิกิที่ดูยังเขินอยู่

 

“ไม่ต้องเกรงใจนะ”มายุพูดจบก็ลูบหัวมิกิเบาๆจนมิกิหน้าแดงก่ำ

 

“ถ้า….มายุจังว่างั้น ก็ได้ค่ะ”มิกิพูดจบมายุก็คว้ามือมิกิไปกุมแล้วพาเข้าบ้านทำเอาสองคนบวกผีหนึ่งตนที่แอบมองเริ่มไม่พอใจขึ้นมา

 

“มิกิขี้โกงอะ”มาโกะพูดออกมาก่อนจะรีบเข้าบ้านพร้อมถอดร้องเท้าแล้ววิ่งไปกุมมือมายุที่ว่างอีกข้าง นานะพูดพลางเดินตามมาโกะไปแล้วพูดด้วยน้ำเสียงประชดเบาๆด้านข้าง….ทำให้มายุได้เรียนรู้ว่าเด็กม.ต้นก็ประชดเป็นด้วย

 

“มายุซังตามใจมิกิมากไปแล้วนะคะ”

 

แต่เสียงที่มายุได้ยินแล้วแอบยิ้มขึ้นมาคงไม่พ้นเสียงเจ้าผีขี้หึงที่ตอนนี้เริ่มโวยวายขึ้นมาใหม่

 

“พวกเธอสามคนนั่นแหละมายุ่งอะไรกับแฟนชั้น!!”

 

.

.

.

.

.

.

 

ติ๊ง ต่อง~

 

เสียงออดบ้านวาตานาเบะที่ดังขึ้นเป็นครั้งที่สองของวันทำให้เจ้าของบ้านต้องรีบลุกจากการนั่งเล่นที่โซฟายาวไปเปิดประตูรับแขก ความจริงยูกิและมายุน่าจะได้มีเวลาหวานกันถ้าเจ้าเด็กสามคนในบ้านไม่มาขอมายุนั่งเล่นเกมคอนโซนอยู่ในห้องรับแขกต่อไม่ยอมกลับบ้าน ส่วนยูกิตอนนี้ก็ขอตัวไปหลับ(?)โดยให้เหตุผลว่า…..

 

“ถ้าไม่ได้สวีตกับมายุชั้นขอไปนอนดีกว่า”ยูกิบ่นด้วยน้ำเสียงงอนเล็กน้อยแต่เจ้าของบ้านก็ไม่คิดจะง้อเจ้าผีเอาแต่ใจหรอกนะ

 

กลับมาที่มายุที่ตอนนี้ไปเปิดประตูบ้านก็ถึงกับอึ้งกับแขกที่มาหาเธอ สาวสวยหุ่นดีในชุดเรียบร้อยดูไม่มีพิษมีภัยแต่อาจจะเป็นพวกสิบแปดมงกุฎหรือคนบ้าก็ได้เพราะไอ้เจ้าเด็กข้างๆนั่น…..

 

“เจ้าคือวาตานาเบะ มายุใช่ไหม!?”เสียงเด็กน้อยตรงหน้ามายุดังขึ้นพร้อมชี้หน้าอย่างหาเรื่อง

 

มายุมองอีกคนที่น่าจะอายุน้อยกว่าเธอซักสองถึงสามปีด้วยสายตาไม่ไว้วางใจก่อนะตอบกลับ

 

“เธอเป็นใครกัน”มายุถามด้วยน้ำเสียงกังวลเล็กน้อย เธอน่าจะส่องตาแมวก่อนจะเปิดประตูรับแขก แล้วตอนนี้จะปิดประตูเลยได้ไหมนะ

 

“อ๋อ ชั้นน่ะหรอ ชั้นคือ….”เด็กน้อยยืดอกอันน้อยนิด(?)พร้อมส่งเสียงอย่างภูมิใจขึ้นมาและเตรียมแนะนำตัว ในระหว่างที่มายุกำลังสับสนกับความคิดตัวเองว่าควรทำยังไงต่อก็มีเสียงร้องของเด็กบ้านี่ดังขึ้นมา

 

ป๊อก!

 

“โอ้ย ชั้นเจ็บนะเรนะจัง!”

 

เด็กน้อยร้องเสียงหลงทันทีที่ผู้หญิงที่ดูมีอายุมากกว่าเขกกะโหลกเธอที่หัวทีหนึ่ง

 

“เลิกบ้าได้แล้วน่ะจูรินะ”สาวสวยพูดก่อนจะถอนหายใจ แล้วมองมาที่มายุที่กำลังสับสนอยู่

 

“ขอโทษด้วยค่ะ ที่เสียมารยาท”สาวสวยพูดต่อก่อนจะถอดแว่นออกเพื่อความสุภาพ

 

“ชั้นชื่อมัตสึอิ เรนะ ส่วนนี่น้องสาวของชั้น มัตสึอิ จูรินะ ชั้นเป็น….”สาวสวยเว้นช่วงก่อนจะมองมาที่มายุอีกครั้งแล้วพูดต่อ

 

“คนที่พ่อเธอจ้างมาให้ดูแลคนใหม่ค่ะ”

.

.

.

.
.

 

มายุพาเรนะเดินเข้ามาในห้องรับแขกโดยเด็กน้อยสามคนที่เลิกเล่นเกมมาคอยนั่งเกาะแกะมายุอยู่ข้างๆ ส่วนแขกคนใหม่ของเธอก็มีเด็กน้อยที่ส่งสายตาไม่เป็นมิตรให้เธอตั้งแต่ต้นเกาะแขนอยู่เช่นกัน ตอนแรกเรนะนึกว่าเด็กน้อยสามคนนั้นเป็นคนที่เธอต้องมาดูแลด้วยแต่มายุก็อธิบายให้ฟังจนเรนะเข้าใจดีก่อนจะมาเริ่มพูดคุยถึงธุระสำคัญกัน
 

“จากประวัติของคุณดูแล้วใช้ได้เลย ความจริงหนูไม่ต้องดูด้วยซ้ำเพราะพ่อก็ได้รับรองมาแล้ว”มายุพูดพลางวางกระดาษที่เป็นประวัติของเรนะ เท่าที่อ่านได้ความว่าเป็นเด็กม.ปลายเพิ่งเรียนจบที่กำลังจะเรียนต่อในมหาวิทยาลัยใกล้ๆโรงเรียนเดียวกับเธอ คงไม่ได้ทำงานเต็มเวลาและได้ที่พักฟรีทำให้ค่าแรงน้อยกว่าพวกป้าๆที่มาดูแลเธอคนก่อนๆ แต่แค่นี้มายุก็พอใจแล้วล่ะ

 

“ถ้างั้น….”เรนะพูดขึ้นมาเชิงถามคนตรงหน้าเบาๆ ส่วนมายุก็ยิ้มกว้างก่อนจะพูดต่อ

 

“ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักและขอฝากตัวด้วยนะคะ มัตสึอิซัง”มายุพูดจบเรนะก็ยิ้มขึ้นมาก่อนจะพูดต่อเพื่อเพิ่มความสนิทสนมกับคนตรงหน้า

 

“เรียกเรนะดีกว่า คือแบบว่า……ไม่ค่อยชิน”

 

“ค่ะ เรนะซัง แล้ว….”มายุตอบรับเบาๆก่อนจะพูดต่อเชิงถามพร้อมหันไปมองเด็กน้อยที่ยังคงเกาะแขนพี่สาวแน่น

 

“เรื่องจูรินะไม่ต้องห่วงค่ะ พอดีจูรินะเป็นห่วงชั้นก็เลยขอตามมาด้วย…แต่พรุ่งนี้ชั้นก็จะไปส่งจูรินะกลับ….”เรนะพูดจบมายุก็เห็นเด็กน้อยอ้าปากเตรียมจะพูดอะไรกับพี่สาว แต่ไม่พูดออกไปก่อนจะก้มลงพร้อมกับสายตาของเด็กน้อยที่เศร้าลง

 

“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องรีบหรอก”มายุตอบกลับพร้อมมองจูรินะด้วยความรู้สึกสงสารเล็กน้อย ส่วนจูรินะเมื่อได้ยินดังนั้นก็เริ่มยิ้มขึ้นมาจนมายุเผลอยิ้มตาม

 

“จูรินะจังถ้าไม่รังเกียจ อยากย้ายโรงเรียนมาเรียนที่โตเกียวไหม?”มายุถามจูรินะต่อส่วนจูรินะที่ได้ยินถึงกับตาโตขึ้นมาทันทีก่อนจะร้องเสียงหลงด้วยความตกใจปนกับดีใจ

 

“เห?”จูรินะร้องออกมาก่อนจะลุกพรวดไปหามายุราวกับว่าไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกันมาก่อน จูรินะรีบวิ่งไปหามายุแล้วจับมือมายุขึ้นมากุมท่างกลางสายตาไม่พอใจของเด็กน้อยสามคนแต่จูรินะที่ยังตาวาวอยู่ด้วยความดีใจดูเหมือนจะไม่ทันรู้สึกอะไร

 

“จะ-จริงหรอ ได้หรอคะ”จูรินะพูดจบมายุก็ยิ้มขึ้นมาแล้วพูดต่อ

 

“ได้ซิ ถ้าเรนะซังอนุญาตแล้วก็จูรินะอยากเรียน”สิ้นเสียงมายุ จูรินะก็หันกลับไปหาพี่สาวพร้อมส่งสายตาอ้อนวอนจนเรนะสะดุ้งเฮือกแล้วค่อยๆกัดฟันพูดต่อ

 

“เออ….คือก็ได้แหละค่ะ แต่เรื่องที่พัก”

 

“ก็พักที่นี่ก็ได้นิคะ ห้องว่างเยอะแยะไปหมดเลย”มายุพูดออกมาก่อนจะส่งยิ้มให้จูรินะแล้วพูดต่อ

 

“อีกอย่างชั้นจะได้มีเพื่อนเพิ่มอีกคนด้วย”มายุพูดจบ จูรินะก็ยิ้มดีใจแล้วของคุณมายุทันที

 

“ขอบคุณค่ะวาตานาเบะซัง”

 

“เรียกมายุเถอะ ไหนๆก็อยู่บ้านเดียวกันแล้ว”มายุยิ้มก่อนจะลุกขึ้นยืนส่วนจูรินะก็ยิ้มกว้างด้วยความดีใจแล้วเรียกมายุออกมาด้วยน้ำเสียงร่าเริง

 

“ค่ะ มายุซัง”สิ้นเสียงจูรินะ จูรินะก็ทำสิ่งที่ทำให้บ้านนี้แทบจะกลายเป็นไฟก็เพราะว่าเธอ……

 

.

.
.

.

.

.

.

 

 “ฮ้าว ง่วงจังเลย”เสียงผีสาวพูดออกมาเบาๆด้วยท่าทางงัวเงีย นี่เธออุส่าว่างอนหนีมายุไปแกล้งนอนแล้วมายุจะไปง้อเธอ แต่เปล่าเลย เด็กนี่ไม่คิดจะง้อเธอจนยูกิเผลอหลับไปจริงๆ

 

“เอ เสียงดังหรือว่าจะคนดูแลที่มายุบอก…แอบดูดีกว่า”ยูกิพึงพำออกมาเบาๆก่อนจะโฉบ(?)ลอยไปตามเสียงแต่ภาพตรงหน้ามัน……

 

.

.
.

.

.

.

.

 

“กะ-กอด!”ยูกิร้องออกมาด้วยความตกใจ

 

“เอ้ย!”เสียงมาโกะที่ยืนดูร้องออกมาก่อนจะรีบไปแยกจูรินะกับมายุออกจากกัน ส่วนนานะก็ทำตีหน้าขรึมแต่กำหมัดแน่น ทางด้านมิกิก็ก้มหน้าราวกับจะร้องไห้ออกมา มาโกะกำลังยืนต่อว่าจูรินะ ส่วนจูรินะก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆให้อีกคนแต่ว่าสิ่งที่เธอเริ่มสนใจขึ้นมาคงจะเป็น…..

 

“มายุ!”ยูกิตะโกนเรียกมายุเสียงดุๆ แต่มายุทำเป็นแกล้งไม่สนใจเธอเพราะจะให้สนใจได้ไง เดี๋ยวคนอื่นได้หาว่าเธอบ้าพอดี

 

“อะไร แกล้งเมินหรอเดี๋ยวเถอะ!”ยูกิโวยวายต่อก่อนจะไปใกล้ๆมายุ แต่สิ่งที่ทำให้ทั้งมายุและยูกิตกใจคงจะเป็น……

 

.

.
.

.

.

.

.

 

“มายุซัง คนนั้นใครหรอคะ?”เสียงใสๆของจูรินะพูดขึ้นมาพลางชี้ไปทางยูกิ ทำเอายูกิสะดุ้งเฮือก ส่วนมายุก็หน้าถอดสีทันที  ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะทุกคนหันไปมองจูรินะเป็นตาเดียวคงจะมีแต่มายุที่หันหน้าหนีไม่กล้าสบสายตา

 

‘เห็นด้วยหรอ?’ยูกิคิดในใจก่อนจะหันมองมายุว่าจะแก้สถานการณ์ยังไงต่อไป

 

“คนไหนน่ะจูจัง อย่าล้อเล่นน่ะ”มายุพูดก่อนจะหัวเราะออกมากลบเกลื่อน แต่เด็กน้อยยังคงชี้ที่ยูกิเหมือนเดิมแล้วพูดต่อ

 

“คนนั้นไงที่ใส่ชุดสีขาว…”

 

สิ้นเสียงจูรินะทุกคนตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะก่อนที่…..

 

.

.
.

.

.

.

.

 

“แง…..”นิชิโนะ มิกิ สาวน้อยขี้แยร้องไห้ออกมาทันทีจนมายุต้อรีบไปกอดปลอบ ส่วนนานะก็นั่งมองด้วยสีหน้าเรียบๆตามเคย ผิดจากมาโกะที่อ้าปากคล้ายจะพูดอะไรบาอย่างก่อนจะหุบปากลงแล้วเดินไปลูบหัวมิกิเบาๆ มิกิยังคงร้องไห้ก่อนจะสะอื้นต่อ

 

“คะ-เค้ากลัวอะ มายุซัง”มิกิพูดออกมาก่อนจะร้องไห้หนักขึ้น จนผู้อาวุโสที่สุดในตอนนี้ถอนหายใจเบาๆ จูรินะมองมิกิอย่างไม่เข้าใจ ว่าทำไมแค่เธอพูดแบบนั้นถึงต้องกลัวด้วยนะแต่ไม่ทันคิดอะไรต่อ…..

 

ป๊อง!

 

“โอ้ย!”เสียงน้องสาวที่โดนเขกมะเหงกร้องออกมาจนเสียงหลง เรนะมองจูรินะด้วยสายตาดุๆก่อนจะหันไปหาคนอื่นๆที่เริ่มสนใจเธอสองคนอาจจะเพราะเสียงร้องของจูรินะเมื่อครู่

 

“ขอโทษเค้าซะซิ จูรินะไปแกล้งคนอื่นเค้าแบบนั้นไม่ดีนะ”เรนะพูดเชิงดูจูรินะส่วนจูรินะก็หน้างอก่อนจะรีบพูดต่อ

 

“เค้าไม่ได้แกล้งนะ เค้าเห็นจริงๆก็คนที่ยืน…..”ไม่ทันที่จูรินะจะพูดจบดีจูรินะก็หยุดไปเพราะเมื่อเธอหันไปมองตรงที่เคยมีคนยืนอยู่มัน…

 

หายไปแล้วนิ!

 

“เออ….”จูรินะร้องออกมาเบาๆก่อนจะหันไปสบตากับเรนะที่มองเธอย่างตำหนิ

 

“ก็ได้เค้าขอโทษนะมิกิจัง เค้าคงตาฝาดไปเอง”จูรินะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนักก็เพราะเธอมั่นใจหนิว่าไม่ได้ตาฝาด

 

แต่ว่าบทสรุปของเรื่องนี้ก็กลายเป็นว่าจูรินะตาฝากไป ส่วนเด็กน้อยสามคนก็อ้อนขอให้มายุไปส่งที่บ้านเพราะกลัวขึ้นมาซึ่งไม่รู้กลัวจริงหรือแกล้งกลัวกันแน่ก็ไม่รู้ เรื่องนี้คงมีแค่มายุที่รู้ว่าจูรินะไม่ได้ตาฝาด แต่ที่เธอสงสัยคือ…..

 

.

.
.

.

.

.

.

 

ทำไมเด็กคนนั้นถึงเห็นยูกิได้นะ

 

___________________________________________________________________________

 

Talk : ตอนที่ 2 จบแล้วยาวกว่าเดิมนิดหน่อย 555

หวังว่าคงจะฟินกัน จบเรื่องเจ้าจูอาจจะเอ๋อไปเพราะโดดเขกหัวบ่อยเกิ้น 5555

ขอโทษที่มาช้ามากทั้งๆที่บอกว่าจะลงให้ไว แต่แหม่ สิ่งยั่วยุข้าน้อยเยอะเกินไป

ตอนนี้วันหยุดเพิ่มอีกแล้วครับ แหม่…เรียนมหาลัยนี่ลำบากจัง

ฟิคนี้พยายามจะให้ตัวละครอายุสมจริงที่สุดด้วยการที่จูจังเด็กกว่ามายุ แต่ยูกิเป็นผีช่างไป 555

ส่วนมาโกะ นานะ มิกิ …..อวยเองเบาๆอย่าว่ากันนะคะ 5555

ปล.ความจริงเด็กรุ่นนี้ถ้าจำไม่ผิดไม่ได้กริ๊ดมายุ แต่กริ๊ดคาเรนกับพารุมากกว่าล่ะมั้ง ถ้าข้าน้อยจำไม่ผิดนะ แต่ฟิคนี้ไม่มีพารุกับคาเรนให้มาเป็นฮาเร็มมายุแทนแล้วกัน  ^_^

สุดท้ายของคุณที่ติดตามเช่นเคยค่ะ

ตอบคอมเม้นนะคะ
ปล.ไม่นึกว่าจะมีคนอยากอ่านเยอะขนาดนี้ซึ้งเบาๆ

รอติดตามอยู่นะคะะะ><
(จริงๆเราตามไปอ่านที่เด็กดีก่อนแล้ว555)

เห็นที่ท่านเม้นแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณมว๊ากก ><
ดีใจสุดๆที่มีคนติดตาม

รอติดตามค่าาา ><

ขอบคุณค่ะ จะพยายามรีบแต่งนะคะ

รอติดตามนะคะ

ผียูกินี้ หื่นได้เสมอต้นเสมอปลายจริง ฮ่าๆๆ

5555 ผีกิรินก็งี้แหละค่ะ จับกดมายุตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว ก็สวมบทบาทหื่นไปซะให้ตลอดเลน

ว๊ากกกกกก ภาคต่อๆ *0*
มายูกินี่ยังคงคอนเซปน่ารักแบบแอบหื่นอยู่นะแต่ทำไมถึงรู้สึกว่ามันต้องมีเรื่องเส้าเกิดขึ้นทีหลังยังไงก็ไม่รู้แหะ…
ส่วนคู่เบิ้ลอิมาแนวพี่น้องอีกแว้ววววว ดูท่าคนน้องจะรักพี่มากนะ แต่คนพี่นี่ยังไงหว่า ก็รอดูกันต่อไป
แต่ที่แน่ๆบ้านนี้มันต้องวุ่นวายแหงๆดูจากรูปการณ์แล้ว…
น่าสนุกดีค่ะๆ เอาใจช่วยนะคะเราจะรอตอนต่อไปน้าาาา~

แอบมีดราม่าเบาๆคลุกเค้าค่ะ 555 แต่ไม่ปวดตับมากจนตับพังมั้ง
ยังไม่ได้เขียนประเภทฟิคเลยโทษทีนะ เราลืมไปหน่อย แต่บ้านนี้คงวุ่นวายจริงๆค่ะ 555
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

เรนะต้องมาเป็นผู้ดูแลมายุเนี่ยนะ??
จะไปรอดไหมเนี่ย

เรนะน่าจะรอดแต่มีเจ้าจูไปป่วนด้วยคงยุ่งแน่ๆค่ะ 555

ผู้ดูแลคนใหม่ *0*
เหมือนน้องจูจะมาตีกับผีโดยเฉพาะเลย

นั่งซิเจ้าจูตั้งใจมาตบผีเลย…ผิด
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ^^

รอๆๆ

อุ๊ต๊ะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ
ไม่ใช่อะไร แต่อ่านแล้วคิดได้อย่างเดียวว่า…นี่มันฮาเร็มมายุ!!!!5555
โธ่กิรินผู้น่าสงสาร ต้องเข้าใจอะนะว่าย้วยเขาน่ารัก5555
เฮ้ยประเด็นเริ่มเกิดเมื่อจูมองเห็นกิริน จะยังไงต่อรอติดตามค๊า <3

นี้มันฮาเร็มมายุชัดๆ ! กิรินน่าสงสาร 555

 

รอติดตามนะคะ

นะ..นี้มันฮาเร็มไอ้ย้วยชัดๆเลย!!

โถ่ๆๆกิรินผู้น่าสงสาร มีแฟนเจ้าชู้ก้เงี้ยแหละ 5555

เอ๊ะทำไมจูถึงเห้นกิรินได้ รอติดตามค๊า

 

ขอบคุณมากค๊าไรท์เตอร์

ตอนที่เจ้าจูร้อง “เห!!” นี่นึกหน้าออกเลย

หน้าตาระริกระรี้ หูตั้ง หางกระดิก //เอาสวิงคลอบ

หลังจากนี้น้องจูคง
สติเลอะเลือน เอ๋อๆ 555

ว๊ากกกกกกก ตอนสองมาอย่างรวดเร็ว *0*
คือตอนนี้น่าสงสารเจ้าจูที่สุดและ ไม่ได้ทำอะไรผิดแท้ๆแต่โดนเขกหัวหลายรอบจนกลัวว่าน้องมันจะเอ๋อจริงๆนะคะเนียะ 55555
ส่วนยูกินี่ก็ขี้หึงสุดๆ! มีแฟนน่ารักก็ลำบากแบบนี้อะนะ ฮรี่ๆๆๆ~
ว่าแต่ทำไมเจ้าจูถึงมองเห็นยูกิรินล่ะ หรือเด็กนี่จะมีเซ๊นส์!
ชักสนุกขึ้นเรื่อยๆแหะ รีบมาต่อนะคะ เด่วกางเต๊นท์รอไรท์เตอร์อัพโลด! *-*
ปล. ช่วงนี้ไรท์เตอร์หยุดสินะ ดีจัง… แบบนี้มีเวลาปั่นฟิคและสิ! ฮรี่ๆๆๆๆ ไม่ต้องรีบนะคะ **ลับมีดรอ** ^[+++++]^
ปล2. เราขู่ขำๆนะอย่าซีเรียส 5555555

The Tales of Ghost

 

ตอนที่ 3 : ไม่ได้โกรธก็แค่…

 

มืดจังแฮะ

 

มองอะไรไม่เห็นเลย

 

นี่เรากำลังฝันใช่ไหม?

 

เสียงคิดในใจพลางมองรอบๆ เธอจำได้ว่าเธอเข้านอนตามปกติและหลังจากนั้นเธอก็มาอยู่ในสถานที่นี้ได้อย่างไรไม่รู้ มองดูน่ากลัวแปลกๆ รอบตัวเธอมีแต่ความมืด

 

ทั้งพื้นที่ยืนอยู่…..

 

ทั้งจุดมุ่งหมายด้านหน้า……..

 

ทั้งหมดมีแต่สีดำ

 

เด็กสาวเดินไปตามทางโดยไม่รู้จุดหมายแต่ไม่นาน ก็ต้องหรี่ตาลงเมื่อมีแสงสว่างขึ้นมา

 

‘แสบตาจัง’

 

เด็กสาวคิดในใจก่อนที่ทุกสิ่งจะเริ่มสว่างขึ้นมา รอบตัวเธอเปลี่ยนเป็นห้องโถงใหญ่คล้ายพระราชวังและเธอกำลังยืนอยู่ตรงหน้าใครบางคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ แต่แสงสว่างที่ส่องทำให้เธอมองไม่เห็นหน้าตาของอีกฝ่าย

 

“ขอโทษที่ข้าต้องมาเข้าฝันเจ้านะ เด็กน้อย….”คนนั้นพูดกับเธอขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทรงอำนาจแต่แฝงด้วยความอ่อนโยน

 

“ท่านเป็นใครกัน?”เด็กสาวถามกลับไป ส่วนอีกฝ่ายเหมือนจะนิ่งไปซักพักและทำท่าทางคล้ายกับว่าสิ่งที่เธอถามน่าขบขันมาก

 

“ข้าหรอ….เมื่อถึงเวลาเจ้าจะรู้เอง แต่ข้ามาที่นี่เพื่อเตือนเจ้า”คนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้พูดตอบกลับก่อนจะสูดลมหายใจและพูดต่อ

 

“ข้ามีเวลาไม่มากขอพูดสั้นๆนะ ข้าเองไม่อาจจะบอกเจ้าโดยตรงได้เพราะมันไม่ใช่หน้าที่และมันผิดต่อกฎแต่….จงระวังสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น จงค้นหาความจริงให้เร็วที่สุดก่อนที่เจ้าจะสูญเสีย…..สิ่งสำคัญของเจ้าไปตลอดกาล

 

สิ้นเสียงของคนนั้นเด็กสาวก็ยังคงสับสนอยู่จึงถามกลับทันที

 

“ท่านหมายความว่ายังไงกัน”เด็กสาวถามจบคนคนนั้นกลับทำท่าราวกับยิ้มมุมปากและพูดเชิงบอกลาเธอแทน

 

“ข้าไปล่ะ”สิ้นเสียงภาพตรงหน้าเด็กสาวค่อยๆถอยออกห่างไป เด็กสาวตกใจจนต้องรีบวิ่งตามไป

 

“เดี๋ยวก่อน!”เด็กสาวพูดพลางออกวิ่งแต่เหมือนจะไม่ทันแล้ว

 

“อย่าเพิ่ง…..”เด็กสาวพูดพร้อมวิ่งต่อไปแต่ภาพที่เธอเห็นค่อยๆมืดลงเรื่อยๆ…….

 

ก่อนที่ทุกอย่างจะกลายเป็นสีดำอีกครั้ง

 

แต่ว่าทำไมตอนนี้เธอกลับรู้สึกถึงความนุ่มที่…….

 

.

.

.

.
.

.

.

.

 

ริมฝีปากล่ะ!

 

 

‘เอ้ย!’เด็กสาวร้องออกในใจมาทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้นมาและพบว่ามีสาวสวยที่ไม่ใช่มนุษย์(?)กำลังจูบเธอยู่!

 

“ยัย…ผีหื่น!”

 

“โอ้ย!”

 

เด็กสาวตะโกนออกไปพร้อมถีบเจ้าผีหื่นที่ชอบมาลวนลามเธอตอนเช้าจนเจ้าผีกลิ้งตกเตียงไปพร้อมกับเสียงร้องของเจ้าผีเหมือนทุกวัน ความจริงเธออดสงสัยไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมถึงถีบยัยผีนี่ได้ แต่นานเข้าก็เริ่มชินจนขี้เกียจหาคำตอบ

 

“โธ่ ทำไมกันชั้นถึงได้โดนถีบซะตลอดเวลานะ”เสียงโอดครวญของคาชิวากิ ยูกิเจ้าผีหื่นพูดขึ้นมาพลางลูบเอวตัวเองที่เกือบเคล็ด(?)

 

“ก็เพราะเธอชอบลวนลามชั้นน่ะ”วาตานาเบะ มายุ สาวน้อยที่ทำร้ายร่างกายผีสาวพูดพลางหันไปจัดที่นอนพร้อมคิดในใจ

 

‘ฝันนั่นหมายถึงอะไรกันแล้วสิ่งสำคัญของเรา…..’

 

มายุเว้นช่วงก่อนจะเหลือบมองเจ้าผีที่กำลังงอนลอยไปมุมห้องทำอะไรซักอย่าง

 

‘ยูกิงั้นหรอ?’

 

แต่เพียงแค่ไม่นานเท่านั้นมายุก็สายหัวกับตัวเองเบาๆพร้อมคิดว่ามันคงไม่มีอะไรมากไปกว่าความฝันหรอกนะ

 

.

.

.

.
.

.

.

.

 

“นี่มายุ ชั้นลอยลงไปข้างล่างได้ไหม?”เสียงงอแงของผีไม่รู้จักโตดังขึ้นพร้อมเจ้าผีที่ลอยวนไปมารอบตัวมายุที่เพิ่งกลับเข้าห้องมาจัดทรงผมอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ จนมายุแอบคิ้วกระตุกด้วยอารมณ์ที่บอกไม่ถูก

 

“ไม่ได้”มายุตอบกลับด้วยน้ำเสียงดุๆส่วนยูกิก็คิ้วขมวดพร้อมทำสีหน้าไม่พอใจขึ้นมาทันที

 

“ทำไมอะ?”ยูกิพูดจบมายุก็รีบจ้องหน้ายูกิทำเอาคนถูกจ้องแอบหน้าแดงขึ้นมา เพราะมายุยื่นหน้ามาใกล้เธอมานิ

 

“ทำไม?……”มายุทวนคำถามของยูกิก่อนจะคิ้วขมวดอีกครั้งแล้วจึงพูดต่อแต่ทำเอาผีสาวสะดุ้งตกใจ

 

“นี่ยูกิไม่รู้หรอไงฮะ!”

 

ยูกิสะดุ้งก่อนจะถอยออกไปจากคนตัวเล็กสองสามฟุต ก่อนที่มายุจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ

 

“ถ้าจูรินะจังเห็นเธอเข้าเดี๋ยวก็มีเรื่องอีกหรอก”มายุพูดจบยูกิก็บ่นออกมาทันที

 

“โธ่ มันเบื่อหนิ”

 

มัตสึอิ จูรินะไอ้เด็กบ้านนอกที่มายุพูดถึงคือเด็กที่หนีตามพี่สาวเข้าเมืองแล้วเกิดทำหน้าหมาหงอยจาเรียกร้องความสงสารจากมายุได้ ทำให้ได้มาอยู่ร่วมกันกับพวกเธอ ยูกินอกจากจะหมั่นไส้จูรินะแล้วยังรู้สึกเซงยิ่งกว่าที่เจ้าเด็กนั่นมีสัมผัสพิเศษสามารถมองเห็นวิญญาณแบบเธอได้จนมายุไม่ยอมให้เธอลงไปด้านล่าง เพราะกลัวว่าจะไม่โชคดีเหมือนเมื่อวานที่พอมิกิร้องไห้ยูกิก็ชิ่งหนีขึ้นชั้นสองทันก่อนที่จูรินะจะเห็นยูกิมากกว่านั้น

 

“ไม่รู้ล่ะ วันนี้ชั้นสัญญากับพวกเด็กๆว่าจะไปเที่ยวด้วย”มายุพูดพลางจัดเสื้อผ้าและหน้าม้าตัวเองหน้ากระจกต่อ(ถึงจะจัดมาครึ่งชั่วโมงแล้วก็เถอะ)

 

“อะไรกันงั้นชั้น…..”ยูกิโวยวายทันทีที่มายุพูดว่าจะไปกับพวกเด็กๆ นั่นก็หมายความว่าถ้าเธอยอมให้มายุไปก็เท่ากับยอมให้แฟนตัวเองไปเดทกับคนอื่นน่ะซิ!

 

ยูกิไม่ทันพูดจบมายุก็หันกลับมาพร้อมส่งสายตาดุๆและพูดขัดขึ้น

 

“หยุดเลย”

 

“เธอต้องอยู่ที่บ้าน”มายุพูดจบยูกิก็อ้าปากค้างแล้วเตรียมตัวเถียงต่อไป

 

“แต่….”ไม่ทันที่ยูกิจะพูดจบมายุก็ตัดบทพร้อมเตรียมเดินออกจากห้องทันที

 

“ไม่มีแต่เธอต้องอยู่บ้าน”มายุพูดจบก็เดินออกไปทำเอาเจ้าผีอยากกริ๊ดออกมาดังๆถ้าไม่ติดว่ากลัวคนอื่นนอกจากมายุจะได้ยินจนคิดว่าบ้านนี้มีผีสิง(จริงๆก็มีผีสิงแหละ)

 

“ชิ หงุดหงิดๆๆ แล้วชั้นจะไปไหนดีเนี่ย”ยูกิบ่นออกมาด้วยท่าทางอารมณ์เสียพลางขยี้ผมตัวเอง แต่แค่ไม่นานเธอก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้

 

“จะว่าไป…..ถือโอกาสไปจัดการเรื่องนั้นดีกว่า”ยูกิพูดต่อก่อนจะพูดประโยคสุดท้ายด้วยน้ำเสียงที่ดูเรียบไปกว่าทุกครั้ง

 

.

.

.

.
.

.

.

.

เจ้าของบ้านวาตานาเบะตัวน้อยออกไปเที่ยวเรียบร้อย ส่วนสองพี่น้องมัตสึอิก็คอยทำหน้าที่เฝ้าบ้านให้ หลายคนคงแปลกใจที่มายุมัวแต่เที่ยวเล่นแต่ความจริงแล้วนี่มันยังเป็นช่วงปิดเทอมเพราะฉะนั้น ทั้งสองสาวมัธยมกับหนึ่งสาวที่อยู่มหาวิทยาลัยปี 1 จึงยังคงนั่งชิวอยู่บ้านได้

 

สำหรับยูกิเจ้าผีน้อยภูติประจำตัวมายุ(?)ก็คงฟินกับวันหยุดเช่นกัน ถ้าหากเธอไม่ต้องคอยแอบเด็กเห็นผีนั่น และตอนนี้เธอก็กำลัง…..

 

‘ค่อยๆย่องๆ…..อืม’

 

ยูกิคิดในใจพลางลอยช้าๆราวกับว่าถ้าเธอลอยเร็วจะทำให้เสียงดังเหมือนกับคนเวลาวิ่ง แถมยูกิยังหลบตากำแพงเพื่อที่จะหลบเจ้าเด็กบ้านนอกคนนั้น แต่ว่าไม่ทันที่เธอจะถึงประตู…..

.

.

.

.
.

.

.

.

 

“เธอตรงนั้นน่ะ”

 

เสียงเรียกของเด็กน้อยที่ดูน่าหมั่นไส้ทำให้ยูกินิ่งไปทันที ก่อนจะพยายามทำเป็นไม่ได้ยินเสียง

 

“ใช่จริงๆด้วย เธอมีตัวตนอยู่จริงๆซินะ”เจ้าเด็กน้อย มัตสึอิ จูรินะเดินมาดักหน้าเธอและพูดพร้อมส่งยิ้มให้จนยูกิเผลอเห็นถึงความน่ารักของอีกฝ่าย

 

“นี่ๆ ทำไมชั้นคุยด้วยถึงไม่ยอมตอบล่ะ”เด็กน้อยพูดต่อพลางทำคิ้วขมวดด้วยความไม่พอใจส่วนยูกิก็ทำเป็นไม่ได้ยินอีกคนและคิดในใจว่า….

 

‘น่ารำคาญ…ชะมัดเลย’

 

“จูจังคุยกับเพื่อนในจิตนากาลหรอ?”เสียงอีกคนที่ดูโตกว่าดังขึ้นจากด้านหลังยูกิ ก่อนที่ยูกิจะหันไปมองตาม

 

‘มัตสึอิ เรนะ!?’ยูกิคิดในใจพลางมองคนที่สวมผ้ากันเปื้อนสีชมพูพร้อมเอาผ้าเช็ดมือไปมาคาดว่าน่าจะเพิ่งทำอาหารและล้างเครื่องมือเสร็จแต่ว่าที่น่าสนใจกว่าน่าจะเป็น….

 

“เรนะจัง!”เด็กน้อยเรียกชื่อผู้มาใหม่พร้อมวิ่งเข้าไปกอดอีกฝ่ายด้วยท่าทางดีใจจนยูกิเผลอยิ้มกับภาพตรงหน้า แล้วแอบจินตนากาล ถ้าหากเธอกับมายุได้ทำอะไรแบบนี้บ้างคงจะดีไม่น้อย แต่ยูกิได้พักหายใจไม่ทันไรเจ้าเด็กนี่ก็พูดขึ้นอีกพร้อมชี้มาทางเธอจนสะดุ้งเฮือก

 

“นี่เรนะจัง คนนี้ไม่ยอมคุยกับเค้าล่ะ”จูรินะพูดพลางชี้มาทางยูกิคล้ายกับฟ้องพี่สาว ส่วนเรนะก็หรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วถอนหายใจ

 

“งั้นหรอ เขาคงอายมั้ง ถ้าเป็นเพื่อนใหม่ทำไมไม่ลองแนะนำตัวก่อนล่ะ”เรนะพูดจบจูรินะก็ยิ้มกว้างและตอบเรนะทันที

 

“จริงด้วย”จูรินะพูดจบก็ยิ้มให้เรนะต่อ จนเรนะยิ้มตอบและลูบหัวจูรินะเบาๆก่อนจะขอตัวไปจัดโต๊ะอาหารต่อ เจ้าเด็กน้อยวิ่งมาหายูกิอีกครั้งจนยูกิแอบเหงื่อตกเล็กน้อย

 

“เราชื่อมัตสึอิ จูรินะ นั่นพี่สาวเรามัตสึอิ เรนะ”จูรินะพูดพลางส่งยิ้มให้ยูกิก่อนที่จะยื่นมือทั้งสองข้างมาให้ยูกิ

 

“เธอชื่ออะไรหรอ เรามาเป็นเพื่อนกันนะ”จูรินะพูดต่อพร้องส่งยิ้มและทำตาเป็นประกายให้ยูกิจนยูกิเริ่มรู้สึกแปลกๆ

 

‘ทำไมรู้สึกว่าแสบตาขึ้นมานะ อ๊า~แย่แล้ว’ยูกิร้องออกมาในใจแต่ไม่ยอมสนใจอีกฝ่ายอยู่ดี จนจูรินะเริ่มหุบยิ้มลงแล้วก็ลดมือลง

 

“ทำไมไม่ตอบล่ะ เธอพูดไม่ได้หรอ…”จูรินะพูดพร้องแววตาที่ดูเศร้าลงเล็กน้อยจนยูกิอดสงสารไม่ได้แต่ยังคงใจแข็งจนกระทั่งจูรินะเงยหน้ามาสบตากับเธอและพูดต่อ

 

“หรือว่าจะเกลียดเค้า….หรอ?”จูรินะพูดจบพร้อมเงยหน้าที่เห็นได้ชัดว่าน้ำตาเริ่มคลอขึ้นมาแล้ว จูรินะค่อยๆก้มหน้าลงก่อนจะเตรียมหันหลังเดินหนี

 

“เออ…คือว่า”ยูกิพูดออกมาเบาๆแต่นั่นก็เพียงพอสำหรับเด็กน้อยที่รีบหันกลับมาพร้อมรอยยิ้มทันที

 

“พะ-พูดแล้ว!”

 

จูรินะพูดออกมาก่อนจะทำให้ยูกิตกใจอีก เมื่อเธอกระโดดกอดยูกิ จนยูกิล้มลงไปโชคดีที่เธอใช้พลังรับอีกฝ่ายทันไม่งั้นเจ้าเด็กนี่คงได้ร้องไห้เพราะหน้าคว่ำกับพื้นแน่

 

“วะ-เหวอ”ยูกิร้องออกมาเบาๆแต่ยังคงให้เด็กน้อยกอดเธอ

 

นี่ชั้นโดนเด็กนี่หลอกหรือเปล่าเนี่ย’ยูกิคิดในใจ

 

“ดีใจจัง นึกว่าจะโดนเกลียดซะแล้ว”จูรินะพูดออกมาเบาๆด้วยใบหน้าที่มีความสุข จนยูกิเผลอยิ้มตาม

 

“คือว่าช่วยลุกไปก่อนได้ไหม…”ยูกิพูดออกมาเบาๆเรียกสติเด็กน้อยจนจูรินะสะดุ้งพร้อมหน้าแดงทันที

 

“ขะ-ขอโทษค่ะ”จูรินะรีบขอโทษออกมาพร้อมลุกขึ้นยืน

 

“ชั้นชื่อคาชิวากิ ยูกินะ แล้วก็ไม่ได้เกลียดเธอด้วยแค่แปลกใจ”ยูกิพูดแนะนำตัวทันทีที่ยืนขึ้นก่อนจะมองจูรินะที่ยังคงหน้าแดงพร้อมถามต่อ

 

“ทำไมเธอถึงมองเห็นชั้นได้ล่ะ”

 

แต่คำตอบนั้นกลับทำให้เธอแทบหน้าคว่ำอีกครั้ง

 

.

.

.

.
.

.

.

.

 

 

“ไม่ใช่ว่าทุกคนมองเห็นเธอหรอ?”จูรินะตอบกลับด้วยน้ำเสียงใสซื่อซะจนยูกิเหนื่อยใจขึ้นมา

 

‘เจ้าเด็กนี่ไม่รู้ตัวเลยหรอ?’ยูกิคิดในใจแต่จูรินะกลับเริ่มตีหน้าเครียดพร้อมบ่นออกมาเบาๆ

 

“ทำไมล่ะ ทั้งคุณปู่ทวด ทั้งลุงข้างบ้าน ทั้งทามาโกโกะจัง ทำไมทุกคนถึงบอกว่ามองไม่เห็น….แล้วทำไมชั้นถึงเห็นแค่คนเดียวล่ะ”จูรินะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสับสน ว่าแต่ชื่อทามาโกโกะนั่นมันชื่อตัวบ้าอะไรน่ะคงไม่ใช่คนนะยูกิคิดตาม แต่ก็ได้แต่ถอนหายใจและคิดในใจต่อ

 

‘ชั้นจะไปรู้ไหมเนี่ย’

 

‘แต่ว่านะ….’ยูกิคิดในใจต่อก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปลูบหัวเด็กน้อยจนตาปิดทันที

 

“อ๊ะ”จูรินะร้องออกมาก่อนจะเงยหน้ามองยูกิเมื่อยูกิเอามือออก

 

“ชั้นไม่รู้หรอกนะว่าทำไมเธอถึงเห็นพวกเราได้ แต่ว่ามันก็ไม่ได้แย่นิ”ยูกิพูดก่อนจะส่งยิ้มให้จูรินะแล้วจึงพูดต่อ

 

“พอเธอเห็นชั้นพวกเราเลยกลายเป็นเพื่อนกันได้ ยังไงล่ะ”สิ้นเสียงยูกิเจ้าเด็กอารมณ์แปรปรวนก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง

 

“อะ-อื้ม นั่นซินะ”จูรินะพูดจบก็ยิ้มกว้างออกมาพร้อมขอบคุณยูกิที่ปลอบเธอ

 

“ขอบคุณนะยูกิซัง”

 

“เรียกยูกิก็พอแล้ว ชั้นไม่ค่อยชินน่ะ”ยูกิพูดจบ จูรินะกอดยูกิอีกครั้งและพยักหน้าพร้อมตอบรับ

 

“ค่ะ ยูกิ”

 

จูรินะยิ้มกว้างจนยูกิเผลอดยิ้มตามพร้อมคิดในใจ…..

 

‘จะว่าไปแล้ว……เด็กบ้านี่ทำหน้าตาน่ารักไปแล้วหรือว่าตอนนี้บทของชั้นคือ……

.

.

.

.
.

.

.

.

การเปิดฮาเร็ม!?’

 

แต่ยูกิก็ได้เพียงแต่คิดเท่านั้นเพราะว่า….

 

“นี่ทำอะไรอยู่น่ะ”เสียงคนคุ้นเคยที่น้ำเสียงดูแปลกไปกว่าทุกครั้งทำเอายูกิหันไปตามเสียงและส่งยิ้มให้เหมือนทุกที

 

“มายุซัง!”จูรินะเรียกมายุแต่ยังคงไม่ปล่อยยูกิและพูดต่อ

 

“ชั้นคุยกับเพื่อนใหม่อยู่ค่ะ มายุซัง”จูรินะพูดจบก็หันไปทางยูกิแต่เหมือนจะนึกอะไรได้จึงรีบพูดต่อ

 

“แต่มายุซังคงไม่เห็นหรอกมั้งคะ ฮะๆ”จูรินะพูดจบก็ส่งยิ้มให้มายุ ส่วนมายุก็มองยูกิด้วยสีหน้าเรียบๆ

 

“ขอโทษด้วยนะมายุที่ขัดคำสั่งเธอ”ยูกิพูดพลางยิ้มอย่างรู้สึกผิดส่งไปให้มายุ

 

“เห มายุซังเห็นด้วยหรอคะ”จูกิระพูดด้วยสีหน้าสับสนเล็กน้อย

 

“ใช่ จูรินะปล่อยยูกิได้แล้วน่ะ”มายุพูดตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่นิ่งกว่าปกติจนจูรินะตกใจเล็กน้อยก่อนจะรีบทำตามคำสั่ง

 

“เอ๋ ค่ะ”จูรินะพูดจบมายุก็เรียกยูกิทันที

 

“ยูกิตามชั้นมา”

 

“แหะๆ ขอโทษนะ ไว้เราคุยกันใหม่นะจูจัง”ยูกิพูดออกมาเบาๆก่อนจะลอยตามมายุไปส่วนจูรินะก็ตะโกนไล่หลังบอกยูกิด้วยน้ำเสียร่าเริงจนยูกิอมยิ้มขึ้นมา

 

“ค่ะ ยูกิไว้มาเล่นด้วยกันอีกนะคะ”

 

.

.

.

.
.

.

.

.

ตั้งแต่มายุพายูกิขึ้นมาชั้นสอง มายุก็นิ่งเงียบไปนานกว่าสิบนาที ก่อนจะหันมาหายูกิและเริ่มเปิดประเด็น

“นี่ยูกิ”มายุพูดออกมาแค่นั้นยูกิก็รีบแก้ตัวทันที

 

“ชะ-ชั้นไม่ผิดนะ คือว่าชั้นแค่….”ยูกิพูดออกมาอย่างรวดเร็วแต่มายุก็ขัดขึ้นมา

 

“ช่างมันเถอะ…..ชั้นแค่จะบอกว่าคราวหน้าอย่าไปกอดอะไรกับคนอื่นแบบนั้นอีก”มายุพูดออกมาเบาๆแต่ใจความของประโยคมันทำเอายูกิร้องเสียงหลงแทบจะทันที

 

“เห?”ยูกิร้องออกมา

 

“ก็….”เหมือนมายุจะนึกว่ายูกิถามเธอตอบเธอจึงพูดเหตุผลออกมาด้วยน้ำเสียงเบาบางแต่มันชัดเจนซะจนยูกิอยากจะอัดเสียงไปฟังซักสิบรอบ

 

“แค่หึงนิดหน่อย”มายุพูดจบใบหน้ามายุก็ขึ้นสีแดงระเรื่อทำเอายูกิแทบลงไปดิ้นกับพื้น

 

‘มายุ~น่ารักไปแล้วนะ~’ยูกิคิดในใจ

 

“งั้นชั้นบอกจูจังได้ไหม….ว่าเราเป็นแฟนกัน”ยูกิพูดออกมาเบาๆแต่มายุที่ได้ยินกลับหน้าแดงขึ้นกว่าเดิมพร้อมเบือนหน้าหนี ส่วนยูกิที่เห็นดังนั้นก็ยิ้มกว้างพร้อมลอยเข้าไปหามายุคล้ายแกล้งอีกคน

 

“ได้ไหมมายุจัง”ยูกิพูดพร้อมจับคางมายุให้เงยหน้ามองเธอ มายุหน้าแดงขึ้นมาอีกก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียเขินอายเล็กน้อย

 

“ถ้ายูกิต้องการล่ะก็….ยังไงก็ได้”

 

“อะ-อื้ม งั้นคืนนี้ขอชั้นนอนกับเธอนะ”ยูกิพูดจบก็เตรียมก้มจูบมายุแต่มีหรือเด็กน้อยจะยอมง่ายๆ มายุถีบยูกิลงไปนอนกับพื้นอีกครั้งก่อนจะโวยวายด่าอีกคน

 

“เธอนี่มันหื่นตลอดเลยนะ!”

 

“ฮะๆ มายุจังคิดอะไรแค่ขอนอนด้วยเองนะ”ยูกิพูดพลางหัวเราะออกมาสงสัยเพราะเมื่อเช้าเพิ่งโดนถีบทำให้เธอเริ่มชินจนไม่รู้สึกเจ็บล่ะมั้ง(?)

 

“ใครมันจะเชื่อล่ะว่าจะ…นอนเฉยๆ”มายุพูดออกมาเบาๆก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนโดยมีเจ้าผีลอยตามไป

 

“นี่ทำไมกลับมาหรอ ไหนว่าจะไปเที่ยว”ยูกิถามมายุเบาๆส่วนมายุเหมือนกับว่าหาของเสร็จก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก่อนจะพูดต่อ

 

“พอดีลืมมือถือ….แล้วก็”มายุพูดออกมาเบาๆก่อนจะเดินไปใกล้ๆเจ้าผีที่ยังเอ๋ออยู่ประตูห้องนอนแล้วค่อยๆดึงอีกคนมาใกล้ๆ

 

“เป็นห่วงแล้วก็หวงยูกิขึ้นมาน่ะ”มายุพูดจบก็หอมแก้มอีกคนอย่างแผ่วเบาแล้วเดินออกไปแต่สำหรับเจ้าผีกลับรู้สึกถึงความร้อนที่เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ยูกิค่อยๆยกมือกุมแก้มตัวเองเบาๆและทรุดลงนั่งพิงประตู

 

‘มายุเนี่ยนะ…’ยูกิคิดในใจพลางนึกถึงอีกคนก่อนจะเงยหน้าขึ้น ยูกิยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยพร้อมพูดออกมาด้วยเสียงที่เบาจนแทบจะไม่ได้ยิน

 

“ทำตัวน่ารักแบบนี้ ชั้นเองก็ชักหวงเธอมากกว่าเดิมซะแล้วซิ”

 

___________________________________________________________________________

 

Talk :ตอนที่ 3 มาแล้วค่ะ ของโทษที่มาช้าบ่อย 5555 คือความขี้เกียจเกาะติดหลังสลัดไม่หลุด ตอนนี้เหมือนจะมีอะไร แต่ก็ไม่มีอะไร ยังแค่หวานๆเซอร์วิสของเจ้าผีหื่นอยู่ดี หลายคนคงคิดเมื่อไหร่จะคลายปม…. อย่าเพิ่งรีบนะๆ เอาเป็นว่ายังไงตอนต่อไปจะเริ่มคลายปมเอง ใจเย็นๆหน่อยนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนมาตลอด ข้าน้อยไม่รู้จะขอบคุณยังไงนอกจากแต่งฟิคให้ไวขึ้น 5555 ยังไงก็จะพยายามลงไวๆนะคะ