[3 Shot] You’re still alive in my dream [Mayuki] – (Third) 06/29/2014 – END –
Intro
“ฮัดเช้ย!” เสียงจามของชายหนุ่มหน้าตาดีที่กำลังใช้หลังมือเช็ดจมูก เขากำลังทยอยเก็บข้าวของลงกล่องสี่เหลี่ยมเพื่อกลับบ้านเกิด เป็นเวลากว่า 4 ปีที่ชายหนุ่มจากบ้านเกิดที่โตเกียวมาเพื่อมาร่ำเรียนที่มหาวิทยาลัยคาโกชิม่า และในอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันรับปริญญาของเขา
ชื่อของเขาคือ ‘วาตานาเบะ มาโมรุ’ เป็นนักศึกษาที่กำลังรอใบปริญญาในคณะนิเทศศิลป์ของมหาวิทลัยคาโกชิม่าแห่งนี้ ความฝันที่อยากจะเป็นนักวาดการ์ตูนของเขาในที่สุดมันก็อยู่แค่ปลายเอื้อมมือเท่านั้น
“ไม่กี่ปีฝุ่นมันเยอะขนาดนี้เลยหรือไงนะ ?” เขาได้แต่บ่นพึมพัมกับตัวเองอยู่คนเดียวก่อนจะนั่งลงกับพื้นและแพ็คของใส่กล่องต่อ
ในขณะที่เขากำลังเรียงหนังสือใส่ลงกล่องอยู่นั้น สายตาก็พลันไปสะดุดกับอัลบั้มรูปที่แสนคุ้นตา ถึงแม้ว่ามันจะผ่านมาเกือบปีแล้วชายหนุ่มก็ไม่เคยลืมเลือน
ข้างๆกันก็มีสมุดวาดเขียนเล่มใหญ่อยู่ ดูจากเนื้อกระดาษที่เริ่มกลายเป็นสีเหลืองบวกเข้ากับฝุ่นหนาที่เกาะติดอยู่บนปกก็พอจะรู้ได้ว่าไม่ได้ใช้งานมานานมากเพียงใด
ชายหนุ่มหยิบอั้ลบั้มรูปและสมุดวาดเขียนเล่มนั้นขึ้นมาก่อนจะวางงานทุกอย่างไว้ชั่วขณะ ใช้ปากเป่าลมให้ฝุ่นที่เกาะอยู่บนอัลบั้มรูปแลสมุดวาดเขียนออก ก่อนจะใช้มือเช็ดหน้าปกให้สะอาดมากยิ่งขึ้น เขายืนมองทั้งสองอย่างในมืออยู่สักพักก่อนจะเดินไปนั่งยังเตียงนอนของเขา วางสมุดวาดเขียนลงกับพื้นเตียง ก่อนจะหยิบอัลบั้มรูปขึ้นมาค่อยๆเปิดไล่ดูรูปที่มีความทรงจำอัดแน่นอยู่ภายในนั้นที่ละรูป
ภาพของเขากับผู้หญิงคนที่เขารักที่สุด ‘คาชิวากิ ยูกิ’
พลันน้ำใส่ๆก็เอ่อคลอรอบดวงตา และร่วงหล่นลงมาตามสภาพแรงโน้มถ่วงโลกกระทบลงบนรูปภาพเหล่านั้น และความทรงจำในช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่วมกับเธอคนนั้นก็ผุดเข้ามาในห้วงแห่งความคิดมากมาย…
—————————————————-
คืนนี้จะมาต่อตอนแรกครับ คาดว่านะ ฮ่าๆ
เลือกตั้งปีนี้สนุกมากครับ มายุได้ที่ 1 เชียวแหละ ดีใจกับโอชิสุดๆไปเลยครับ
ครับส่วนเรื่องนี้เป็นดันโซมาจากติดลมความหล่อของมายุตั้งแต่ AKBINGO! นู้นเลยครับ
พล็อตเรื่องกับชื่อเรื่องได้มาจาก JURIAL142 ขอบคุณเจ้จริงๆครับ
เอาล่ะครับ คนที่เข้ามาอ่านต้องมีโอชิยูกิกับมายุอยู่แล้ว หลังจากเม้นท์เนื้อหาฟิคแล้ว
มาแชร์ความรู้สึกหลังจบเลือกตั้งกันนะครับ ^ ^
โว้ว ฟิคมาเร็วมากเลยค่ะ
ได้ที่ 1 แล้วสินะ พระเอกของเรา ^^
เฮ~ ยินดีกับมายุจังอีกครั้ง ในที่สุดก็ทำได้แล้วนะ ^ ^
สำหรับพล็อตนี้ คิดโดยนึกถึงตอนมายุแต่งหล่อค่ะ
ส่วนนางเอกนั้นตอนคิดเห็นหน้ายูกิรินลอยมาเป็นคนแรก แต่ไม่ได้บอกน้องชายในทันทีว่าอยากให้ยูกิเป็นนางเอก
เลยเกือบจะเป็นฟิคย้วยพลุ ย้วยเรนะแล้วล่ะนะ ฮ่าๆๆ ดีที่สุดท้ายน้องชายก็เปลี่ยนใจเลือกพี่ยูกิ
Edited by JURIAL142, 07 June 2014 – 20:13.
ย้วยเป็นไร ;_;
มายุหล่อมากอ่ะ!!!
รอติดตามมายุสุดหล่อ
ขอโทษด้วยเมื่อวานโฮกดีใจที่มายุได้ที่ 1 จนไม่เป็นอันทำอะไร ดีใจเกิ้น 5555555
ยินดีกับมายุด้วย แล้วก็ดีใจกับกิรินด้วยนะ สงสารตอนกิรินพูดมันแบบน่าสงสารสุดๆ ดูกิรินไม่อยากหวังมากเพราะกลัวจะเสียใจแหละนะ
อะแฮ่ม คือเราไม่ได้ดูถ่ายทอดสดเรียกได้ว่าเสียดายสุดๆดันติดธุระตอนวันสำคัญ T^T ขอพูดอารมณ์คนรู้ข่าวจากคนบอกอีกที
หลังจากมีเพื่อนพิมมา
‘ย้วยที่ 1’
‘ซัชชี่ที่ 2’
‘ที่ 1!?’ข้าน้อยคิดในใจและพิมตอบรัวๆพร้อมกริ๊ดดังๆไป 3 โลกแต่ยังในใจกลัวชาวโลกคิดว่าเราบ้า ทั้งดีใจกับมายุและเสียใจที่ไม่ได้ดูสด แต่มาดูย้อนหลังก็ยังปลื้ม ถึงจะเสียบรรยากาศบ้าง(แบบกลับบ้านตอน 3 ทุ่มข้าน้อยจะเป็นลม)
สงสารมิ้ลกี้สุดๆ ดีใจกับคาโอตัน ดีใจกับจูจังแต่สงสารจูจังตอนร้องไห้ ดีใจกับเฮีย ส่วนเนี้ยงๆ….เกรียนค่ะ โซจังสงสารนะ แต่ติดเซนบัสสึก็ดีใจด้วยนะ
ปล.ข้าอาจจะคิดไปเองกล้องดูรู้งานถ่ายคู่จิ้นให้ฟินกันแทบทุกคู่ 5555
ปล.2 คุยเรื่องเลือกตั้งเยอะไปปะหนิ เห็นบอกให้คุยเลยพิมซะยาว 555
โว้ว ฟิคมาเร็วมากเลยค่ะ
ได้ที่ 1 แล้วสินะ พระเอกของเรา ^^FIRST
3 ปีก่อน
“บ้าชะมัด ฝนตกซะได้” มาโมรุที่กำลังเดินหาโลเคชั่นสวยๆที่ใช้สำหรับการวาดรูปส่งอาจารย์ก็ต้องสบถออกมาอย่างหัวเสีย ในตอนเช้าเขาว่าเขาอุส่าเช็คสภาพอากาศแล้วนะ แต่ฝนก็ดันตกมาซะได้ เขาใช้มือขยี้ทรงผมของเขาให้ยุ่งๆเพื่อระบายอารมณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในห้วงความคิด
“แล้วเมืองนี้มันมีที่ไหนสวยบ้างวะเนี่ย จะทำงานส่งจารย์ทันป่ะวะ ห่าเอ้ย!” ชายหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้ที่ป้ายรถประจำทางเพื่อหลบฝน ทิ้งกระเป๋าใส่สีและสมุดสเก็ตภาพไว้เก้าอี้อีกตัวที่อยู่ข้างๆกัน
ระหว่างที่เขากำลังนั่งหัวเสียอยูกับสภาพอากาศ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหลบสายฝนภายใต้หลังคาเดียวกันนี้ เธอสวมเพียงเสื้อเชิ้ตแบบผู้หญิงตัวบาง และตอนนี้มันก็แนบลู่ไปกับลับตัวพร้อมกับเผยให้เห็นทรวดทรงโค้งเว้าอย่างชัดเจน
มาโมรุหน้าแดงขึ้นมา ก่อนจะถอดเสื้อนอกของเขาออกพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวที่กำลังยืนกอดอกตัวสั่นเทา เขาเบือนหน้าหนีพร้อมกับยื่นเสื้อให้กับเธอ กระแอบไอเบาๆให้เธอสนใจ
“ฮะแฮ่ม! คือว่าถ้าไม่รังเกียจ ใส่เสื้อตัวนี้ก่อนก็ได้นะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกคะ เดี๋ยวเสื้อคุณจะเปียกเอา” หญิงสาวตอบกลับมา ทำให้มาโมรุต้องหันกลับไปพูดกับหญิงสาว
“ไม่เป็นไรหรอกครับเดี๋ยวคุณจะไม่สบายแล้วอีกอย่างชุดคุณก็ดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่ รับไปเถอะครับ” ชายหนุ่มพูดด้วยเสียงสุภาพพร้อมกับส่งรอยยิ้มจริงใจให้กับอีกฝ่าย
หญิงสาวรับเสื้อมาสวมไว้ ก่อนจะเอ่ยขอบคุณชายหนุ่มเบาๆ มาโมรุกลับไปนั่งยังเก้าอี้ตัวเดิมโดยที่ไม่ลืมเรียกหญิงสาวให้มานั่งรอฝนหยุดตกด้วยกัน
“แย่จังเลยนะครับฝนดันมาตกซะได้” มาโมรุพูดขึ้นทำลายความเงียบเชียบที่นอกนั่งฟังเสียงฝน
“นั่นน่ะสิคะ เอ่อขอบคุณนะคะ ฉันชื่อ คาชิวากิ ยูกิ ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณ…?” หญิงสาวเอ่ยขอบคุณโดยที่จะไม่ลืมแนะนำตัวด้วย
“วาตานาเบะ มาโมรุ ครับ” ชายหนุ่ม ตอบกลับในตอนที่เขาหันกลับไปมองหญิงสาวนั้น ใบหน้าที่งดงามของหญิงสาวทำให้หัวใจของเขาเต้นระรัว จนต้องเบือนหน้าหนีพร้อมกับสบัดหัวเบาๆสองสามครั้ง
“เอ่อ เป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ…?” ยูกิที่เห็นมาโมรุสบัดหัวจึงเอ่ยถาม
“อ่อเปล่าครับ คาชิวากิซังพอจะรู้จักสถานที่สวยๆบ้างมั๊ยครับ พอดีผมเรียนคณะนิเทศศิลป์อยู่น่ะครับ อยากจะได้มุมมององค์ประกอบสีสวยๆ”
“รู้จักสิคะ ไว้พรุ่งนี้ไปที่นั้นกันมั๊ยคะ”
วันนี้เป็นวันอากาศแจ่มใส มาโมรุมายืนรอหญิงสาวคนเมื่อวานด้วยท่าทางอารมณ์ดี หญิงสาวที่เขารู้จักแต่ชื่อและได้นัดแนะกันเรื่องที่เขาของร้องกับเธอ ไม่รู้ว่าวันนี้ที่เขามาเพราะอยากจะทำงานให้เสร็จหรืออยากเห็นใบหน้าที่งดงามของเธอกันแน่…
มาโมรุนั่งลงรอที่เก้าอี้ในป้ายรถประจำทาง ก้มมองดูนาฬิกาข้อมือแทบจะทุกๆวินาที พลางคิดในใจ เขามาเร็วไปหรือเธอมาช้าไปกันแน่นะ…?
ไม่นานนักก็มีฝ่ามือมาแตะอยู่บนไหล่ เขาสะดุ้งเฮือกพร้อมกับร้องโวยวายเสียงดัง
“เชี่ยยยย!” ชายหนุ่มสะดุ้งพร้อมกับลุกขึ้นยืน ก่อนจะหันไปเห็นหญิงสาวคนเมื่อวานคนที่ได้ขโมยหัวใจของเขาไปเรียบร้อยกำลังยืนหัวเราะอยู่
“ฮิฮิ~ มาโมรุคุง ตกใจมากขนาดนั้นเลยหรอคะ” ยูกิพูดขณะยังใช้มือปิดปากกลั้นเสียงหัวเราะอยู่ เอ่อ…มันก็น่ารักดีอยู่หรอกนะ แต่มาทำให้เขาตกใจแบบนี้หัวใจก็ทำงานหนักเป็น 2 เท่าเลยสิ แย่จริงๆ
“เอ่อ…คาชิวากิซังไม่เล่นแบบนี้สิครับผมตกใจนะ” มาโมรุพูดพลางเอามือทาบอกได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองดังชัด ที่จริงเรื่องพรรคนั้นเขาไม่ใจเต้นเร็วขนาดนี้หรอก แต่เพราะว่าคนตรงหน้าเนี่ยแหลเป็นสาเหตุสำคัญในโรคหัวใจของเขาเลยล่ะ
“พร้อมหรือยังคะ” หญิงสาวเอ่ยถาม
“พร้อมนานแล้วครับ ว่าแต่คาชิวากิซัง จะพาผมไปไหนหรือครับ…?” มาโมรุถามกลับบ้าง
“บ้านของฉันเองค่ะ”
“ไหนบอกจะไปหางานทำ ไปไม่รอดสินะแล้วนี่อะไรพาผู้ชายเข้าบ้าน ร่านที่สุด” หญิงสาววัยกลางคนเอ่ยปากตำหนิยูกิที่กำลังเตรียมน้ำและขนมไว้บนถาดเพื่อที่จะยกออกไปให้มาโมรุที่นั่งอยู่ศาลาริมน้ำที่ด้านข้างของบ้าน ไม่สิ…เรียกว่าคฤหาสน์ตระกูลมิยาวากิ จะดีกว่า
“พูดอะไรกรุณาให้เกีรยติคนฟังด้วยค่ะคุณน้า ยังไงซะหนูก็เป็นลูกสาวของคุณพ่อ” ยูกิตอกกลับ ถ้าเธอเลือกได้เธอก็ไม่อยากจะดูหรอกที่นี่น่ะ อยู่แล้วก็เหมือนตกนรกทั้งเป็น!
“แกยังมีเกียรติอยู่อีกหรอ ไม่ใช่ว่าผู้ชายหลายร้อยคนย่ำยีไปหมดแล้วหรือไง โถๆ ไอ้เด็กไม่มีแม่!” คุณนายมิยาวากิพูดกรแทกกระทั้น แต่ยูกิก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะรู้อยู่แก้ใจพูดไปยังไงเธอก็เป็นคนผิดอยู่ดีเลือกที่จะเงียบไว้ดีกว่า…
คาชิวากิ ยูกิ หรือ มิยาวากิ ยูกิ เธอเลือกจะใช้นามสกุลของคุณแม่ที่เป็นเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ พ่อของเธอเป็นเพียงลูกเขยที่แต่งเข้ามาอยู่ในตระกูล คุณตาของเธอได้ขอไว้ว่าหลานคนแรกขอให้ใช้นามสกุลคาชิวากิ เพื่อสืบสกุลกันต่อไป แต่หลานสาวคนแรกที่ลืมตาดูโลกกลับกลายเป็นผู้หญิง ถึงกระนั้นคุณตาก็รักยูกิมากแต่ไม่นานนักท่านก็เสียไปด้วยโรครุมเร้าคนชรา
หลังจากที่คุณตาเสียไป พ่อของเธอก็เป็นใหญ่ในตระกูลคาชิวากิ เขาสั่งเปลี่ยนชื่อตระกูลเป็น มิยาวิกิ นามสกุลของเขา ท่านบังคับให้ฉันกับแม่เปลี่ยนนามสกุลแต่เราสองแม่ลูกก็ไม่ยอมเปลี่ยนยังคงดื้อดึงที่จะใช้นามสกุลของคุณตาต่อไป
สี่ปีเศษๆผ่านมา พ่อของเธอได้พาผู้หญิงท้องแก่คนหนึ่งเข้ามาในบ้านและบอกกับเราสองแม่ลูกว่า ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นภรรยาของเขาและเด็กในท้องก็เป็นลูกของเขาเช่นเดียวกัน จากนั้นมาคุณแม่ของยูกิก็ย้ายมานอนห้องเดียวกับยูกิ ถึงยูกิจะยังเด็กแต่เธอก็รับรู้ได้ว่าแม่ของเธอต้องนอนร้องไห้ทุกคืน
ไม่กี่เดือนต่อมาเด็กในท้องของผู้หญิงคนนั้นก็ลืมตาดูโลกออกมา โดยได้ชื่อว่า ‘มัตสึโมโตะ ซากุระ’ เพราะแม่ของฉันยังคงจดทะเบียนสมรสกับพ่ออยู่ทำให้เด็กน้อยต้องใช้นามสกุลของแม่ของเธอ
หกเดือนต่อมา แม่ของฉันประสบอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำและแน่นอนท่านเสียชีวิตในทันที นั่นเป็นวันที่แย่ที่สุดของฉัน แต่สำหรับผู้หญิงคนนั้นหล่อนยิ้มเย้ยและหัวเราะร่าพร้อมกับตะโกนด่าทอแม่ฉันต่างๆนาๆ
‘ฮึฮึ! ตายไปได้ซะก็ดี จะได้ไม่มีมารมาขวางฉันอีก แต่ยังเหลือลูกมันอยู่อีกคน เมื่อไหร่มันจะตายๆตามกันไปสักทีนะ!’
ผู้หญิงคนนั้นได้จดทะเบียนสมรสกับพ่อของฉันพร้อมกับเปลี่ยนนามสกุลของเธอกับลูกเป็น มิยาวากิ และหลังจากนั้นมาฉันก็ถูกแม่เลี้ยงใจร้ายทำทารุณมาโดยตลอดโดยที่ฉันไม่เคยปริปากบอกพ่อเลยสักคำ พ่อคือญาติคนสุดท้ายคนสำคัญของฉันถ้าไม่มีท่านฉันก็คงไม่เหลือใคร…
“เอ้านี่ เชิญตามสบายเลยนะมาโมรุคุง” ยูกิวางถาดลงกับโต๊ะ ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะยิ้มรับ ยูกิยิ้มตอบเธอสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นในรอยยิ้มของชายหนุ่ม
“เอ่อ…บ้านคาชิวากิซัง สวยจังเลยนะครับ” ชายหนุ่มพูดพลางทอดสายตาออกไปรอบๆ
“จะพูดว่าบ้านมันก็ไม่ถูกหรอกค่ะ ใช่มั๊ยล่ะคะ ฮิฮิ~” ทั้งคู่ประสานเสียงหัวเราะกัน
“พี่ยูกิริน~” เสียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น ทั้งสองหันหลังกลับไปดูก่อนจะพบกับเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่งกำลังเธอมาทางคนทั้งคู่
“พี่ชายเป็นใครหรอคะ…?” เมื่อซากุระเดินมาถึงก็ต้องทำหน้างง เด็กหญิงในชุดม.ปลายเอียงคอเล็กน้อยแล้วชี้มาทางมาโมรุ
“อ่อ มาโมรุคุงเป็นเพื่อนของพี่เองน่ะ ว่าแต่ซากุระมีอะไรหรือเปล่า” ยูกิแนะนำ มาโมรุก้มหัวให้เด็กสาวเล็กน้อยก่อนจะได้รับการก้มหัวจากเด็กสาวตอบกลับ ซากุระเป็นเด็กดีต่างกับแม่ของเธอลิบลับ
“ป่าวค่ะ จริงหรอคะที่พี่ยูกิจะกลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว” เด็กน้อยร้อนรนถาม ก็นานๆทีจะได้เห็นพี่สาวนี่นาและพ่อก็บอกว่ายูกิจะกลับมาอยู่บ้านเด็กน้อยก็พลอยดีใจใหญ่
“จริงจ๊ะ ไปอ่านหนังสือก่อนมั๊ย มาโมรุคุงต้องใช้สมาธิน่ะ” ยูกิลูบหัวซากุระเบาๆ ก่อนจะเอ่ยปากบอก เด็กสาวพยักหน้าก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในคฤหาสน์
“งั้นฉันไม่กวนมาโมรุคุงดีกว่าตามสบายเลยนะคะ แล้วฉันจะเดินออกมาดูบ่อยๆ” ยูกิพูดขึ้น มาโมรุยิ้นก่อนจะเริ่มหันไปหามุมมองสวยๆ และเริ่มลงมือวาดในทันที
ผ่านไปราวๆสองชั่วโมง มาโมรุก็ปิดสมุดสเก็ตภาพพลางเก็บอุปกรณ์ลงกระเป๋า พอดีกับยูกิที่เดินออกมาเช็ดความเรียบร้อย
“อ่าวเสร็จแล้วหรอ ขอดูหน่อยได้มั๊ย” ยูกิเอ่ยปากถามชายหนุ่มที่กำลังก้มเก็บกล่องสีลงในกระเป๋า
“อ่า จะดีหรอครับมันไม่ค่อยสวยเท่าไหร่” ชายหนุ่มพูดแต่ก็ทัน ยูกิคว้าสมุดสเก็ตภาพขึ้นมาแล้วจึงเปิดดู
“โห ไหนบอกว่าไม่สวยไง นี่มันสุดยอดมากเลยนะ มาโมรุคุง” ยูกิเอ่ยปากชม มาโมรุเกกาหัวแก้เขินก่อนจะหัวเราะแห้งๆออกมา
“ขอบคุณคาชิวากิซังด้วยนั่นแหละครับ ที่หาสถานที่สวยๆให้ผม” มาโมรุเอ่ยอย่างถ่อมตัว
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เมื่อวานมาโมรุคุงให้ฉันยืมเสื้อด้วย อ่ะนี่ค่ะเสื้อของมาโมรุคุง” ยูกิยื่นเสื้อนอกของชายหนุ่มคืนให้เจ้าของ
“เอ่อ คาชิวากิซังครับผมเกรงใจจริงๆ ให้ผมได้เลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทนด้วยเถอะนะครับ”
“จะดีหรอคะ มันไม่มากไปหน่อยหรอคะ…?”
“ไม่ครับ! ไม่เลยครับ!” มาโมรุรีบปฏิเสธทันควัน
“งั้นก็ได้ค่ะ รบกวนด้วยนะคะ” ยูกิยิ้มออกมา
“งั้นขอเบอร์คาชิวากิซังด้วยได้มั๊ยครับ” มาโมรุเอ่ยถาม นั่นทำให้ยูกิทำหน้างงๆ เลี้ยงข้าวแล้วเกี่ยวอะไรกับเบอร์โทรศัพท์เธอด้วย…?
“ผมจะได้เอาไว้โทรนัดเวลากับสถานที่ยังไงล่ะครับ…”
tbc.
——————————————————
เรื่องนี้จะเป็นแนวย้อนอดีตภาพความทรงจำของมาโมรุนะครับ
เมื่อคืนหลับ เลยมาลงตอนเช้าแทนไม่ว่ากันนะ ฮ่าๆ
ไม่ว่าค่ะ ^^ กิรินช่างน่าสงสาร
นาเบ้อย่างหล่ออ่ะ อร๊ายยยยย เคลิ้มตั้งแต่ดันโซหละคะ
ก็แอบคิดว่านายเป็นสาวดุ้นป่าวว่ะ แต่ตอนสาวจะแมนยังไง พอแต่งหนุ่มก็ดูเคะอยู่ดีค่ะ 555555ส่วนเลือกตั้ง พอศรีได้ที่2 กริ๊ดลั่นบ้านเลยค่ะ 55555555
พอถามเป็นไร บอกไปว่า ลูกเขย(?) พ่อได้ที่1อ่ะ พ่อทำหน้าแบบ >>> = = 555555
ดีใจจริงๆค่ะ พอได้ยินคนเรียกมายุทั้งฮอลแล้วร้องไห้เลยค่ะ ㅠ ㅠ ความพยายามของมายุได้รับการตอบแทนแล้วนะไรท์มิคบอกว่าแม่ตกใจไรท์มิค
เราเองก็ทำเพื่อนตกใจในเฟสเลยล่ะ สแปมในเฟสบึมจนเพื่อนบอก’เป็นxxx อะไรของ xxx วะ!’ 5555
เรื่องตอบเม้นยาว โอ้…ยาวจริงด้วย แต่เราก็เม้นยาวจริงๆเพิ่งสังเกต<<<เพิ่งเห็นเรอะ!
ลืมถามสรุปที่บนไว้ท่าทางจะได้ผลด้วยล่ะ ของไรท์มิคสมหวังไหม
หัวฟิคว่า 3 shot รออีก 2 shot
แต่ดูแล้วยูกิชีวิตดราม่า ย้วยหล่อมากแถมรุกสุดๆ เจอแป๊บเดียวขอเบอร์เลยหรอคะ ไวมากเลยค่ะคุณชาย 5555
ได้ยินว่าตอนแรกจะเป็นย้วยเรนะกับย้วยพารุ….อืม ดีนะที่ท่านเปลี่ยนใจ ข้าน้อยเลยได้ฟิน 5555
ปูเสื่อรอ รักแรกพบขอคุณชายกลางสายฝน!?มาโมย้วย(?)เท่ที่สุดเลยค่ะ แมนมาก!
ชีวิตพี่ยูกิช่างแสนเศร้า TT TT
แต่หวังว่าการได้พบกับมาโมย้วยจะทำให้กิรินได้พบความอบอุ่น อยากให้พี่กิรินยิ้มอย่างมีความสุข
(จริงๆมีเรื่องอยากจะเม้นต์อยากถามเยอะแยะเลย แต่ไปเม้นต์หลังไมค์ดีกว่า คิคิ)
ไม่ว่าค่ะ ^^ กิรินช่างน่าสงสาร
นาเบ้อย่างหล่ออ่ะ อร๊ายยยยย เคลิ้มตั้งแต่ดันโซหละคะ
ก็แอบคิดว่านายเป็นสาวดุ้นป่าวว่ะ แต่ตอนสาวจะแมนยังไง พอแต่งหนุ่มก็ดูเคะอยู่ดีค่ะ 555555ส่วนเลือกตั้ง พอศรีได้ที่2 กริ๊ดลั่นบ้านเลยค่ะ 55555555
พอถามเป็นไร บอกไปว่า ลูกเขย(?) พ่อได้ที่1อ่ะ พ่อทำหน้าแบบ >>> = = 555555
ดีใจจริงๆค่ะ พอได้ยินคนเรียกมายุทั้งฮอลแล้วร้องไห้เลยค่ะ ㅠ ㅠ ความพยายามของมายุได้รับการตอบแทนแล้วนะย้วยคลุงสุภาพบุรุษจิงๆแมนมาก ในเกียรติพี่กรด้วย
แต่เจอกันแค่2วันขอเบอร์ไวไฟไปไหนนน ชีวิตพี่กรก้ช่างดราม่านี่แหละน่าาา ชีวิตนางเอกก็ไม่มีอะไรมาก แค่อยากจะบอกว่า… แม่เลี้ยงน่าตบมากเค่อะ//วิ่งหนีแม่ซาจัง
กิรินนี่น่าสงสารจังเลยตอนเเรก็ยังโอเคอยู่นะไรเตอร์เเต่พอเเม่เลี้ยง เอ่อ..คุณน้าอะไรนั่นมาว่าพี่กิรินเท่านั้นเเหละ
ฟีลลิ่งนี่เเบบพูดงี้ต่อยกันเลยดีกว่าไหมเหอะ 55 เเต่ซากุจังก็ออกจะโอเคนะ -3-
รักยูกิรินนะ ขอเป็นคนปลอบใจเองได้ป่ะ?//โดนเตะ!!!555
ย้วยคลุงสุภาพบุรุษจิงๆแมนมาก ในเกียรติพี่กรด้วย
แต่เจอกันแค่2วันขอเบอร์ไวไฟไปไหนนน ชีวิตพี่กรก้ช่างดราม่านี่แหละน่าาา ชีวิตนางเอกSECOND
“ขอโทษนะครับที่นัดมากระทันหันแบบนี้” ชายหนุ่มพูดขึ้นเมื่อยูกิเลื่อนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเขาออกและนั่งลงบนเก้าอี้ตัวนั้น
“ไม่ได้ลำบากอะไรหรอกค่ะ มาโมรุคุงนั่นแหละไม่น่าลำบากเลย” ยูกิยิ้มตอบชายหนุ่ม
“ก็ไม่ได้ลำบากอะไรเช่นกันครับ สั่งเลยครับคาชิวากิซัง” มาโมรุตอบกลับก่อนจะยื่นเมนูให้กับหญิงสาว
“ขอบคุณค่ะ งั้นมื้อนี้รบกวนด้วยนะคะ” ยูกิรับมาก่อนจะส่งยิ้มใหชายหนุ่มอีกครั้ง เขาเผลอยิ้มตามก่อนจะเริ่มสั่งในส่วนของตัวเองบ้าง
ระหว่างการทานอาหารบทสนทนาของทั้งคู่ก็เป็นเรื่องทั่วไป จนกระทั่งมาโมรุที่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่างานใหม่ของอาจารย์ให้เขาวาดรูปคน แล้วหญิงสาวตรงหน้าก็สวยจนเสียเขาอยากได้เธอเป็นนางแบบให้ภาพของเขา
“คาชิวากิซัง วันหยุดนี้ว่างหรือเปล่าครับ ผมอยากจะรบกวนคาชิวากิซังสักหน่อย”
“ว่างค่ะ แต่จะไม่ว่างถ้ามาโมรุคุงยังเรียกฉันแบบนั้นอยู่” ยูกิพูดทีเล่นทีจริงทำเอาชายหนุ่มชะงักกับลูกตรงของเธอเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆคลี่ยิ้มออกมา
“ได้โปรดเถอะนะครับ ยูกิซัง” มาโมรุเปลี่ยนคำสรรพนามที่ใช้เรียกคนตรงหน้านั่นสามารถสร้างความพอใจไม่น้อยให้กับหญิงสาว ก่อนที่เธอจะตอบตกลงทันทีที่ชายหนุ่มขอร้องเธอ
อย่างน้อยถ้าออกมาเจอมาโมรุคุง ฉันก็จะไม่ต้องทนฟังคำครรหาต่างๆนาๆของคุณน้า…
“อยู่เฉยๆนะครับ ผมจะพยายามร่างแบบให้เร็วที่สุดเลยครับ” มาโมรุที่เอ่ยบอกกับหญิงสาวผู้รับหน้าที่เป็นนางแบบ ในวันนี้คาชิวากิ ยูกิ ตั้งใจเลือกชุดที่เธอคิดว่าดีที่สุดสำหรับการเป็นแบบรูปให้กับชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนคนนี้
“ไม่ต้องรีบหรอกนะมาโมรุคุง เดี๋ยวภาพออกมาจะไม่สวย”
“ไม่หรอกครับ ยังไงภาพก็ต้องออกมาสวยแน่ๆ เพราะนางแบบออกจะสวยขนาดนี้” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับสิ่งยิ้มให้กับผู้ที่มีอายุมากกว่า ยูกิที่แม้เธอจะเคยโดนทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวเขามาพูดจาทำนองนี้มากมายแต่ก็ไม่เคยหวั่นไหวกับคำพูดของใคร…นอกเสียจากคำพูดของมาโมรุ
หญิงสาวใช้ฝ่ามือขึ้นมาพัดบริเวณใบหน้าเบาๆเพื่อลดอาการร้อนผ่าว มาโมรุยิ้มเล็กๆ ก่อนจะหันไปหยิบดินสอและเริ่มบรรจงวาดรูปหญิงสาวในทันที
เวลาผ่านไปชั่วโมงเศษ มาโมรุก็ยิ้มร่าให้กับผลงานของเขา เขาเรียกยูกิให้มาดูรูปเสมือนของเธอที่เขาวาดออกมาราวกับมีชีวิตอยู่บนผืนกระดาษแผ่นนั้น
“โห มาโมรุคุงเก่งจัง” อดที่จะชมไม่ได้จริงๆ เธอต้องยอมรับเลยว่าเขาวาดรูปเธอได้เหมือนรูปถ่าย
“ไม่หรอกครับ ที่คณะมีคนวาดเก่งกว่าผมอีกเยอะแยะ” เขาตอบตามสไตล์คนถ่อมตัว ยูกิหัวเราะเบาๆให้กับความถ่อมตัวของมาโมรุ แบบนี้สินะผู้ชายอบอุ่นที่เธอตามหา
“แค่นี้ก็เก่งแล้วล่ะมาโมรุคุง”
“คาชิวา…ยูกิซัง ถ้าครั้งหน้าผมอยากจะเจอคุณอีกได้หรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มเอ่ยปากถาม
“อื้มได้สิ โทรมาได้ตลอดเลยนะคะ”
“เชรด! คนที่มึงวาดนี่ใครวะ สวยสัสอ่ะ” เพื่อนชายในคณะเอ่ยถามพร้อมกับแย่งกระดาษไปจากมือของมาโมรุ
“เบาๆดิวะริน เดี๋ยวรูปยูกิซังยับหมด” ชายหนุ่มรีบแย่งกลับมาจากมือของเพื่อนอย่าง ‘อิโคมะ ริน’
“บ๊ะ! ไม่เบาว่ะๆ ว่าแต่มึงอะไรกับสาวคนนึ้ยังวะ” รินถามอย่างอยากรู้
“พ่องดิ ยูกิซังก็แค่คนรู้จักเฉยๆเว้ย เขาช่วยฉันเรื่องงานตั้งสองครั้งแล้ว” มาโมรุรีบหันควับกลัวไปพร้อมยกเท้าขึ้นมาหมายจะถีบเพือนรักที่พูดจาพล่อยๆออกไป แต่รินก็หลบทันเช่นเคย
“ครับๆ พ่อหนุ่มสุภาพบุรุษ เป็นกูจะเต๊าะเลยนะเนี่ย สวยแบบนี้” มื่อได้ยินดังนั้นมาโมรุจึงเขกหัวให้กับความคิดอกุศลของเพื่อนรักไปอีกสักที ก่อนทั้งคู่จะรีบนั่งลงให้เรียบร้อยเพราะอาจารย์ได้เดินเข้ามาในห้องแล้ว
“นักศึกษา เอางานมาส่งด้วยก่อนออกจากห้อง งานใหม่ของพวกคุณคือ ถ่ายภาพวิว” สิ้นเสียงอาจารย์พูดจบนักศึกษาหลายคนก็ฮือฮากันใหญ่ งานนี้พวกเขาจะได้ใช้กล้องกันแล้วสินะ
“มาโมรุ งานนี้ไปทำที่เดียวกันนะ” รินรีบหันมาขอร้องเพื่อน
“ไม่มีวันแน่นอนริน ต่างคนต่างทำดิวะ เดี๋ยวถูกจับได้ก็โดนเล่นงานกันหมด” มาโมรุหันไปตอบเพื่อน รินทำปากเบะก่อนจะหันไปสนใจอาจารย์พูดเรื่องแสงและมุมกล้อง ส่วนมาโมรุก็นั่งจมปลักกับความคิด
‘แล้วคราวนี้ต้องไปที่ไหนอีกล่ะ ยูกิซังจะรู้จักสถานที่สวยๆอีกมั๊ยนะ…’
“อ่า~ รบกวนยูกิซังอีกแล้วขอโทษนะครับ” มาโมรุโค้งลงหันทีที่เห็นหญิงสาวเดินเข้ามาหาเขาในระยะสายตา
“ไม่ได้หนักหนาอะไรหรอกค่ะ ว่าแต่วันนี้เรียกมามีอะไรให้ช่วยหรอคะ?” ยูกิเอียงคอถามเล็กน้อย มันน่ารักมากในสายตาของมาโมรุ ชายหนุ่มหลบตาสาวเจ้าเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยตอบอย่างตะกุกตะกัก
“อ่ะ…เอ่อ คือผมเป็นคนไซตามะน่ะครับ เลยไม่คุ้นชินแถวคาโกชิม่าสักเท่าไหร่ ยูกิซังช่วนแนะนำสถานที่สวยๆ สงบๆหน่อยได้มั๊ยครับ คือผมต้องถ่ายรูปส่งอาจารย์น่ะครับ” มาโมรุพูดพร้อมกับหยิบกล้องตัวเก่งขึ้นมาโชว์ประกอบไปด้วย
“คนน้อยๆหรอ งั้นเราไปเนินชิโรยามะกันดีกว่าค่ะ” ยูกิเสนอ มาโมรุพยักหน้าและเดินตามหญิงสาวผู้เป็นเจ้าถิ่นไป
ไม่นานนักทั้งคู่ก็มาถึงที่หมาย แต่ช่วงนี้เป็นฤดูฝนเลยไม่ค่อยมีแดดเสียเท่ไหร่ แถมท้องฟ้าก็ขมุกขมัวราวกับฝนพร้อมจะเทลงมาอยู่ทุกเมื่อ
“แดดไม่มีเลยแหะ กลัวฝนจะตกจัง มาโมรุคุงรู้มั๊ย ฉันน่ะเป็นเจ้าหญิงเรียกฝนเลยนะ ฉันอยู่ที่กลางแจ้งทีไรฝนตกทุกทีเลย จำตอนที่เราเจอกันได้มั๊ยล่ะ ตอนนั้นฝนก็ตก” ยูกิหันมาพูดกับชายหนุ่มที่กำลังเตรียมเลนส์กล้องอยู่ข้างๆเธอ
“มันแค่บังเอิญหรือเปล่าครับ…”
ซ่า!
“เป็นไงเชื่อหรือยังคะ ?” ยูกิที่เปียกไปทั้งตัวเอ่ยถามชายหนุ่มที่เงยหน้ามองท้องฟ้าที่มีสายฝนโปรยลงมาอย่างหนักหน่วง
“ผมเชื่อแล้วล่ะครับ ยูกิซัง” มาโมรุหันมาพูดตอบ ก่อนที่เขาจะหยิบร่มและยื่นให้กับหญิงสาวส่วนตัวของเขาเองก็เลือกฮู้ดที่ใส่อยู่ขึ้นมาคลุมหัว พร้อมกับใช้เจ้าก้องกันน้ำอย่างดีถ่ายรูปสายฝนที่โปรยปรายลงมา นี่แหละภาพที่เขาอยากส่งอาจารย์เลยล่ะ
“มาโมรุคุง ฝนที่นี่สะอาดนะ เย็นดีด้วย” มาโมรุหันไปตามเสียงเรียกเขาเห็นหญิงสาวที่หุบร่มที่เขายื่นให้กำลังเล่นกับสายฝนอยู่อย่างสนุกสนาน
มาโมรุหยิบกล้องขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับกดชัตเตอร์อย่างรัวโดยไม่ยั้ง หญิงสาวที่เปียกปอนไปด้วยสายฝนที่กำลังโปรยปรายมา ช่างเป็นภาพที่งดงามจริงๆ เขามองเธอผ่านเลนส์กล้อง เมื่อเธอยิ้มมาหัวใจของเขาก็พลันเต้นระรัว นี่เขากำลัง…ชอบเธออยู่ใช่มั๊ย?
“ยูกิซังไม่น่าตากฝนเลยนะครับ เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอกครับ” มาโมรุที่นั่งอยู่หน้าเคาท์เตอร์ร้านราเม็งหลังจากที่ทั้คู่ตกลงกันว่าจะหาอะไรที่อุ่นๆทานกันก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน
“แต่ฉันเห็นมาโมรุคุงก็กดชัตเตอร์รัวๆเลยนี่ ขอบคุณค่ะ” ยูกิพูดพร้อมกับหันไปขอบคุณเจ้าของร้านที่ยื่นถ้วยราเม็งอุ่นๆกลิ่นหอมฉุยมาทางเธอ
“ขอบคุณครับ งั้นคราวนี้ก็ให้ผมเลี้ยงคุณอีกนะครับ ถือว่าเป็นการตอบแทนที่สละเวลามาช่วย” ชายหนุ่มพูดก่อนจหันไปหักตะเกียบพร้อมกับคีบเส้นเข้าปาก
“ฉันจ่ายเอ…”
“ถ้าไม่ให้ผมเลี้ยง ผมจะโกรธยูกิซังจริงๆด้วย” มาโมรุรีบพูดดัก หญิงสาวยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขอบคุณและทานราเม็งกันต่อ
หลังจากจ่ายเงินเสร็จมาโมรุเสนอตัวไปส่งยูกิที่บ้าน ซึ่งหญิงสาวก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร ดีเสียอีกเวลาที่เธอจะได้อยู่กับเขาจะได้ยาวนานยิ่งขึ้น ทั้งคู่เดินไปตามถนนที่เปียกชุ่มซึ่งทิ้งร่องรอยว่าฝนเคยตกอยู่ เสียงหัวเราะจากบทสนทนาต่างๆที่ชายหนุ่มเล่าให้หญิงสาวฟัง ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่รู้อีกทีทั้งคู่ก็มาหยุดอยู่ที่หน้าประตูบ้านมิยาวากิเสียแล้ว
“ผมส่งยูกิซังตรงนี้นะครับ” ในขณะที่หญิงสาวกำลังเปิดประตูรั้ว ชายหนุ่มจึงเอ่ยพูด
“ไม่เข้าไปดื่มชาหน่อยหรอมาโมรุคุง” ยูกิถาม มาโมรุส่ายหน้าไปมาแล้วจึงขอตัวกลับ เมื่อชายหนุ่มเดินไปพ้นสายตาของเธอแล้ว เธอจึงเดินเข้าไปในรั้วบ้านโดยไม่ลืมปิดไว้อย่างเช่นเดิม ใช้มือทาบไว้ที่หน้าอกของตัวเอง ฟังเสียงหัวใจที่เต้นระรัว…หรือว่าเธอกำลังชอบมาโมรุเข้าเสียแล้วอย่างนั้นหรือ?
หญิงสาวเผยยิ้มออกมาก่อนจะเปิดประตูบ้านเข้า ไปเก็บรองเท้าเข้าตู้ เดินผ่านเพื่อเข้าไปในตัวบ้านโดยไม่ได้ทักคุณนายมิยาวากิเลยแม้แต่น้อย
“มีผู้ชายมาส่งถึงบ้าน ไม่รู้ว่าไปอยู่ด้วยกันหรือเปล่า งานที่บ้านไม่เคยคิดจะช่วย อยู่ไปก็เปลืองเงินจริงๆ” คุณนายมิยาวากิพูดขึ้น นั่นทำให้ยูกิหันไปจ้องแม่เลี้ยงของเธอด้วยตาเขม็ง
“มาโมรุคุงเป็นคนดีและก็เป็นสุภาพบุรุษด้วย แล้วอีกอย่างอย่างฉันน่ะไม่ต้องไล่จับผู้ชายหรอกค่ะ” ยูกิติบกลับ
“นี่แกกล้าว่าฉันหรอ ฉันเป็นเมียพ่อแกนะ” คุณนายมิยาวากิลุกขึ้นจากโซฟาพร้อมเดินมาทางยูกิ
“พูดให้ถูกหน่อยนะคะ คุณน่ะมันก็เป็นแค่เมียน้อยของคุณพ่อเท่านั้นแหละค่ะ ถ้าคุณไม่คิดจะจับผู้ชายรวยๆอย่างพ่อของฉัน ชีวิตฉันก็ไม่เละเทะแบบนี้หรอก” ยูกิตะโกนใส่ด้วยอารมณ์สุดขีด สติของเธอขาดสะบั้น แต่ก็ถูกตอกกลับมาด้วยการกระทำ
เพี้ยะ !
“ปากดีนักนะแก” หลังจากฟาดมือลงไปที่แก้มสวยของยูกิแล้ว คุณนายมิยาวากิก็พูดออกมา ยูกิหันหน้ากลับมาพร้อมกับมองแม่เลี้ยงด้วยสายตารังเกียจ ก่อนที่เธอจะถูกตบซ้ำอีกหลายครั้ง
“ข้างล่างเอะอะอะไรกันน่ะ” คุณมิยาวากิที่ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย ก็ตะโกนถามผู้ที่อยู่ข้างล่าง คุณนายมิยาวากิรีบเปลี่ยนเป็นโอบกอดยูกิพร้อมกับตีหน้าเศร้าทันทีที่คุณมิยาวากิเดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน
“โอ๋ๆ เจ็บมั๊ยคะหนูยูกิ มาค่ะเดี๋ยวหน้าทำแผลให้นะคะ” ตอแหล! ผู้หญิงคนนี้มันตอแหลที่สุด! ยูกิสะบัดตัวให้หลุดพ้นออกจากอ้อมแขนของแม่เลี้ยงของเธอ ก่อนจะยื่นจ้องหน้าผู้เป็นพ่อ
“อ่าว ยูกิรินแล้วไปโดนอะไรมาล่ะนั่น” คุณมิยาวากิยื่นมามาหมายจะสัมผัสกับใบหน้าที่มีเลือดออกจากมุมปากและรอยแดงเฝื่อนตามแก้ม แต่ก็ต้องชะงักเมื่อหญิงสาวปัดมือออกของเขาออกไป
“ไม่ต้องมายุ่ง ร่างกายของหนู หนูดูแลตัวเองได้” ยูกิพูด คุณมิยาวากิเงียบไปพักใหญ่ ก่อนยูกิจะเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาอีก
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วหนูขอตัวขึ้นห้องไปทำแผลก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวสิ แล้วไปโดนอะไรมา” คุณมิยาวากิเรียกลูกสาวของเขาไว้ เธอหันกลับมามุมปากที่แตกจากการถูกทำร้ายเมื่อครู่มีเลือดสีข้นไหลออกมา เธอยิ้มออกมาก่อนจะตอบกลับผู้เป็นพ่อว่า
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พอดีโดนพวกพยาธิที่มันชอบสูบเลือดสูบเนื้อคนอื่น วันๆพวกพยาธินี่ก็ไม่ได้ทำอะไรสงสัยมันชักเบื่อมันก็เลยมากัดหนูน่ะค่ะ”
มาโมรุที่หลังจากไปล้างรูปจากร้านแล้ว เขาแยกรูปใบที่มียูกิไว้อีกอัลบั้มหนึ่ง ก่อนจะนั่งเปิดูรูปของหญิงสาวซ้ำไปซ้ำมา พร้อมกับยิ้มให้กับหญิงสาวคนที่อยู่ในภาพ
เขาอยากเห็นเธออยู่ในสายตาตลอดเวลา อยากได้ยินเสียงเธอพูดหรือหัวเราะเวลาอยู่กับเขา อยากเดินข้างๆเธอในทุกๆที่ที่เธออยากจะไปและทุกครั้งที่เขาอยู่ใกล้เธอหัวใจของเขามันไม่เคยรักดีเลยสักครั้ง
‘เจอกันคราวหน้าผมจะบอกความรู้สึกนี้กับคุณ…ช่วยตอบรับความรู้สึกของผมด้วยเถอะนะครับยูกิซัง’
—————————————————————–
คอมบังวะ ผมยังไม่ตายครับ เฮ้~
เพิ่งรู้สึกว่าดองเรื่องนี้มานาน ถ้าเป็นไปได้ผมจะเอาตอนจบมาลงพรุ่งนี้นะครับ
เฮ~!! ในที่สุดน้องชายก็มาลงตอนที่สองแล้ว
ฝนเหมาะกับพี่กิรินมากจริงๆ เนื้อเรื่องเข้ากับฤดูนี้ที่ฝนกำลังตกด้วย
ตอนนี้นึกภาพตามแล้วโรแมนติกแบบเย็นๆชื่นฉ่ำแฮะ
มาโมย้วยสุภาพบุรุษสุดๆ จนนึกอยากกอดแล้วหอมแก้มสักฟอด //โดนย้วยถีบ
ตอนหน้าเป็นตอนสุดท้ายแล้วสินะ น้องชายสู้ๆ
ปล. เกลียดยัยเมียน้อย บังอาจมาตบพี่กิรินผู้น่าสงสาร
มาโมรุคงคนดี~
รีบสารภาพเร็วๆนะ