{SF} 君と僕の関係 10 [JURINA x HARUNA] (Danso)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Intro

 

 

 

 

 

 

 

01 l 02 l 03 l 04 l 04.5

 

05 l 06 l 07 l 08 l 09 l 10

 

 

 

 

 

 

 

“เธอต้องแต่งงานนะ”

 

ห๊ะ? อะไรคือการที่จู่ๆคุณนายโคจิมะเข้ามาหากันถึงที่ทำงานหลังจากหายหน้าหายตาไปถึงสามวัน แล้วเข้ามาบอกกันว่าต้องแต่งงาน นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย

 

“หนูไม่เข้าใจค่ะ”

 

“ปีนี้อายุเธอก็ปาเข้าไป 28 แล้ว ควรจะแต่งงานมีหลานให้ฉันอุ้มได้แล้ว ไม่ใช่ทำตัวลอยชายควงคนนู้นคบคนนี้เป็นว่าเล่น”

 

“ไม่แต่งค่ะ หนูเข็ดกับการแต่งงานแล้ว”

 

“ก็ฉันกับพ่อเธอเตือนแล้วว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นมันไม่ดี เธอก็ยังดื้อด้านค้านหัวชนฝาจะแต่งให้ได้”

 

“…………” คนลูกได้แต่เงียบ ใช่ เธอเคยแต่งงานมาแล้วรอบนึง และมันก็ไปได้ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ สุดท้ายก็จบลงที่การเลิกลาและกลับมาอยู่บ้านใช้ชีวิตเป็นสาวโสดตามเดิม

 

“ฉันก็ไม่อยากจะขุดเรื่องนี้ขึ้นมาพูดหรอกนะ แต่ถ้าเธอเชื่อฟังฉันซักนิดก็ไม่ต้องทนเจ็บปวดกับเรื่องแต่งงานหรอก คราวนี้ฉันบอกให้แต่ง เธอก็ควรแต่ง เพราะผู้ชายที่ฉันหามาให้เธอน่ะ ดีแท้ร้อยเปอร์เซ็นแน่นอน”

 

“แต่คุณแม่คะ-“

 

“ไม่มีแต่ ฉันแค่มาบอกเธอไม่ได้มาถามความคิดเห็น”

 

“แต่หนูกับเค้าเราไม่รู้จักไม่เคยเห็นหน้ากันเลยนะคะ”

 

“ลูกชายบ้านมัตสึอิไง เมื่อก่อนก็เจอกันบ่อย ตอนนั้นเธอก็มัวแต่หลงผู้ชาย”  

 

“มัตสึอิ?”

 

“ใช่ มัตสึอิ จุนคุง ทายาทของมัตสึอิกรุ๊ป ลูกชายคนเดียวของยูมิโกะจัง เพื่อนรักตั้งแต่สมัยเรียนของฉันเอง อีกอย่างเป็นหลานของอดีตท่านเอกอัคราชทูตด้วย  เรียนจบจากเมืองนอกเมืองนา หน้าตานี่หล่อเหลาเอาการ กิริยามารยาทงดงามสมกับเป็นลูกหลานผู้ดี หุ่นนี่สมาร์ทมาดแมนสูงโปร่ง ไม่เหมือนผัวเก่าเธอ ทั้งเตี้ยทั้งกวนประสาท”

 

“เลิกพูดถึงยูซักทีเถอะค่ะ ถ้าเขาดีขนาดนั้น คุณแม่ไม่แต่งเองล่ะคะ อีกอย่างลูกชายบ้านนู้น อ่อนกว่าหนูอีกไม่ใช่หรอคะ”

 

“ฉันไม่แต่งหรอกเดี๋ยวพ่อเธอเสียใจ ฉันคุยกับยูมิโกะเรียบร้อย และทางนั้นเค้าก็เห็นดีเห็นงามไม่ได้รังเกียจที่เธอเคยแต่งงานมาก่อน เพราะฉะนั้นเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวได้เลย”

 

“คุณแม่…”

 

มาแจ้งข่าวเสร็จ คุณนายโคจิมะก็เดินออกจากห้องไปทันที ทิ้งความกดดันทั้งหมดไว้ให้ลูกสาวเพียงคนเดียวอย่าง โคจิมะ ฮารุนะ

 

การแต่งงานมันจะไปรอดมั้ยนะ เธอกลัวเหลือเกิน กลัวว่าประวัติศาสตร์มันจะซ้ำรอย

 

 

 

 

 

 

มาหย่อนเรื่องใหม่อีกแล้ว~

จูเนี๊ยงๆ เลิฟๆ

จากเรื่องนั้นก็มาต่อกับเรื่องนี้ ชอบอ่ะ ถึงคู่จะแปลกแต่ชอบบบบบบ

รอค่าาาาา

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด คู่ดูเอลใหม่>>โดนตบ
ช่วงนี้จูเจอแต่นางเอกมีอายุแฮะ>> ตบรอบสอง

ฮารุนะมาเป็นแม่หรือเป็นเมียคะ อายุน็อครอบกันได้เลย

อู้วววววว~ เหมือนไม่เคยเจอคู่นี้มาก่อนเลย ตื่นเต้น!!!
อายุต่างกันเกือบ10ปีเลยรึเปล่าคะ??

(รูปประกอบน้องจูหล่อมากค่ะ ทำไมเวลาดันโซไม่ทำผม แต่งตัวดีๆกะเขาบ้างงง)

สงสัยฮารุนะ จะได้ลูก มากกว่าสามีนะ = =” /// นึกภาพไม่ออกเลยแฮะ
ถึงจะเคยเห็น จูรินะชอบไปคลอเคลียฮารุนะ บ่อยๆ ก็เถอะ

ท่านทูต!!

ฮารุนะได้เลี้ยงลูกล้าาาา 55555555

จุนคุงหล่อ น่ารัก ใสๆ รค่ะ

จูเนี๊ยงๆ เลิฟๆ

01

 

งานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างหรูหราที่โบสถ์ในเขตมินาโตะ แขกเหรื่อผู้มีเกียรติต่างมาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างล้นหลาม รวมทั้งสำนักข่าวที่ให้ความสำคัญกับงานแต่งของทายาทตระกูลดังอย่างมัตสึอิ จุน และโคจิมะ ฮารุนะทายาทโรงแรมดังที่พ่วงตำแหน่งนางแบบสุดฮอตด้วย

 

หลังปฏิญาณตนกับบาทหลวงว่าจะดูแลกันและกันไปตลอดจนชั่วชีวิต ทั้งคู่จึงสวมแหวนให้กันท่ามกลางสักขีพยานมากมาย และก็จบพิธีโดยการที่เจ้าสาวโยนช่อดอกไม้ให้กับหญิงสาวโสดในงาน และปิดท้ายด้วยงานเลี้ยงฉลองแต่งงานที่ถูกจัดขึ้นที่โรงแรมของตระกูลโคจิมะในช่วงค่ำ

 

“ฮารุนะ ฉันไม่รู้มาก่อนเลยนะเนี่ยว่าเธอคบกับมัตสึอิซังจนถึงขั้นแต่งงาน” เพื่อนคนหนึ่งกล่าว หลังจากที่ฮารุนะแยกตัวออกมาจากจุนหลังจากที่เดินร่วมถ่ายรูปกับญาติผู้ใหญ่คนอื่นในงานเรียบร้อยแล้ว คราวนี้จึงถึงเวลาที่เธอจะได้แยกออกมาพักต่างหากเสียที

 

พอเจอคำถามนี้เธอก็ไม่รู้จะบอกกับเพื่อนสาวยังไงดี ว่าเธอพึ่งจะเจอหน้าเจ้าบ่าวครั้งแรกเมื่อวานตอนถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง ถึงแม้คุณนายโคจิมะจะบอกว่าเธอกับเขาเคยเจอกันมาก่อนตามงานสังคมอื่นๆที่เธอไปร่วมกับแม่แล้วก็ตาม แต่ก็คงเป็นการเจอกันผ่านๆ เพราะเธอนึกใบหน้าเขาไม่ออกเลย ได้พบหน้ากันชัดๆก็เมื่อวานแหละ ถึงได้รู้ว่าเขาก็หล่อเอาการเหมือนกัน

 

“อ่าวเงียบ อุบอิบไม่บอกเพื่อนฝูงกันเลยนะ มาบอกอีกทีก็งาบผู้ชายสุดฮอตไปครอบครองไว้คนเดียว ไม่เปิดโอกาสให้หญิงอื่นได้พิชิตใจอีกเลย”

 

“ก็…เรื่องนี้มันพูดยากอะนะ” ฮารุนะบอก

 

“จ้าๆ แม่สาวฮอต ไหนๆก็ได้เขาไปครองแล้วก็ช่วยดูแลเขาดีๆด้วยนะ เพราะถ้าเธอปล่อยให้เขาหลุดออกมาล่ะก็ รับรองได้เลยว่าจะมีผู้หญิงอีกเป็นร้อยพร้อมจะรุมแย่งเขาไปดูแลต่อแน่ๆ”

 

“อย่าให้พลาดนะจ๊ะคุณเพื่อน” แล้วสาวๆก็พากันหัวเราะอย่างขำขัน

 

“เขาฮอตขนาดนั้นเลยหรอ?” ดูจากที่เพื่อนๆเธอพูดถึงจุนในทำนองเสียดายแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ ทำไมเธอไม่ยักรู้จักเขาเลยนะ เจอกันครั้งแรกก็ไม่เห็นเขาจะพูดหรือท้วงอะไรสักคำออกจะเป็นคนเงียบขรึมติดไปทางเย็นชาเสียด้วยซ้ำ

 

“แหงสิ ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลา กับฐานะทางบ้านก็กินขาดแล้ว คือแบบ ทั้งหล่อทั้งรวยแถมยังนิสัยดีไม่มีข่าวเสียหายเรื่องผู้หญิงด้วยนะ วางตัวดีสุดๆ ด้วยนิสัยเงียบขรึมของเขาทำให้ผู้หญิงหลายคนอยากจะเข้าไปค้นหากันหลายคนเลยแหละ” หรอ… ไม่มีข่าวกับผู้หญิงนี่เป็นเกย์หรือเปล่า ฮารุนะเห็นเพื่อนเธอเพ้อๆก็ไม่ค่อยอยากจะขัด ผู้ชายไม่ค่อยพูดนี่มีเสน่ห์ขนาดนั้นเลยหรอ

 

“หล่อนไปอยู่ไหนมายะ ถึงไม่รู้จักเขาเนี่ย”

 

“ใช่ๆๆ เป็นหนุ่มน้อยวัยขบเผาะกำลังน่าเคี้ยวด้วย เสียดายที่เขาแต่งงานเร็วไป เห้อออ”

 

“อย่ามองฉันด้วยสายตาอย่างนั้นกันสิ” เพื่อนๆทุกคนหันมามองราวกับเธอเป็นตัวมารขัดขวางความสุขงั้นแหละ

 

“ชิ ก็เธอได้เขาไปครองมันก็มีหมั่นไส้แหละ”

 

“ใช่ ถึงหมั่นไส้ยังไงแต่ก็ยินดีกับเธอด้วยนะ คราวนี้ขอให้เธอสุขสมหวังกับการใช้ชีวิตคู่”

 

“อย่าให้เหมือนผัวเก่าล่ะ”

 

.

.

.

 

หลังเสร็จสิ้นงานเลี้ยงช่วงค่ำตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาจนเกือบตีหนึ่ง ทั้งฮารุนะและจุนต่างก็เข้ามายังเรือนหอที่ตระกูลมัตสึอิสร้างไว้ให้เป็นเรือนหอของลูกชายโดยเฉพาะ คุณพ่อคุณแม่ของทั้งคู่กลับไปแล้วหลังจากฝากฝังกันไปเรียบร้อย ตอนนี้จึงเหลือแค่เพียงเธอกับจุนเท่านั้น ทำให้บรรยากาศอึดอัดไปโดยปริยาย

 

“คือ….” ฮารุนะเม้มปากพยายามคิดคำที่จะพูดเพื่อทำลายบรรยากาศนี้ จุนเพียงแค่หันมามองแวบนึงแต่เขาก็ยังไม่ยอมปริปากพูดเหมือนกำลังรอฟังว่าเธอจะพูดอะไร

 

“ไม่ต้องห่วงครับ คุณนอนห้องใหญ่เดี๋ยวผมนอนห้องเล็กถัดไปเอง ดึกแล้วรีบอาบน้ำพักผ่อนนะครับ” เขาว่าแล้วก็จากไป คือ เธอก็ไม่ได้หมายความว่าจะแยกห้องนอนแบบนั้น แน่ล่ะไอ้เรื่องอย่างว่านั้นเธอก็เตรียมใจมาแล้วเพราะยังไงก็ถือว่ามันเป็นหน้าที่ของภรรยา แต่เขามาบอกให้แยกห้องอย่างนี้ ใจนึงก็ดีใจที่อย่างน้อยก็ยังได้ใช้ชีวิตแบบส่วนตัว แต่อีกใจนึงก็แอบเศร้าหรือเธอไม่มีเสน่ห์พอสำหรับเขา

 

เสียเซลฟ์นิดหน่อยแฮะ

 

“ก็ดี ถ้าอยากได้ฉันขึ้นมา ถ้าไม่เอ่ยปากขอจะไม่มีทางให้เลย ชิ…..เอ่…หรือว่าเขาจะเป็นเกย์นะ” บ่นพึมพำอยู่คนเดียวก็เดินเข้าห้องไปเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำจะได้นอนพักผ่อนเสียที งานนี้ยืนทั้งวันเหนื่อยจนจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว

 

 

 

.

.

.

 

-ก๊อกๆ-

 

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ฮารุนะที่ยังไม่ได้จัดการธุระของตัวเองเพราะมัวแต่ล้างเครื่องสำอางออกจากใบหน้ามองไปยังต้นตอของเสียงจึงเห็นว่ามีประตูเล็กภายในห้องเชื่อมกับอีกห้องนึงอยู่ พึ่งจะรู้นะเนี่ย แล้วก็ลุกเดินออกไปเปิดประตู

 

“โอ้ว” ฮารุนะเผลออุทานออกมากับภาพตรงหน้า จุนที่อยู่ในสภาพเปลือยกายท่านบน มีผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวปิดส่วนล่างไว้ ผมที่สระหมาดๆยังไม่ทันได้เช็ดให้แห้งทำให้หยดน้ำไหลเกาะตามตัว ทำให้จุนดูเซ็กซี่ในแบบผู้ใหญ่จริงๆ ภายนอกดูเป็นผู้ชายตัวบางไม่คิดว่าภายใต้ร่มเสื้อจะมีกล้ามท้องชวนน่าสัมผัสขนาดนี้

 

ฮารุนะเผลอใช้สายตาสำรวจร่างกายจุนตั้งตัวแต่หัวจรดเท้าโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้จุนเขินอายไม่น้อย หากฮารุนะสังเกตุสักนิดก็คงจะเห็นว่าใบหูของเขานั้นแดงมากขนาดไหน

 

“คือ ห้องนู้นไม่มีเสื้อผ้าเลย ผมขอเข้าไปเปลี่ยนชุดหน่อยนะครับ”

 

“อ่อ เชิญค่ะ” พอเขาพูดเธอถึงได้สติว่าเผลอตัวมองเขาไปตั้งนาน น่าอายชะมัด

 

เขาเดินเข้ามาแล้วก็หายไปยังห้องแต่งตัว เธอยืนรอเขาสักพักเขาก็ออกมาหลังจากเปลี่ยนเป็นชุดนอนเรียบร้อยพร้อมกับชุดทำงานมากมายที่เขาหอบไว้เต็มแขน

 

“ผมจะได้ไม่รบกวนฮารุนะซัง เวลาที่ผมต้องตื่นเช้าไปทำงานครับ” เขาบอกทั้งๆที่เธอยังไม่ได้ถาม เธอแค่ยิ้มให้เขา แล้วเขาก็ยิ้มพร้อมกับเอ่ยราตรีสวัสดิ์ด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำฟังดูนุ่มนวลชวนเคลิ้ม อืม.. ตอนนี้เธอชักกลัวแล้วว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายทนไม่ไหวแล้วไปขย้ำชายหนุ่มแทน นี่สินะเสน่ห์เฉพาะตัวของหนุ่มเงียบขรึม หรือเพราะหุ่นเขากันแน่

 

-ก๊อกๆ-

 

เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นอีกครั้ง แต่ไม่ใช่จากชายหนุ่ม คราวนี้เป็นฮารุนะเองที่มาเคาะประตูห้องที่เชื่อมกับห้องของเขา จุนมาเปิดด้วยใบหน้าที่งุนงง ตอนแรกเธอก็คิดว่าเขาคงหลับไปแล้วแต่ก็อยากลองเสี่ยงมาเคาะประตูดู และผลก็ออกมาที่เขายังไม่หลับ

 

“ยังไม่นอนใช่มั้ยคะ”

 

“อ่า ครับ” เขาพยักหน้า

 

“จะรบกวนมั้ย ถ้าฉันจะขอให้คุณช่วยเป่าผมให้หน่อย” หญิงสาวถามพร้อมกับชูไดร์เป่ากับหวีในมือ จุนเหลือบตามองนิดนึงพร้อมกับเปิดประตูให้กว้าง เพื่อให้หญิงสาวเดินเข้ามาในห้องได้อย่างสะดวก

 

ฮารุนะเดินวนรอบห้องของชายหนุ่มเพื่อมองหาว่าตรงไหนมีปลั๊กพอจะเสียบเจ้าไดร์เป่าผมได้บ้าง และก็พบว่ามีปลั๊กอยู่ตรงหัวเตียงที่เสียบโคมไฟอยู่ ฮารุนะไม่รอช้าก้มเสียบปลั๊กและนั่งลงบนเตียงทันที พร้อมกับตบเตียงให้ชายหนุ่มมานั่งข้างๆแล้วยื่นหวีกับไดร์ให้

 

“ฝากด้วยนะคะ” จากนั้นก็นั่งหันหลังให้เขา

 

จุนรับหวีกับไดร์มาและเริ่มใช้มันอย่างรู้งาน เขาจับผมของฮารุนะอย่างเบามือแล้วใช้หวีสางมันพร้อมกับใช้ไดร์เป่าผมสะบัดมันไปมา ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบที่ไร้บทสนทนาอีกครั้ง จะมีก็แต่เสียงการทำงานของไดร์เป่าผมเท่านั้น

 

“จุนคุง….เรียกอย่างนี้ได้มั้ย” ผ่านไปเกือบห้านาทีฮารุนะจึงเป็นฝ่ายพูดก่อน

 

“อะไรนะครับ?”

 

“ก็คุณอายุน้อยกว่าฉัน เรามาพูดแบบไม่เป็นทางการดีมั้ย จะได้ลดความอึดอัดนี้ไป”

 

“ครับ”

 

“เธออายุเท่าไหร่จุนคุง”

 

“24 ครับ”

 

“อืมมมม อ่อนกว่าสี่ปีเลยหรอ”

 

“………”

 

“แล้วเธอไม่อยากรู้อะไรเกี่ยวกับตัวฉันหรอ ถามได้นะ”

 

“อาหารโปรดของฮารุนะซังคืออะไรฮะ”

 

“ปู! ชอบที่สุดเลย พูดแล้วก็อยากกินขึ้นมาเลย” จุนอมยิ้มขำที่เห็นท่าทางเวลาที่ฮารุนะพูดถึงเนื้อปูมันช่างดูน่ารักไร้เดียงสาราวกับเด็กมัธยมซึ่งมันขัดกับอายุจริงอยู่มาก แต่หญิงสาวก็คงจะไม่ได้เห็นรอยยิ้มนั้นเพราะเธอนั่งหันหลังให้เขาอยู่

 

“แล้วเธอล่ะชอบอะไรไม่ชอบอะไร”

 

“ผมชอบกินพาสต้ากับพิซซ่าฮะ และผมกินเผ็ดไม่ได้”

 

“นอกเหนือจากของกินสิ”

 

“อ่า…ผมชอบเล่นกีฬาครับอย่างฟุตบอลกับสนุกเกอร์”

 

“จริงหรอ? หน้าตาดูไม่ให้เลยนะเนี่ย ฮ่าๆๆ” แม้ว่าเธอจะพยายามชวนชายหนุ่มคุยถามตอบกันเท่าไหร่ดูเหมือนจะมีแค่เธอเท่านั้นที่เป็นฝ่ายถามอยู่คนเดียว จนกระทั่งเขาเป่าผมให้เธอเสร็จ

 

“เธอทำได้ดีเหมือนกันนะเนี่ย คงทำให้ผู้หญิงบ่อยสินะ” ฮารุนะเอ่ยแซวพร้อมกับเหล่ตามองเขาไปด้วย เห็นเขาเกาท้ายทอยอย่างอายๆก็พอจะรู้คำตอบแล้วล่ะว่าคงจะเคยทำให้ผู้หญิงคนอื่นมาก่อน อาจจะเป็นแฟนเก่าของเขาก็ได้ เธอไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ หล่อๆอย่างนี้หากไม่ผ่านการมีแฟนมาก่อนคงจะเป็นเรื่องแปลก

 

“ก็…นิดนึงแหละครับ”

 

“แฟนเก่าล่ะสิ เอาเถอะ ขอบใจมากนะ คราวหลังจะมาใช้บริการอีก” ฮารุนะว่าพร้อมกับยิ้มหวานให้เขาอีกทีนึงก่อนจะเก็บของแล้วเดินกลับห้องเธอไป โดยที่มีจุนเดินมาส่งถึงประตูเชื่อม เราบอกลากันด้วยคำว่าราตรีสวัสดิ์แล้วแยกย้ายกันไปนอน

 

และค่ำคืนแรกของการแต่งงานก็ผ่านพ้นไป โดยไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ

 

.

.

.

 

ช่วงเวลาสายของวันถัดมาความเมื่อยล้าที่สะสมมาจากเมื่อวานทำให้วันนี้ฮารุนะตื่นสายกว่าปกติ บ้านช่างเงียบเหงาไร้เงาคนอยู่จริงๆ สงสัยจังว่าจุนหายไปไหน ฮารุนะเดินลงมาข้างล่างมุ่งตรงไปยังครัวเพื่อดื่มน้ำเปล่าสักแก้ว ก็เห็นมีจานอาหารถูกแรปด้วยซีลอย่างดี บนนั้นมีโพสอิทแปะไว้ด้วย เธอยังไม่ได้ดูว่ามันคืออะไร ตอนนี้ขอดื่มน้ำก่อนแล้วกัน

 

รินน้ำเปล่าใส่แก้วแล้วจึงหันมาสนใจจานอาหารนั่นเธอดึงกระดาษโน้ตขึ้นมามีลายมือหวัดๆถูกเขียนไว้ด้วยหมึกสีดำ นี่คงเป็นลายมือจุนสินะ

 

ขอโทษด้วยนะครับที่ไม่มีปู แต่ผมทำอย่างอื่นไว้ให้

หวังว่าคงจะพอทดแทนได้

วันหลังจะพาไปทานเนื้อปูอร่อยๆเป็นการไถ่โทษ

 

ผมออกไปทำงานแล้ว ตอนเย็นจะกลับเข้ามารับไปทานข้าวกับคุณแม่

ท่านอยากเจอคุณมาก แล้วเจอกันนะครับ

 

มัตสึอิ จุน

 

หญิงสาวอมยิ้มกับข้อความนั้น ที่ถามว่าชอบกินอะไรเพราะจะทำมื้อเช้าให้นี่เอง ฮารุนะวางโน้ตลงแล้วแกะเอาพลาสติกใสที่พันรอบจานออกก็พบกับครัวซองหนึ่งชิ้นวางอยู่ตางกลางและมีผักนานาชนิดที่มีน้ำสลัดใสราดทับอีกทีนึงอยู่ตรงมุมของจาน เป็นเมนูธรรมดาแต่เธอกลับรู้สึกว่ามันน่ากินขึ้นมาเป็นร้อยเท่า

 

น่ารักจริงๆ

 

ฮารุนะเดินกลับขึ้นไปบนห้องและกลับลงมาพร้อมกับสมาร์ทโฟนคู่ใจ จัดการถ่ายมันและอัพลงโซเชียลมีเดียอย่างอินสตราแกรม

 

มื้อแรกหลังแต่งงาน  ❤ #สามีทำให้

 

.

.

.

 

ไม่อยากจะคิดว่าในชีวิตนี้จะได้มีโอกาสแต่งงานถึงสองครั้ง ถึงแม้ครั้งนี้จะถูกจับให้แต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รักก็ตาม เพราะความผิดพลาดจากการแต่งงานครั้งแรกทำให้เธอเข็ดหราบในการรักใครสักคน แต่ก็ไม่อาจขัดขืนคุณนายได้ หรือเพราะความดื้อดึงเอาแต่ใจแบบเด็กๆมันหายไปแล้วตามอายุที่โตขึ้น จึงทำให้เธอตัดสินใจแต่งงานอีกครั้งตามคำสั่งของคุณแม่

 

แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ดีเกินคาดเสียด้วยซ้ำ

 

ฮารุนะเดินสำรวจรอบบ้านไปพลางๆระหว่างที่รอจุนมารับ หญิงสาวหยิบกรอบรูปที่มีจุนสวมชุดนักกีฬาฟุตบอลกอดคอกับเพื่อนกันสามคนโดยมีเขาอยู่ตรงกลาง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มกว้างจนเห็นฟันครบทุกซี่ของเขามันทำให้เธอต้องยิ้มตาม เธอไม่เคยเห็นเขายิ้มมาก่อน พอยิ้มแล้วเขาดูน่ารักเหมือนเด็กเลย

 

-ครืด ครืดด-

 

เสียงสั่นจากโทรศัพท์มือถือทำให้เธอต้องวางกรอบรูปลงแล้วหันมาสนใจสิ่งที่กำลังสั่นอยู่บนโต๊ะ เบอร์แปลกด้วย รับดีมั้ยนะ ฮารุนะลังเลใจอยู่ครู่นึง แต่สุดท้ายก็กดรับเพราะกลัวจะเป็นเบอร์จุนโทรเข้ามา

 

“สวัสดีค่ะ”

 

(ฮัลโหลๆ ฮารุนะนี่เธอแต่งงานจริงๆหรอ?) ปลายสายเอะอะโวยทันทีที่เธอกดรับสาย ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าใคร เธอจำเสียงผู้ชายคนนี้ได้แม่น โอชิมะ ยู สามีเก่าเธอเอง

 

“ใช่ ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละ”

 

(เฮ้ เธอทำอย่างนี้ได้ยังไง เธอก็รู้ว่าผมว่ากำลังพยายามง้อเธออยู่นะ)

 

“ง้อฉันไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นไป แบบนั้นเรียกว่าง้อหรอ”

 

(ไม่ใช่นะ ที่ผมทำอย่างนั้นเพราะเธอไม่ยอมคืนดีด้วยต่างหาก เธอก็รู้ฮารุนะ ว่าผมยังรักคุณอยู่ จะให้อภัยกันไม่ได้เลยหรอครับ) เขาพูดเสียงอ่อย เป็นอย่างนี้ทุกครั้งตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอจับได้ว่าเขานอกใจ แรกๆก็ให้อภัยเพราะเธอรักเขามาก แต่มันก็เกิดขึ้นแบบนี้ซ้ำๆจนเธอทนไม่ไหวขอหย่าจริงจัง แต่เขาก็ตามมาง้อ พอไม่สำเร็จก็เริ่มก่อกวนแล้วก็เงียบหายไปเพราะเขาไปติดผู้หญิงคนใหม่ อีกซักพักก็จะกลับมาหาเธออีกรอบ เป็นอย่างนี้มาเรื่อยๆจนเวลาผ่านมาสี่ปี

 

“เก็บคำพูดพวกนี้ไว้ใช้กับผู้หญิงคนอื่นเถอะ แล้วนี่ก็ยังอุตส่าห์พยายามหาเบอร์ใหม่โทรมาจนได้นะ” แน่ละว่าเธอเคยเปลี่ยนเบอร์หนีเขาจนเพื่อนๆด่าที่เธอเปลี่ยนเบอร์บ่อย จนต้องมาจัดการบล็อคตัวต้นทุกช่องทางแทน เขาก็ยังพยายามหาเบอร์และโทรหาเธอจนได้

 

(แหงล่ะ เห็นความพยายามของผมหรือยัง นี่ผมตามง้อมาสี่ปีเลยนะ)

 

“เหอะ เลิกมาวอแวกับฉันซะ เพราะยังไงฉันก็ไม่กลับไปหานายแล้ว อีกอย่างสามีใหม่ของฉันเขาเป็นคนดีมากกกกก ดีกว่านายร้อยเท่าพันเท่า”

 

(ดีกว่าพันเท่าแต่มันรักเธอเท่าผมไหมล่ะ อีกอย่างผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบคนเลว ผมรู้นะว่าเธอก็ยังรักผมอยู่ เธอแค่อยากเล่นตัวเพราะชอบที่ผมตามง้อใช่มั้ยล่ะ)

 

“นายไปเอาความมั่นใจขนาดนั้นมาจากไหน ฉันเลิกรักนายไปตั้งนานแล้ว อีกอย่างฉันเป็นผู้หญิงส่วนน้อยที่ชอบคนดี และฉันก็รักสามีใหม่ฉันมากกก” ฮารุนะเบะปากอย่างหมั่นไส้ เธอยกจุนมาอ้างให้ยูเข้าใจว่าเธอรักสามีคนใหม่มากถึงยอมแต่งงานด้วย ถึงตอนนี้จะยังไม่รักก็เถอะ แต่อนาคตมันก็ไม่แน่

 

(ไม่จริง! คอยดูนะ ผมจะทำให้เธอทั้งคู่เลิกกันให้ได้ ยังไงเธอก็ต้องคู่กับผม!)

 

“ฝันไปเถอะย่ะ ไม่ต้องโทรมาอีกนะ บาย” ฮารุนะตัดสายทิ้งพร้อมกับบล็อคเบอร์เขาเรียบร้อย อีกฝ่ายคงหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่อะไรก็ไม่ได้ดั่งใจแล้วสุดท้ายก็หนีไปหาผู้หญิงคนใหม่อยู่ดี ยอมใจในการหาเบอร์โทรมาก่อกวนเธอจริงๆ

 

อย่างน้อยเธอก็ค้นพบข้อดีของการแต่งงานใหม่ กันสามีเก่ามาก่อกวนได้ในระดับนึง

 

แล้วจุนเมื่อไหร่จะมาเนี่ย

 

.

.

.

 

“ขอโทษที่มาช้าครับ พอดีผมมีประชุมนิดหน่อย” เขาเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง พลันใบหน้าที่เขายิ้มกว้างจากที่เธอเห็นในรูปก็ผุดขึ้นมาในหัว เธออยากเห็นเขายิ้มแบบนั้น มันคงจะดีกว่าตีหน้านิ่งแบบนี้

 

ชอบทำหน้าขรึมมันทำให้เธอหมั่นไส้นิดหน่อยแฮะ

 

เขาผายมือเชิญให้เธอขึ้นรถ Mercedes-Benz  Coupe  สีดำ ที่ประตูถูกเปิดรอไว้อยู่แล้ว มารยาทดีสมกับเป็นคุณชายของตระกูลมัตสึอิจริงๆ ไม่รู้ว่าจะเอาใจใส่แค่ช่วงแรกๆหรือเปล่า ก็ต้องคอยดูกันไปล่ะนะ

 

รถเคลื่อนตัวออกไปช้าๆ หญิงสาวหันไปมองคนขับที่ตั้งใจมองทิศทางด้านหน้า จนทำให้เธอถอนหายใจออกมา เอาตรงๆมันก็อึดอัดนิดหน่อยนะ ที่เราสองคนยังไม่รู้จักกันดีพอ นิสัยใจคอเป็นยังไง ภายนอกดูสุภาพเรียบร้อยแต่ลึกๆอาจจะเจ้าชู้ประตูดินสุดๆไปเลยก็ได้ ผู้ชายแบบนี้แหละที่ผู้หญิงชอบเข้าหานัก ถ้าเป็นอย่างนั้นชีวิตเธอคงย่ำแย่สุดๆแน่

 

“อืม…จะว่าไปเราก็ยังรู้จักกันไม่ดีพอเลยเนอะ” เธอว่าแล้วพลางหันไปมองหน้าเขา เขาหันมามองเธอแวบนึง เหมือนจะรอฟังว่าเธอจะพูดอะไรแล้วก็หันกลับไปตั้งใจขับรถต่อ

 

“นั่นสินะครับ คุณอาจจะอึดอัดที่ต้องมาแต่งงานกับผม” จุนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ทำให้ไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าเขากำลังรู้สึกอย่างไรกับประโยคนั้น หญิงสาวเองก็ไม่ค่อยเก่งในเรื่องเดาใจใครซะด้วยสิ

 

“ไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย” ถึงจะรู้สึกแบบนั้น แต่จะให้พูดออกไปมันก็คงไม่ดีแน่ๆ “ก็แค่ เรามาทำความรู้จักกันจริงๆดีมั้ย คือ..ฉันแค่อยากลดระยะห่างระหว่างเราน่ะ”

 

“ได้สิครับ”

 

“ปกติเป็นคนพูดน้อยอย่างนี้อยู่แล้วหรอ หรือแค่ไม่อยากคุยกับฉัน”

 

“เปล่านะครับ” เขารีบตอบทันควันแล้วหันหน้ามามองทางเธอนิดนึง ก่อนจะหันไปกลับไปตั้งใจขับรถต่อ  “ผมก็แค่…คุยไม่เก่ง”

 

“หรออออ~” หญิงสาวจงใจลากเสียงให้ยาวเพื่อเอ่ยล้อชายหนุ่ม เขาว่าผู้ชายพูดไม่เก่งคือผู้ชายขี้อาย พอจุนหันหน้ามา เธอจึงส่งยิ้มหวานให้เขาชนิดที่ใครเห็นก็คงอยากจับจูบสักครั้ง และผลที่ได้ก็คือเขารีบหันหน้าหนีทันที ทำเป็นมองรถข้างทาง น่ารักจริงๆเลยน้าาา~

 

“จะว่าไป จุนคุงนี่ก็อึดจังเลยนะ ขนาดว่าเมื่อคืนพึ่งผ่านงานแต่งงานมาหมาดๆยังอุตส่าห์ตื่นแต่เช้าเพื่อไปทำงานอีก ขนาดฉันยังนอนตื่นเกือบเที่ยงแหนะ” หากคนอื่นมาได้ยินประโยคนี้คงต้องเข้าใจว่าเมื่อคืนเธอกับคงจะฟาดฟันกันบนเตียงจนเช้าแล้วเขายังมีแรงลุกไปทำงานต่ออีก ซึ่งเอาจริงๆ เธอก็แค่หมดแรงจากงานแต่งที่ต้องยืนบนส้นสูงตั้งแต่เช้ายันดึกก็แค่นั้นเอง

 

“ผมต้องรีบเคลียร์งานน่ะครับ”

 

“ขยันแบบนี้ท่านประธานต้องให้โบนัสชิ้นโตแน่ๆ” เธอหมายถึงพ่อของเขาน่ะ

 

“ผมไม่ได้ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนนะฮะ”

 

“อ้าว ไม่ได้บริหารงานในเครือมัตสึอิกรุ๊ปหรอกหรอคะ” เธอก็คิดว่าเขาเป็นผู้บริหารเสียอีก ก็ตระกูลมัตสึอิทำธุรกิจตั้งหลายประเภท หลักๆก็คงเป็นบริษัทค้าน้ำมันรายใหญ่ของญี่ปุ่น

 

“ผมรับราชการครับ”

 

“ราชการ?”

 

“ครับ เกี่ยวกับกระทรวงต่างประเทศน่ะฮะ” ให้ตายสิ นี่เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสามีเธอจริงๆนั่นแหละ

 

“นึกว่ารับช่วงต่อจากมัตสึอิซังเสียอีก”

 

“ผมสานฝันต่อจากคุณปู่น่ะฮะ คือต้นตระกูลฝั่งคุณปู่ผมก็รับราชการมาตลอด แต่ก็มีคุณพ่อผมนี่แหละครับที่ไม่ยอมสานต่อ มาทำธุริจทางฝั่งครอบครัวคุณย่า ผมเลยสานหน้าที่นี้ต่อจากคุณปู่แทนคุณพ่อน่ะครับ”

 

“อือฮึ แล้วรู้มั้ยว่าฉันทำงานอะไร?” เธอถามทั้งที่ยังจ้องเขาอยู่ ตลอดเวลาที่คุยกันเธอยังไม่ยอมละสายตาจากใบหน้าเขาเลย และก็เห็นว่าเขาพยายามเลี่ยงไม่ยอมหันมาสบตากับเธอ ซึ่งมันแปลก ผิดวิสัย ปกติคนเราคุยกันก็ต้องมีหันมามองกันบ้างแหละ ถึงแม้จะขับรถอยู่ก็ตามเหอะ ขนาดจอดรอสัญญาณไฟจราจรเขายังไม่ยอมหันมามองเลย ใบหน้าเธอมันไม่น่ามองขนาดนั้นเลยหรือไงนะ

 

“คุณก็เป็นนางแบบไงครับ”

 

“รู้ด้วยหรอ”

 

“ฮะ ผมเคยเห็นอยู่”

 

“อืม จริงๆก็ไม่ได้เป็นนางแบบจริงจังอะไรขนาดนั้นหรอกนะ แค่ทำเวลาที่อยากทำเฉยๆน่ะ” แอบตกใจนิดหน่อยที่เขารู้ว่าเธอเป็นนางแบบ ถึงแม้จะรับเป็นจ็อบบางงานก็ตามเถอะ อีกอย่าง นานๆครั้งถึงจะรับงาน ไม่คิดว่าเขาจะได้เห็นมันด้วยซ้ำ

 

“ฮารุนะซังถ่ายรูปแล้วสวยดีนะครับ”

 

“แล้วตัวจริงไม่สวยหรอ”

 

“ห๊ะ อะไรนะครับ” เห็นเขาทำหน้าเหลอหลาแล้วก็แอบขำ เป็นครั้งแรกเลยนะที่ได้เห็นใบหน้าของเขาแสดงอารมณ์อื่นๆออกมานอกจากใบหน้านิ่งขรึม กับรอยยิ้มที่ดูเหมือนไม่ได้ยิ้มออกมาจากใจจริงในตอนที่เดินถ่ายรูปกับแขกเหรื่อในงานแต่งงานเมื่อวานน่ะ

 

“ฉันถามว่าตัวจริงไม่สวยหรอ”

 

“สะ สวยครับ” จากที่ยิ้มอยู่แล้วเธอก็ยิ่งฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิม

 

“เวลาเธอเขินแล้วน่ารักดีนะ”

 

“…………”

 

“ดูสิ ใบหูเธอแดงเถือกเลยล่ะ อ๊ายยย น่ารักจังเลย เวลาเขินแล้วหูแดงขนาดนี้เลยหรอเนี่ย” ยิ่งเธอเอ่ยชมว่าเขาน่ารัก ใบหูของจุนก็ยิ่งแดงเข้าไปใหญ่ ถึงแม้จะพยายามเก็บสีหน้าให้เรียบนิ่ง แต่ใบหูของเขาก็ยิ่งแดงเข้าไปอีก เป็นพวกเก็บความรู้สึกสินะ อย่างน้อยวันนี้ก็ได้รู้แล้วว่าเวลาเขาเขินใบหูจะแดง คราวหลังจะแกล้งให้เขินบ่อยๆเลย

 

“หลังแต่งงานแล้วจะถ่ายแบบต่อไหมครับ”

 

“หืม…ก็คงถ่ายต่อแหละ มันก็สนุกดีนะ คลายเครียดดี” อยู่ๆก็เปลี่ยนเรื่องกะทันหันเลยแฮะ สงสัยจะกลบเกลื่อนความอาย ยิ่งคุยกันก็ยิ่งรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้น่ารักจังเลยนะ ดูไม่มีพิษมีภัยดี แต่ก็ไม่แน่ว่าเขาอาจจะซ่อนเขี้ยวเล็บไว้ภายในก็ได้ ไม่ได้ๆ เธอห้ามหวั่นไหวง่ายขนาดนั้นนะ

 

“ยกเว้นถ่ายบิกินี่ได้ไหมครับ”

 

“ทำไมหรอ~” เธอถามเสียงยานคางพร้อมกับเอียงคอเล็กน้อย พยายามแอ๊บท่าให้ดูน่ารักที่สุด เธอเชื่อว่ายังไงซะเขาก็ต้องเห็นใบหน้าที่เธอแสดงออกตอนนี้แน่ และก็จริงดังคาดเพราะใบหูเขาเริ่มแดงออกมาแล้ว โธ่ อย่างกับหนุ่มน้อยพึ่งหัดมีความรักอย่างนั้นแหละ เป็นอย่างนี้ก็ยิ่งทำให้เธออยากแกล้งเขาเข้าไปอีก

 

“ก็…ฮารุนะซังแต่งงานแล้ว ผมก็ไม่อยากให้ภรรยาตัวเองต้องไปใส่ชุดว่ายน้ำอวดใครนี่ครับ”

 

“………” ทำเอาฮารุนะเงียบไปครู่นึง ตอบกลับอย่างนี้ผู้หญิงขี้แกล้งแบบเธอถึงงกับไปต่อไม่เป็นเลย พูดแบบนี้คือหวงหรอ หรือยังไง แต่ถึงยังไงก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายมันก็ดันเต้นไม่เป็นจังหวะไปซะแล้วสิ

 

“อืมมมม ขอยังไม่รับปากนะคะ”  และนั่นก็เป็นบทสนทนาสุดท้ายก่อนที่รถคันหรูจะเลี้ยวผ่านประตูรั้วทางเข้าที่มีสวนขนาดกว้างอยู่ทางเข้าหน้าบ้าน

 

อิจุนน่ารักอ่ะ
เหมือนนางจะชอบฮารุนะ? หรือเปล่าดูจากปฏิกิริยา
ช่างมันรีบฟัดกันซะนะรออุ้มหลานอยู่ หุหุ

ปล. อิจูกินกับใครก็อร่อย

จุนคุงน่าดูเอ็น….   

น่าร้ากกกกกกก > < /// ขอตบตีกับฮารุนะ แย่งจุนมาได้มั้ย //หลบ
::::::: จริงๆนะ คาเร็คเตอร์ จูรินะ เหมาะ เป็นหนุ่มน้อยร่าเริง มัดใจพี่สาว
อะไรประมาณนี้

ว้ายไดร์ผมเป็น ว้ายทำอาหาร ว้ายพูดน้อย ????? ตั้ลลั้คๆ ????
แต่นั่นสิคะ เกย์รึเปล่าคะเนี่ย

หรือว่าจุนคุงมีพี่สาว? ทำไมดูทำได้ทุกสิ่งอย่างงงง

สงสัยมากๆว่าจริงๆจุนชอบฮารูนะอยู่ก่อนแล้วใช่มั้ย!!! แน่ๆเลย~

น้องจุนนิสัยน่ารักน่าเอามาเลี้ยงไว้มากๆ
ชอบ ♡♡♡

โอ๊ยย แยกห้องทำไมคะ อยากทุบประตูทิ้ง>>ผิด
แต่เราชอบตอนจูไดร์ผมให้เนี๊ยงนะ มันละมุนดี ถึงจะคุยน้อยไปหน่อยก็เหอะ
เนี๊ยงนี่เห็นเด็กมันหูแดงเข้าหน่อยได้ทีแกล้งเลยนะเฮ้ยยยยยยยยยยยยยยย

อยากได้ลูกสาวววววววววว #รีบ

แลดูเป็นผช.ครบเครื่องเกย์ๆ ????